รู้จัก พริกไทยกัมปอต เครื่องเทศระดับพรีเมียม ของกัมพูชา
31 ส.ค. 2022
รู้จัก พริกไทยกัมปอต เครื่องเทศระดับพรีเมียม ของกัมพูชา | BrandCase
มีเชฟหลายคนเคยกล่าวไว้ว่า ความลับของสเต๊ก คือ “เกลือ” และ “พริกไทย”
ถ้าอยากจะดึงรสชาติของเนื้อให้ได้รสชาติที่ดี คงเป็นเรื่องของเกลือ
แต่ถ้าอยากเพิ่มความอร่อยและให้สเต๊กมีกลิ่นพิเศษ คงต้องยกให้พริกไทย
ถ้าอยากจะดึงรสชาติของเนื้อให้ได้รสชาติที่ดี คงเป็นเรื่องของเกลือ
แต่ถ้าอยากเพิ่มความอร่อยและให้สเต๊กมีกลิ่นพิเศษ คงต้องยกให้พริกไทย
เหมือนที่บนโต๊ะอาหารของร้านสเต๊ก มักจะมีเกลือวางอยู่คู่กับพริกไทย..
แต่รู้หรือไม่ว่า ในบรรดาพริกไทยที่เชฟระดับโลก ยกให้เป็นพริกไทยที่มีกลิ่นหอมที่สุดในโลกนั้น
คือ “พริกไทยกัมปอต” หรือ Kampot Pepper จากประเทศกัมพูชา
คือ “พริกไทยกัมปอต” หรือ Kampot Pepper จากประเทศกัมพูชา
แล้วเรื่องราวของ พริกไทยกัมปอต สุดยอดเครื่องเทศจากกัมพูชานี้ มีที่มาอย่างไร
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสล่าอาณานิคม ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 กัมพูชา ได้ตกไปอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
นอกจากภาษาและศาสนาคริสต์ ที่ฝรั่งเศสนำเข้ามาในกัมพูชา
ก็ยังมี เครื่องเทศอย่าง พริกไทยสายพันธุ์ต่างถิ่น เข้ามาปลูกในกัมพูชาอีกด้วย
โดยพื้นที่ที่นิยมปลูกที่สุด คือ “จังหวัดกัมปอต”
ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชา
ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาที่ชื่อว่า Dâmrei ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ควอตซ์ และอยู่ติดทะเลอ่าวไทย
ด้วยสภาพแวดล้อมและแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้พริกไทยที่ปลูกในกัมปอต มีคุณภาพที่ดีเยี่ยม จนเป็นเครื่องเทศที่มีชื่อเสียง สำหรับร้านอาหารฝรั่งเศสในสมัยนั้น
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถือได้ว่าเป็นยุคทอง ของพริกไทยกัมปอต
เพราะร้านอาหารฝรั่งเศส ต่างนิยมใช้พริกไทยของกัมปอต จนทำให้กลายเป็นเครื่องเทศที่มีความต้องการสูง และเกษตรกรก็นิยมปลูก จนมีผลผลิตราว 8,000 ตันต่อปี
จนกระทั่งมาในยุคการปกครองของเขมรแดง ในปลายศตวรรษที่ 20 ได้ให้เกษตรกรหันมาเน้นปลูกข้าวแทน
เรื่องนี้ ทำให้การเพาะปลูกพริกไทยกัมปอตลดน้อยลง จนเกือบจะหมดไป กลายเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดของพริกไทยกัมปอต
แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาของยุคเขมรแดง และสงครามกลางเมืองกัมพูชามาแล้ว พริกไทยกัมปอตก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงทศวรรษ 2000s
แล้วพริกไทยกัมปอต หน้าตาเป็นอย่างไร ?
