ตู้เต่าบิน มีจำนวนลดลง เป็นครั้งแรก | BrandCase
23 ก.พ. 2024
ตู้เต่าบิน เป็นคาเฟขายน้ำอัตโนมัติ ที่บริหารจัดการโดย บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย
ซึ่ง FSMART เพิ่งรายงานตัวเลขของตู้เต่าบิน ช่วงสิ้นปี 2566 ที่ผ่านมา
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2566 หรือช่วง เดือนตุลาคมถึงธันวาคมนั้น
ถือเป็น “ครั้งแรก” ที่ตู้เต่าบิน มีจำนวนลดลง
ถือเป็น “ครั้งแรก” ที่ตู้เต่าบิน มีจำนวนลดลง
มาดูจำนวนตู้เต่าบิน ย้อนหลัง ณ สิ้นไตรมาสที่ผ่าน ๆ มา
ไตรมาส 3/2564 จำนวน 193 ตู้ไตรมาส 4/2564 จำนวน 546 ตู้ไตรมาส 1/2565 จำนวน 1,058 ตู้ไตรมาส 2/2565 จำนวน 2,138 ตู้ไตรมาส 3/2565 จำนวน 3,572 ตู้ไตรมาส 4/2565 จำนวน 4,942 ตู้ไตรมาส 1/2566 จำนวน 5,537 ตู้ไตรมาส 2/2566 จำนวน 6,142 ตู้ไตรมาส 3/2566 จำนวน 6,657 ตู้ไตรมาส 4/2566 จำนวน 6,392 ตู้
จะเห็นได้ว่า จำนวนตู้เต่าบินในไตรมาส 4/2566 ลดลงเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ FSMART รายงานจำนวนตู้เต่าบินมา โดยลดลงจากไตรมาส 3/2566 รวม 265 ตู้
บริษัทบอกสาเหตุหลัก ๆ ว่ามาจากทางบริษัทได้มีการนำตู้เต่าบินตู้เก่า ที่เป็นเวอร์ชันแรกกลับมาปรับปรุง ให้สามารถรองรับเครื่องดื่มได้มากขึ้น
และสามารถเก็บวัตถุดิบต่าง ๆ ได้มากขึ้นต่อการเติมหนึ่งครั้ง และมีการย้ายจุดตู้บางตู้ไปยังทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้น
และสามารถเก็บวัตถุดิบต่าง ๆ ได้มากขึ้นต่อการเติมหนึ่งครั้ง และมีการย้ายจุดตู้บางตู้ไปยังทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้น
ทั้งนี้เมื่อปริมาณตู้ลดลง บวกกับช่วงสิ้นปี ที่ทางบริษัทให้เหตุผลว่าเป็นช่วงของสภาพอากาศปลายฝนต้นหนาว และมีการชะลอตัวของตลาดอาหารและเครื่องดื่ม ก็ทำให้ยอดขายรวมของตู้เต่าบินในช่วงไตรมาสล่าสุดนั้นลดลงตามไปด้วย
มาดูยอดขายรวมของ ตู้เต่าบิน ในแต่ละไตรมาส
ไตรมาส 4/2565 ยอดขาย 550 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2566 ยอดขาย 575 ล้านบาท
ไตรมาส 2/2566 ยอดขาย 592 ล้านบาท
ไตรมาส 3/2566 ยอดขาย 599 ล้านบาท
ไตรมาส 4/2566 ยอดขาย 524 ล้านบาท
(ยอดขายไตรมาส 4/2565 ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ราว 13%)
ไตรมาส 1/2566 ยอดขาย 575 ล้านบาท
ไตรมาส 2/2566 ยอดขาย 592 ล้านบาท
ไตรมาส 3/2566 ยอดขาย 599 ล้านบาท
ไตรมาส 4/2566 ยอดขาย 524 ล้านบาท
(ยอดขายไตรมาส 4/2565 ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ราว 13%)
จำนวนแก้วที่ขายได้ ในแต่ละไตรมาส
ไตรมาส 4/2565 จำนวน 17.33 ล้านแก้ว
ไตรมาส 1/2566 จำนวน 18.59 ล้านแก้ว
ไตรมาส 2/2566 จำนวน 19.56 ล้านแก้ว
ไตรมาส 3/2566 จำนวน 20.20 ล้านแก้ว
ไตรมาส 4/2566 จำนวน 18.02 ล้านแก้ว
(จำนวนแก้วที่ขายได้ไตรมาส 4/2566 ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ราว 11%)
ไตรมาส 1/2566 จำนวน 18.59 ล้านแก้ว
ไตรมาส 2/2566 จำนวน 19.56 ล้านแก้ว
ไตรมาส 3/2566 จำนวน 20.20 ล้านแก้ว
ไตรมาส 4/2566 จำนวน 18.02 ล้านแก้ว
(จำนวนแก้วที่ขายได้ไตรมาส 4/2566 ลดลงจากไตรมาส 3/2566 ราว 11%)
ส่วนตัวเลขอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็เช่น
จำนวนแก้วที่ขายได้ เฉลี่ยต่อวัน
เอาจำนวนแก้วที่ขายได้ทั้งหมด หารด้วยจำนวนวันในไตรมาส 4/2566 (92 วัน)
