กรณีศึกษา MK ขายติ่มซำ เป็ดย่าง เพราะเตาสุกี้ร้อนช้า

กรณีศึกษา MK ขายติ่มซำ เป็ดย่าง เพราะเตาสุกี้ร้อนช้า | BrandCase

เชื่อว่าถ้าพูดถึงร้าน MK นอกจากสุกี้และน้ำจิ้มสูตรลับแล้ว ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เมนู ที่บางคนต้องสั่งทุกครั้งที่มา MK เช่น บะหมี่หยก, เป็ดย่าง ไปจนถึงติ่มซำ

แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไม MK ถึงต้องขายเมนูเหล่านี้ ?
และเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังเมนูซิกเนเชอร์เหล่านี้ แท้จริงแล้วมีที่มาอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ

ย้อนกลับไปเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ในสมัยนั้นร้านสุกี้ส่วนใหญ่ ยังคงใช้เตาแก๊สในการต้มสุกี้

แต่คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน ผู้บริหาร MK กลับมองว่า การใช้เตาแก๊สในการต้มสุกี้ อาจไม่ปลอดภัยสำหรับลูกค้า

ทำให้ MK ตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้เตาไฟฟ้าในการต้มสุกี้แทน เพราะมีความปลอดภัยมากกว่าเตาแก๊ส ซึ่ง MK ถือเป็นร้านสุกี้เจ้าแรก ๆ ในไทยที่หันมาใช้เตาไฟฟ้าแทนเตาแก๊ส

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า MK จะแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของเตาที่ใช้ในร้านได้แล้ว

แต่ปัญหาที่ตามมาคือ หม้อสุกี้ของทางร้านนั้นร้อนช้ามาก จนทำให้ลูกค้าหลายคน ทนรอไม่ไหวและโมโหหิวในที่สุด

พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น MK จึงแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการขาย “ติ่มซำ” เป็นอาหารรองท้องให้ลูกค้าทานเล่น เพื่อบรรเทาความหิวระหว่างรอน้ำเดือด

และต่อยอดอาหารรองท้องเมนูอื่น ๆ ตามมา และเกิดเป็นเมนู “เป็ดย่าง MK” เมนูที่เราเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้
จนกลายเป็นเมนูซิกเนเชอร์ของร้าน MK ที่ไม่ว่าใครไปทานที่ร้าน MK ก็ต้องสั่งเมนูนี้..

และถ้าให้ลองวิเคราะห์ต่อ จะพบว่า การขายอาหารรองท้องของ MK นั้น ตรงกับกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ชื่อว่า “Cross-Selling” ซึ่งก็คือ การเสนอขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหลัก

ซึ่งข้อดีของกลยุทธ์นี้คือ ช่วยเพิ่มยอดขายของร้านให้สูงขึ้น โดยที่ไม่ต้องขึ้นราคาสินค้านั่นเอง..

ใครจะไปคิดว่า เมนูทานเล่นที่ MK นำมาแก้ปัญหา ลูกค้าโมโหหิว เพราะเตาสุกี้ร้อนช้า
จะกลายมาเป็นเมนูซิกเนเชอร์ประจำร้าน และเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจไปในตัว ได้อย่างแยบยลจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม แม้จะแก้ปัญหาเรื่องเตาไม่ร้อนและลูกค้าโมโหหิวไปแล้ว แต่อีกปัญหาที่ MK ต้องเจอก็คือ พื้นที่บนโต๊ะ ไม่พอสำหรับวางถาดอาหาร

คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน ผู้บริหารของ MK จึงนำไอเดีย ปิ่นโต และเบ็นโตะ มาต่อยอด จนกลายเป็น ถาดแดง MK ที่เราคุ้นเคย

ซึ่งสาเหตุที่ต้องเป็นสีแดง ก็เพราะในบางเมนูที่เป็นเครื่องในสัตว์ สีแดงจะช่วยให้กลมกลืนไปกับสีเลือดของเนื้อสัตว์ ทำให้วัตถุดิบในภาชนะที่ถูกนำมาเสิร์ฟยังคงดูน่าทาน

เนื่องจาก สีแดงเป็นสีที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น ชวนหลงใหล และกระตุ้นความอยากอาหารของเราได้อีกด้วย

References
-รายการ Penguin Talk EP. 37 เบื้องหลังความสำเร็จของ "สุกี้ MK" ที่น้อยคนจะรู้ !!
-https://www.mkrestaurant.com/th/history
-https://blog.hubspot.com/sales/cross-selling