พริกไทยกัมปอต จะถูกแบ่งออกไปตามสีของมัน และแต่ละสีก็จะให้กลิ่นและรสชาติที่ไม่เหมือนกัน
โดยจะให้กลิ่นที่ค่อนข้างหอมหวาน คล้าย ๆ มีกลิ่นของยูคาลิปตัสและมินต์ผสมอยู่ด้วย เมื่อรับประทานจะให้รสชาติที่ติดลิ้น
พริกไทยกัมปอต แบ่งออกได้ 3 สีหลัก ๆ คือ
- พริกไทยกัมปอตดำ
ได้จากการนำผลของพริกไทยที่ยังไม่สุกมากไปตากแห้ง โดยจะให้ความเผ็ดน้อย แต่มีกลิ่นหอมและมีความอะโรมาของพริกไทยที่มากกว่าสีอื่น
- พริกไทยกัมปอตแดง
ได้จากผลของพริกไทยที่สุกเต็มที่ จนได้สีแดงและนำไปทำให้แห้ง ซึ่งจะให้กลิ่นและรสชาติที่มีความหอมหวานของเบอร์รีอยู่ด้วย ซึ่งจะไม่กลบกลิ่นของวัตถุดิบหลัก จึงนิยมนำมาปรุงเนื้อสเต๊ก
- พริกไทยกัมปอตขาว
เป็นสีที่ให้ความเผ็ดร้อนมากที่สุด และมีกระบวนการผลิตที่ยากที่สุด โดยได้จากการนำผลของพริกไทยที่สุกจนเป็นสีแดง หลังจากนั้นนำไปแช่น้ำและกะเทาะเปลือกออก
ด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติติดลิ้นนี้เอง
ก็ทำให้มันกลายเป็นวัตถุดิบพื้นฐาน ในการปรุงเนื้อสเต๊กของเชฟระดับโลกหลาย ๆ คน
นอกจากเรื่องกลิ่นและรสชาติ ที่ทำให้พริกไทยกัมปอตมีชื่อเสียงแล้ว
พริกไทยกัมปอต ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง สิ่งนั้นเรียกว่า “GI”
GI ย่อมาจาก Geographical Indications ซึ่งมันคือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ว่านี้ เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ถูกผลิตขึ้นในแหล่งพื้นที่ภูมิศาสตร์ของพื้นที่นั้น ๆ เพียงแค่แหล่งเดียว
เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าคุณภาพและชื่อเสียงของสินค้า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งกำเนิด
โดยพริกไทยกัมปอต ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ มาตั้งแต่เมื่อปี 2010 ว่าเป็นพริกไทย ที่ได้จากการผลิตในจังหวัดกัมปอต ของประเทศกัมพูชาเท่านั้น
เช่นเดียวกับกรณีของ แชมเปญ (ภาษาฝรั่งเศสออกเสียงว่า ช็องปาญ) ซึ่งเป็นสปาร์กลิงไวน์ชนิดหนึ่ง ที่มีแหล่งผลิตที่จังหวัดช็องปาญ ในประเทศฝรั่งเศส
หรือถ้าเป็นในไทยก็ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับเวลาที่เราเรียก
ไข่เค็มไชยา จากอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หรือครกหินอ่างศิลา จากตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี
ทั้งหมดนี้ ทำให้ พริกไทยกัมปอต กลายเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่มีราคาแพง
จนถึงขั้นได้รับฉายาว่าเป็น “Black Gold” หรือ “ทองคำดำ” ของเกษตรกรกัมพูชา
โดยพริกไทยกัมปอตสีแดง ซึ่งเป็นสีที่มีราคาสูงที่สุดในบรรดา 3 สีที่ได้เล่าไป มีราคาอยู่ที่ประมาณ 900-1,400 บาทต่อกิโลกรัม
ซึ่งคิดเป็น 2-3 เท่า ของราคาพริกไทยขาวอย่างดีของไทย ที่ขายอยู่ที่ราคาราว ๆ 375 บาทต่อกิโลกรัม
แล้วในประเทศไทย มีพริกไทยกัมปอตขายหรือไม่ ?
คำตอบคือ มี
ตัวอย่างแบรนด์ที่นำพริกไทยกัมปอต มาขายในประเทศไทย เช่น
- แบรนด์ รมย์โชย พริกไทยกัมปอตแดง 1 ขวด ปริมาณ 50 กรัม ราคาประมาณ 339 บาท
- แบรนด์ Kurera พริกไทยกัมปอตแดง 1 ขวด ปริมาณ 60 กรัม ราคาประมาณ 290 บาท
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของพริกไทยกัมปอต
ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ทองคำดำ แห่งกัมพูชา
ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส
และกลายมาเป็น สุดยอดพริกไทย ในวงการทำอาหารระดับโลก ในทุกวันนี้..
