กรณีศึกษา ผู้ผลิตข้าวกล่องเซเว่น กำลังเจาะตลาด อาหาร Plant Based

กรณีศึกษา ผู้ผลิตข้าวกล่องเซเว่น กำลังเจาะตลาด อาหาร Plant Based | THE BRIEFCASE
หลายคนน่าจะชอบซื้อ “ข้าวกล่องเซเว่น” กินกันอยู่บ่อย ๆ
ซึ่งผู้อยู่เบื้องหลัง การผลิตและส่งอาหารกล่อง รวมถึงอาหารสำเร็จรูปหลาย ๆ รายการให้แก่ร้าน 7-Eleven กว่าหมื่นสาขาก็คือ “ซีพีแรม” บริษัทลูก CPALL เจ้าของ 7-Eleven ในประเทศไทย
และช่วงนี้หลาย ๆ คนคงสังเกตเห็นว่า อาหารพร้อมทานใน 7-Eleven มีหลาย ๆ รายการที่เป็น “Plant Based Food” หรืออาหารที่ทำมาจากพืช
ซีพีแรม กำลังเห็นโอกาสอะไรจากเรื่องนี้
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
บริษัท ซีพีแรม จำกัด หรือ CPRAM เดิมมีชื่อว่า บริษัท ซี.พี.ค้าปลีกและการตลาด จำกัด
ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2531 ปัจจุบัน CPRAM เป็นบริษัทลูกของ CPALL ซึ่งถือหุ้นอยู่ 99.99%
ต้องยอมรับว่า วันนี้ 7-Eleven เป็นร้านสะดวกซื้อที่คนไทยจำนวนมากคุ้นเคย ไม่ว่าเราจะเดินทางไปที่ไหน เราก็มักจะเห็นร้านสะดวกซื้อรายนี้ตั้งอยู่เสมอ ๆ
ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปีนี้ 7-Eleven มีสาขาในประเทศไทยจำนวน 12,743 สาขา ทำให้ 7-Eleven มีส่วนแบ่งการตลาดในแง่จำนวนสาขาร้านสะดวกซื้อกว่า 64%
นั่นหมายความว่า ซีพีแรม ที่เป็นบริษัทลูก ทำหน้าที่ผลิตอาหารสำเร็จรูปส่งให้ 7-Eleven นั้น เมื่อผลิตอะไรออกมาแล้ว ก็จะมีช่องทางจำหน่ายจำนวนมากรองรับในทันที
ธุรกิจของ CPRAM คือ การผลิตอาหารแช่แข็ง-แช่เย็นพร้อมรับประทาน และขนมปังเบเกอรี
ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นผลิตเพื่อป้อนให้กับสาขาของ 7-Eleven
ก่อนที่จะเริ่มขายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และร้านค้าชั้นนําอื่น ๆ รวมถึงมีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศด้วย
ซึ่งสินค้าที่ CPRAM ผลิตและจำหน่ายนั้นก็มีหลากหลาย เช่น ขนมจีบ, ซาลาเปา, ไส้กรอก, แฮมเบอร์เกอร์, ข้าวกล่อง, ขนมปัง, เบเกอรี และเค้ก
ปัจจุบัน กระแสรักสุขภาพและรักษ์โลก กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้อาหารประเภท Plant Based Food หรือ อาหารที่ทำมาจากพืช ผัก ผลไม้ เน้นใช้โปรตีนจากพืช กำลังมาแรง
ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้ มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรักสุขภาพ ผู้บริโภคสายคลีน รวมไปถึง ผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่ต้องลดการทานเนื้อสัตว์ลง
อย่างกรณีของสังคมไทย ที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็มีโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจ Plant Based Food มีโอกาสที่จะเติบโตไปด้วยในอนาคต
ข้อมูลจาก Bloomberg มีการวิเคราะห์ว่า มูลค่าตลาดของ Plant Based Food นั้นมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ปี 2020 ที่มีมูลค่าเท่ากับ 970,000 ล้านบาท
ปี 2030 ที่มีมูลค่าเท่ากับ 5,300,000 ล้านบาท
และ ซีพีแรม ก็ไม่พลาด ที่จะกระโดดเข้ามาในตลาดนี้ เพื่อสร้างการเติบโตรูปแบบใหม่ โดยผลักดัน “Plant Based Diet” หรืออาหารที่เน้นสุขภาพมากขึ้น
ด้วยการออกแบรนด์ใหม่ “VG for Love” ภายใต้คอนเซปต์คือ
- รักสุขภาพ
- รักชีวิตสัตว์
- รักสิ่งแวดล้อม
- รักโลก
โดยอาหารภายใต้แบรนด์ VG for Love ประกอบไปด้วยอาหารเจ อาหารวีแกน อาหารมังสวิรัติกับนม อาหารมังสวิรัติกับไข่ อาหารมังสวิรัติกับนมและไข่
ด้วยความที่ CPRAM นั้นมีความได้เปรียบในเรื่อง กระบวนการผลิต ระบบซัปพลายเชนที่แข็งแกร่งภายในเครือ CP และที่ลืมไม่ได้คือ เรื่องช่องทางการจำหน่าย ทั้งร้าน 7-Eleven ที่มีจำนวนมาก
ซึ่งข้อได้เปรียบตรงจุดนี้ ทำให้ทาง CPRAM มองว่า จะมีโอกาสที่ช่วยให้แบรนด์ VG for Love ประสบความสำเร็จได้เร็วและง่ายมากขึ้น
รายได้และกำไรของ บริษัท ซีพีแรม จำกัด
ปี 2561 รายได้ 18,199 ล้านบาท กำไร 526 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 20,061 ล้านบาท กำไร 606 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 19,669 ล้านบาท กำไร 351 ล้านบาท
ก็น่าติดตามกันต่อไปว่า CPRAM จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทรนด์ที่กำลังมาแรง อย่าง Plant Based Food นี้ได้มากน้อยแค่ไหน..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ปัจจุบัน CPRAM เป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น แต่ถ้าให้เราลองคิดเล่น ๆ ว่า ถ้า CPRAM อยู่ในตลาดหุ้น บริษัทนี้จะมีมูลค่าเท่าไร ?
ถ้าเราให้ CPRAM ซื้อขายด้วยระดับ P/E เท่ากับหุ้นของบริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ SNP ที่ทำธุรกิจคล้าย ๆ กัน (ร้านอาหารและร้านเบเกอรี) ซึ่งมี P/E ประมาณ 20 เท่า
หมายความว่า ด้วยกำไรของ CPRAM ปีล่าสุด
มูลค่าบริษัทของ CPRAM จะสูงกว่า 7,000 ล้านบาท เลยทีเดียว..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นที่กล่าวถึง หรือมีส่วนเกี่ยวข้อง การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
References
-https://www.cpram.co.th
-แบบแสดงรายการข้อมูลปี 2563, บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)
-https://www.cpall.co.th/wp-content/uploads/2021/08/2Q21_Presentation_CPALL_website.pdf
-https://www.supermarketnews.com/organic-natural/plant-based-foods-are-here-stay-and-grow
-https://www.set.or.th/