เอาจำนวนแก้วที่ขายได้ทั้งหมด หารด้วยจำนวนวันในไตรมาส 4/2566 (92 วัน)
ไตรมาส 4/2565 จำนวน 188,370 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 1/2566 จำนวน 202,065 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2566 จำนวน 212,608 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 3/2566 จำนวน 219,565 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 4/2566 จำนวน 195,870 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 1/2566 จำนวน 202,065 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2566 จำนวน 212,608 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 3/2566 จำนวน 219,565 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 4/2566 จำนวน 195,870 แก้วต่อวัน
จำนวนแก้วที่ขายได้ เฉลี่ยต่อตู้ ต่อวัน
เอาจำนวนแก้วที่ขายได้เฉลี่ยต่อวัน หารด้วย จำนวนตู้
เอาจำนวนแก้วที่ขายได้เฉลี่ยต่อวัน หารด้วย จำนวนตู้
ไตรมาส 4/2565 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 38 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 1/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 36 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 35 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 3/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 33 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 4/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 31 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 1/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 36 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 35 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 3/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 33 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 4/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 31 แก้วต่อวัน
ยอดขายเฉลี่ยต่อตู้
เอายอดขายรวม หารด้วย จำนวนตู้
เอายอดขายรวม หารด้วย จำนวนตู้
ไตรมาส 4/2565 ยอดขายเฉลี่ย 111,291 บาทต่อตู้
ไตรมาส 1/2566 ยอดขายเฉลี่ย 103,846 บาทต่อตู้
ไตรมาส 2/2566 ยอดขายเฉลี่ย 96,386 บาทต่อตู้
ไตรมาส 3/2566 ยอดขายเฉลี่ย 89,980 บาทต่อตู้
ไตรมาส 4/2566 ยอดขายเฉลี่ย 81,977 บาทต่อตู้
ไตรมาส 1/2566 ยอดขายเฉลี่ย 103,846 บาทต่อตู้
ไตรมาส 2/2566 ยอดขายเฉลี่ย 96,386 บาทต่อตู้
ไตรมาส 3/2566 ยอดขายเฉลี่ย 89,980 บาทต่อตู้
ไตรมาส 4/2566 ยอดขายเฉลี่ย 81,977 บาทต่อตู้
ซึ่งมาดูตัวเลขยอดขายเฉลี่ยต่อตู้ ก็จะเห็นได้ว่าทิศทางยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
โดยทางบริษัทเองก็ได้ออกมาเปิดเผยแนวทางการกระตุ้นยอดขายในปี 2567 แล้ว เช่น
การเลือกทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้นการนำข้อมูล Big Data มาใช้ เพื่อนำไปทำการตลาดที่ตรงจุดมากขึ้นการคิดค้นเมนูใหม่ ๆ ตามเทศกาล รวมถึงการทำโปรโมชันต่าง ๆ ให้เกิดการซื้อซ้ำการเน้นการตลาดออนไลน์มากขึ้น
Reference
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2566 บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)