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ฝรั่งเศสล่าอาณานิคม ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 กัมพูชา ได้ตกไปอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
นอกจากภาษาและศาสนาคริสต์ ที่ฝรั่งเศสนำเข้ามาในกัมพูชา
ก็ยังมี เครื่องเทศอย่าง พริกไทยสายพันธุ์ต่างถิ่น เข้ามาปลูกในกัมพูชาอีกด้วย
โดยพื้นที่ที่นิยมปลูกที่สุด คือ “จังหวัดกัมปอต”
ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศกัมพูชา
ที่รายล้อมไปด้วยเทือกเขาที่ชื่อว่า Dâmrei ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ควอตซ์ และอยู่ติดทะเลอ่าวไทย
ด้วยสภาพแวดล้อมและแร่ธาตุที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้พริกไทยที่ปลูกในกัมปอต มีคุณภาพที่ดีเยี่ยม จนเป็นเครื่องเทศที่มีชื่อเสียง สำหรับร้านอาหารฝรั่งเศสในสมัยนั้น
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ถือได้ว่าเป็นยุคทอง ของพริกไทยกัมปอต
เพราะร้านอาหารฝรั่งเศส ต่างนิยมใช้พริกไทยของกัมปอต จนทำให้กลายเป็นเครื่องเทศที่มีความต้องการสูง และเกษตรกรก็นิยมปลูก จนมีผลผลิตราว 8,000 ตันต่อปี
จนกระทั่งมาในยุคการปกครองของเขมรแดง ในปลายศตวรรษที่ 20 ได้ให้เกษตรกรหันมาเน้นปลูกข้าวแทน
เรื่องนี้ ทำให้การเพาะปลูกพริกไทยกัมปอตลดน้อยลง จนเกือบจะหมดไป กลายเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดของพริกไทยกัมปอต
แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาของยุคเขมรแดง และสงครามกลางเมืองกัมพูชามาแล้ว พริกไทยกัมปอตก็ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงทศวรรษ 2000s
แล้วพริกไทยกัมปอต หน้าตาเป็นอย่างไร ?
พริกไทยกัมปอต จะถูกแบ่งออกไปตามสีของมัน และแต่ละสีก็จะให้กลิ่นและรสชาติที่ไม่เหมือนกัน
โดยจะให้กลิ่นที่ค่อนข้างหอมหวาน คล้าย ๆ มีกลิ่นของยูคาลิปตัสและมินต์ผสมอยู่ด้วย เมื่อรับประทานจะให้รสชาติที่ติดลิ้น
พริกไทยกัมปอต แบ่งออกได้ 3 สีหลัก ๆ คือ
- พริกไทยกัมปอตดำ
ได้จากการนำผลของพริกไทยที่ยังไม่สุกมากไปตากแห้ง โดยจะให้ความเผ็ดน้อย แต่มีกลิ่นหอมและมีความอะโรมาของพริกไทยที่มากกว่าสีอื่น
- พริกไทยกัมปอตแดง
ได้จากผลของพริกไทยที่สุกเต็มที่ จนได้สีแดงและนำไปทำให้แห้ง ซึ่งจะให้กลิ่นและรสชาติที่มีความหอมหวานของเบอร์รีอยู่ด้วย ซึ่งจะไม่กลบกลิ่นของวัตถุดิบหลัก จึงนิยมนำมาปรุงเนื้อสเต๊ก
- พริกไทยกัมปอตขาว
เป็นสีที่ให้ความเผ็ดร้อนมากที่สุด และมีกระบวนการผลิตที่ยากที่สุด โดยได้จากการนำผลของพริกไทยที่สุกจนเป็นสีแดง หลังจากนั้นนำไปแช่น้ำและกะเทาะเปลือกออก
ด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติติดลิ้นนี้เอง
ก็ทำให้มันกลายเป็นวัตถุดิบพื้นฐาน ในการปรุงเนื้อสเต๊กของเชฟระดับโลกหลาย ๆ คน
นอกจากเรื่องกลิ่นและรสชาติ ที่ทำให้พริกไทยกัมปอตมีชื่อเสียงแล้ว
พริกไทยกัมปอต ยังมีความพิเศษอีกอย่างหนึ่ง สิ่งนั้นเรียกว่า “GI”
GI ย่อมาจาก Geographical Indications ซึ่งมันคือ สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ว่านี้ เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้น ถูกผลิตขึ้นในแหล่งพื้นที่ภูมิศาสตร์ของพื้นที่นั้น ๆ เพียงแค่แหล่งเดียว
