อธิบายโมเดลธุรกิจ MK สุกี้ รายได้ 16,000 ล้าน มาจากอะไรบ้าง ?

รู้ไหมว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา เจ้าของร้านเอ็มเคสุกี้ คือ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

มีรายได้จากการขายและบริการ 16,661 ล้านบาท กำไร 1,682 ล้านบาท  

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ในรายได้ทั้งหมดนี้ ไม่ได้มาจากแค่ร้านเอ็มเคสุกี้เพียงอย่างเดียว 

แต่ยังมีรายได้จากร้านอาหารอื่น ๆ ในเครืออีกหลายแบรนด์ 

โมเดลธุรกิจ MK สุกี้ รายได้ 16,000 ล้าน มาจากอะไรบ้าง ?

BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) นอกจากเป็นเจ้าของร้าน MK สุกี้ หรือ MK Restaurants ยังเป็นเจ้าของร้านอาหารอื่นด้วย

โดยแบรนด์อื่น ๆ ก็เช่น

- เอ็มเคโกลด์

- เอ็มเคไลฟ์

- ยาโยอิ 

- ฮากาตะ ราเมน

- มิยาซากิ เทปปันยากิ 

- แหลมเจริญซีฟู้ด

- ณ สยาม

- เลอ เพอทิท

- บิซซี่ บ็อกซ์ 

โดยสัดส่วนรายได้จากการขาย 16,661 ล้านบาท ในปี 2566 นั้นมาจาก 

- เอ็มเค 74%

- ยาโยอิ 18%

- แหลมเจริญซีฟู้ด 6%

- อื่น ๆ 2%

จะเห็นได้ว่านอกจากร้านเอ็มเคสุกี้แล้ว 

อีกแบรนด์หนึ่งที่ครองส่วนแบ่งมากเป็นอันดับ 2 ก็คือ ร้านอาหารญี่ปุ่น ยาโยอิ 

และที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้คือ แบรนด์ร้านอาหารไทย แหลมเจริญซีฟู้ด 

ที่ทางบริษัทได้เข้าไปลงทุนซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2562 โดยมีสัดส่วนรายได้มากเป็นอันดับ 3 ของรายได้บริษัท

ซึ่งถ้ามาดูจำนวนสาขาของแต่ละแบรนด์ ก็จะสอดคล้องไปทางเดียวกันกับสัดส่วนรายได้ 

- เอ็มเคสุกี้ 481 สาขา 

- ยาโยอิ 198 สาขา 

- แหลมเจริญซีฟู้ด 42 สาขา 

- และร้านอื่น ๆ ในเครือรวม 19 สาขา 

ทีนี้ต้องบอกว่ารายได้ทั้งหมดของบริษัทนั้น ไม่ได้มาจากทานที่ร้านเพียงอย่างเดียว 

แต่ยังมาจากช่องทางอื่น ๆ ด้วย

สรุปสัดส่วนรายได้ตามช่องทางการขายของบริษัท ในปี 2566 

- ทานในร้าน 85%

- ดิลิเวอรี 9%

- ซื้อกลับบ้าน 6%

ทั้งหมดนี้ก็คือ โมเดลธุรกิจ MK สุกี้ รายได้ 16,000 ล้านบาท ที่ไม่ได้มีแค่ร้านสุกี้ นั่นเอง.. 

References

-https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/M/financial-statement/company-highlights

-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)