สรุปตัวเลข ตู้เต่าบิน ครึ่งปียอดขาย 33 ล้านแก้ว อัปเกรดตู้ใหม่ ขายต่อรอบ ได้เยอะกว่าเดิม

ตู้เต่าบิน เป็นคาเฟขายน้ำอัตโนมัติ ที่บริหารจัดการโดย บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย

ทุกไตรมาส FSMART จะรายงานตัวเลขเกี่ยวกับ ตู้เต่าบิน
ซึ่งล่าสุดก็คือตัวเลขช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ (เมษายน-มิถุนายน 2567)

มีอะไรน่าสนใจบ้าง BrandCase สรุปให้..

-จำนวนแก้วที่ขายได้ ในแต่ละไตรมาส
ไตรมาส 1/2566 จำนวน 18.59 ล้านแก้ว
ไตรมาส 2/2566 จำนวน 19.56 ล้านแก้ว
ไตรมาส 3/2566 จำนวน 20.20 ล้านแก้ว
ไตรมาส 4/2566 จำนวน 18.02 ล้านแก้ว
ไตรมาส 1/2567 จำนวน 17.09 ล้านแก้ว
ไตรมาส 2/2567 จำนวน 16.04 ล้านแก้ว

จะเห็นว่า ครึ่งแรกของปีนี้ ตู้เต่าบิน ขายน้ำไปทั้งหมด 33.13 ล้านแก้ว ซึ่งลดลงจากครึ่งแรกของปีที่แล้ว ที่ขายไปได้ทั้งหมด 38.15 ล้านแก้ว

-จำนวนตู้เต่าบิน ย้อนหลัง ณ สิ้นไตรมาสที่ผ่าน ๆ มา
- ไตรมาส 3/2565 จำนวน 3,572 ตู้
- ไตรมาส 4/2565 จำนวน 4,942 ตู้
- ไตรมาส 1/2566 จำนวน 5,537 ตู้
- ไตรมาส 2/2566 จำนวน 6,142 ตู้
- ไตรมาส 3/2566 จำนวน 6,657 ตู้
- ไตรมาส 4/2566 จำนวน 6,392 ตู้
- ไตรมาส 1/2567 จำนวน 6,378 ตู้
- ไตรมาส 2/2567 จำนวน 6,596 ตู้

จะเห็นในไตรมาส 2/2567 ที่ผ่านมา ตู้เต่าบิน มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ซึ่งเป็นการกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากมีจำนวนลดลงในช่วง 2 ไตรมาสก่อนหน้า

โดยบริษัทให้เหตุผลว่า ได้นำตู้เต่าบินที่นำไปอัปเกรดเป็นเวอร์ชันใหม่ จำนวน 1,000 ตู้ ทยอยกลับมาติดตั้งอีกครั้ง

โดยตู้เต่าบินเวอร์ชันใหม่ สามารถรองรับการขายเครื่องดื่มต่อตู้ได้มากขึ้น และจะลดรอบของการเข้าเติมวัตถุดิบ และช่วยบริหารค่าใช้จ่ายการเข้าเติมสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

มาดูยอดขายรวมของ ตู้เต่าบิน ในแต่ละไตรมาส
ไตรมาส 1/2566 ยอดขาย 575 ล้านบาท
ไตรมาส 2/2566 ยอดขาย 592 ล้านบาท
ไตรมาส 3/2566 ยอดขาย 599 ล้านบาท
ไตรมาส 4/2566 ยอดขาย 524 ล้านบาท
ไตรมาส 1/2567 ยอดขาย 506 ล้านบาท
ไตรมาส 2/2567 ยอดขาย 493 ล้านบาท

ก็จะเห็นว่า ถึงแม้ว่าตู้เต่าบินจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น แต่ยอดขายในไตรมาสที่ผ่าน ๆ มา ยังคงลดลงต่อเนื่องอยู่

โดยบริษัทให้เหตุผลว่า เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวลง และค่าครองชีพยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงส่งผลกระทบกับยอดขายจากลูกค้าบางกลุ่ม ของตู้เต่าบิน

รวมถึงช่วงไตรมาส 2 เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ของสถาบันอุดมศึกษา ประกอบกับสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม

ในขณะที่ยอดขายในทำเลของห้างสรรพสินค้า คอนโด ที่พักอาศัย อาคารสำนักงานออฟฟิศ และโรงพยาบาล มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน

ส่วนตัวเลขอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็เช่น
- จำนวนแก้วที่ขายได้ เฉลี่ยต่อวัน
เอาจำนวนแก้วที่ขายได้ทั้งหมด หารด้วยจำนวนวันในไตรมาส 2/2567 (91 วัน)
ไตรมาส 1/2566 จำนวน 202,065 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2566 จำนวน 212,608 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 3/2566 จำนวน 219,565 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 4/2566 จำนวน 195,870 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 1/2567 จำนวน 187,802 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2567 จำนวน 176,264 แก้วต่อวัน

- จำนวนแก้วที่ขายได้ เฉลี่ยต่อตู้ ต่อวัน
เอาจำนวนแก้วที่ขายได้เฉลี่ยต่อวัน หารด้วย จำนวนตู้
ไตรมาส 1/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 36 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 35 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 3/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 33 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 4/2566 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 31 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 1/2567 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 29 แก้วต่อวัน
ไตรมาส 2/2567 ขายน้ำได้เฉลี่ยตู้ละ 27 แก้วต่อวัน

- ยอดขายเฉลี่ยต่อตู้
เอายอดขายรวม หารด้วย จำนวนตู้
ไตรมาส 4/2565 ยอดขายเฉลี่ย 111,291 บาทต่อตู้
ไตรมาส 1/2566 ยอดขายเฉลี่ย 103,846 บาทต่อตู้
ไตรมาส 2/2566 ยอดขายเฉลี่ย 96,386 บาทต่อตู้
ไตรมาส 3/2566 ยอดขายเฉลี่ย 89,980 บาทต่อตู้
ไตรมาส 4/2566 ยอดขายเฉลี่ย 81,977 บาทต่อตู้
ไตรมาส 1/2567 ยอดขายเฉลี่ย 79,335 บาทต่อตู้
ไตรมาส 2/2567 ยอดขายเฉลี่ย 74,742 บาทต่อตู้

โดยทางบริษัท บอกว่ามีแนวทางกระตุ้นยอดขายและขยายจำนวนตู้ต่อในปีนี้ หลัก ๆ เช่น

-เร่งผลักดันตู้ที่ได้รับการอัปเกรดแล้วกลับสู่ตลาด และพร้อมให้บริการลูกค้าทุกกลุ่ม โดยจะเน้นติดตั้งในทำเลที่มีศักยภาพที่ดีเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่ามีทำเลดีอีกมาก ที่ช่วยดันยอดขายได้

-นำข้อมูล Big data มาวิเคราะห์ เพื่อทำการตลาดที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงมากยิ่งขึ้น
เช่น การจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ลองใช้บริการ และสร้างการซื้อซ้ำจากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่

Reference
https://www.set.or.th/th/market/news-and-alert/newsdetails?id=90618301&symbol=FSMART