เพื่อแสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าคุณภาพและชื่อเสียงของสินค้า มีส่วนเกี่ยวข้องกับแหล่งกำเนิด
โดยพริกไทยกัมปอต ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ มาตั้งแต่เมื่อปี 2010 ว่าเป็นพริกไทย ที่ได้จากการผลิตในจังหวัดกัมปอต ของประเทศกัมพูชาเท่านั้น
เช่นเดียวกับกรณีของ แชมเปญ (ภาษาฝรั่งเศสออกเสียงว่า ช็องปาญ) ซึ่งเป็นสปาร์กลิงไวน์ชนิดหนึ่ง ที่มีแหล่งผลิตที่จังหวัดช็องปาญ ในประเทศฝรั่งเศส
หรือถ้าเป็นในไทยก็ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับเวลาที่เราเรียก
ไข่เค็มไชยา จากอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หรือครกหินอ่างศิลา จากตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี
ทั้งหมดนี้ ทำให้ พริกไทยกัมปอต กลายเป็นหนึ่งในเครื่องเทศที่มีราคาแพง
จนถึงขั้นได้รับฉายาว่าเป็น “Black Gold” หรือ “ทองคำดำ” ของเกษตรกรกัมพูชา
โดยพริกไทยกัมปอตสีแดง ซึ่งเป็นสีที่มีราคาสูงที่สุดในบรรดา 3 สีที่ได้เล่าไป มีราคาอยู่ที่ประมาณ 900-1,400 บาทต่อกิโลกรัม
ซึ่งคิดเป็น 2-3 เท่า ของราคาพริกไทยขาวอย่างดีของไทย ที่ขายอยู่ที่ราคาราว ๆ 375 บาทต่อกิโลกรัม
แล้วในประเทศไทย มีพริกไทยกัมปอตขายหรือไม่ ?
คำตอบคือ มี
ตัวอย่างแบรนด์ที่นำพริกไทยกัมปอต มาขายในประเทศไทย เช่น
- แบรนด์ รมย์โชย พริกไทยกัมปอตแดง 1 ขวด ปริมาณ 50 กรัม ราคาประมาณ 339 บาท
- แบรนด์ Kurera พริกไทยกัมปอตแดง 1 ขวด ปริมาณ 60 กรัม ราคาประมาณ 290 บาท
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของพริกไทยกัมปอต
ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ทองคำดำ แห่งกัมพูชา
ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส
และกลายมาเป็น สุดยอดพริกไทย ในวงการทำอาหารระดับโลก ในทุกวันนี้..
References
-https://www.kampotpepper.biz/#Peppers
-https://romchoy.com/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kampot_pepper
-https://www.thespicehouse.com/blogs/news/kampot-peppercorn-spotlight
-https://www.npr.org/2020/03/14/813608491/cambodias-prized-kampot-pepper-nearly-wiped-out-by-khmer-rouge-makes-a-comeback
-https://www.denverpost.com/2017/01/31/kampot-pepper-cambodia-celebrity-chefs/
-https://www.phnompenhpost.com/business/peppercorn-exports-rocket-79
-https://old.moc.go.th/index.php/rice-iframe-6.html
-https://www.kampotpepper.biz/#Peppers
-https://romchoy.com/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kampot_pepper
-https://www.thespicehouse.com/blogs/news/kampot-peppercorn-spotlight
-https://www.npr.org/2020/03/14/813608491/cambodias-prized-kampot-pepper-nearly-wiped-out-by-khmer-rouge-makes-a-comeback
-https://www.denverpost.com/2017/01/31/kampot-pepper-cambodia-celebrity-chefs/
-https://www.phnompenhpost.com/business/peppercorn-exports-rocket-79
-https://old.moc.go.th/index.php/rice-iframe-6.html