รู้จัก “Focus Mode” ฟีเชอร์ช่วยโฟกัสเวลางาน เวลานอน ที่สาวกไอโฟนควรรู้
8 พ.ย. 2021
รู้จัก “Focus Mode” ฟีเชอร์ช่วยโฟกัสเวลางาน เวลานอน ที่สาวกไอโฟนควรรู้ | THE BRIEFCASE
รู้ไหมว่า ในหนึ่งวันโดยเฉลี่ยคนเราจะได้รับข้อความแจ้งเตือนหรือ Notifications ถึง 63.5 ครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นจากโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram หรือว่า TikTok
ซึ่งการแจ้งเตือนที่มากขนาดนี้ อาจทำให้หลาย ๆ คนเกิดความรำคาญ หรือถูกเบี่ยงเบนความสนใจตลอดวันจนกระทบกับการทำงาน
มันจะดีกว่าไหมถ้าระบบแจ้งเตือน ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่รบกวนเราจนเกินไปและในทางกลับกันยังช่วยให้เราโฟกัสได้ถูกจุดมากขึ้นอีกด้วย
โดยล่าสุดทาง Apple ได้พัฒนาฟีเชอร์ที่เรียกว่า “Focus Mode” ที่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เราตั้งค่าหน้าจอโทรศัพท์ในขณะที่เราทำงานได้
โดยเปิดให้ใช้งานในระบบปฏิบัติการ iOS 15 ขึ้นไป
แล้ว Focus Mode คืออะไร ?
Focus Mode คือโหมดตั้งค่าการแจ้งเตือนตามกิจกรรมที่เราทำอยู่ เพื่อให้เราสามารถเลือกได้ว่าเราต้องการรับการแจ้งเตือนจากช่องทางไหน จากใคร เวลาไหน โดยไม่ต้องมานั่งดูทุก Notifications จากทุกช่องทางเหมือนแต่ก่อน
โดย Focus Mode จะแบ่งย่อย ๆ ออกเป็น 4 โหมดตามลักษณะกิจกรรมที่ทำ คือ
- โหมดห้ามรบกวน
- โหมดนอน
- โหมดส่วนตัว
- โหมดทำงาน
ยกตัวอย่างเช่น ในเวลาที่เราทำงานอยู่แล้วเราตั้งค่าเป็น “โหมดทำงาน”
ในโหมดทำงานนั้นเราจะสามารถปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นอื่น ๆ และเพิ่มการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันคุยงานอย่าง Slack หรือ Workplace Chat เพื่อสื่อสารในองค์กรในโหมดเวลาทำงานได้
แล้วจุดเด่นของฟีเชอร์นี้มีอะไรบ้าง ?
1. เราสามารถเลือกได้ว่าถ้าเราอยู่ในโหมดทำงานเราจะเลือกรับโทรศัพท์และข้อความจากใครได้บ้างใน Contact เรา
2. เราสามารถตั้งให้ระบบส่งข้อความอัตโนมัติไปยังคนที่ติดต่อหาเรา เวลาที่เปิด Focus Mode ทิ้งไว้ เพื่อที่จะเตือนคนที่กำลังติดต่อเราว่า เราโฟกัสกับอะไรอยู่ในตอนนี้
3. เราสามารถตั้งค่าให้โทรศัพท์ของเราเปิดใช้งานระบบ Focus Mode ตามเวลาหรือโลเคชันที่เราอยู่ได้
ยกตัวอย่างเช่น หากเราตั้งเปิดการใช้งาน Focus Mode ณ ออฟฟิศของเรา ระบบก็จะเปิดใช้งานทันทีเมื่อเราเดินทางมาถึง หรือเราสามารถเซตว่าทุก ๆ 19.00 น. ของทุกวัน ให้เปลี่ยนมาเป็นโหมดพักผ่อน
นอกจากนี้เรายังสามารถกดเปิดใช้งาน Focus Mode ให้ทำงานกับทุก ๆ อุปกรณ์ Apple ของเราได้อีกด้วย
สุดท้ายแล้ว การที่เราสามารถบริหารสิ่งที่เข้ามาในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยทำให้เราสามารถโฟกัสและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง..
References
-https://qz.com/1046312/scientists-made-people-turned-off-their-notifications-for-a-day-and-saw-an-effect-years-later/
-https://www.wired.com/story/sleep-procrastination-psychology-tips/
รู้ไหมว่า ในหนึ่งวันโดยเฉลี่ยคนเราจะได้รับข้อความแจ้งเตือนหรือ Notifications ถึง 63.5 ครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นจากโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram หรือว่า TikTok
ซึ่งการแจ้งเตือนที่มากขนาดนี้ อาจทำให้หลาย ๆ คนเกิดความรำคาญ หรือถูกเบี่ยงเบนความสนใจตลอดวันจนกระทบกับการทำงาน
มันจะดีกว่าไหมถ้าระบบแจ้งเตือน ถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่รบกวนเราจนเกินไปและในทางกลับกันยังช่วยให้เราโฟกัสได้ถูกจุดมากขึ้นอีกด้วย
โดยล่าสุดทาง Apple ได้พัฒนาฟีเชอร์ที่เรียกว่า “Focus Mode” ที่มีคุณสมบัติที่จะทำให้เราตั้งค่าหน้าจอโทรศัพท์ในขณะที่เราทำงานได้
โดยเปิดให้ใช้งานในระบบปฏิบัติการ iOS 15 ขึ้นไป
แล้ว Focus Mode คืออะไร ?
Focus Mode คือโหมดตั้งค่าการแจ้งเตือนตามกิจกรรมที่เราทำอยู่ เพื่อให้เราสามารถเลือกได้ว่าเราต้องการรับการแจ้งเตือนจากช่องทางไหน จากใคร เวลาไหน โดยไม่ต้องมานั่งดูทุก Notifications จากทุกช่องทางเหมือนแต่ก่อน
โดย Focus Mode จะแบ่งย่อย ๆ ออกเป็น 4 โหมดตามลักษณะกิจกรรมที่ทำ คือ
- โหมดห้ามรบกวน
- โหมดนอน
- โหมดส่วนตัว
- โหมดทำงาน
ยกตัวอย่างเช่น ในเวลาที่เราทำงานอยู่แล้วเราตั้งค่าเป็น “โหมดทำงาน”
ในโหมดทำงานนั้นเราจะสามารถปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็นอื่น ๆ และเพิ่มการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันคุยงานอย่าง Slack หรือ Workplace Chat เพื่อสื่อสารในองค์กรในโหมดเวลาทำงานได้
แล้วจุดเด่นของฟีเชอร์นี้มีอะไรบ้าง ?
1. เราสามารถเลือกได้ว่าถ้าเราอยู่ในโหมดทำงานเราจะเลือกรับโทรศัพท์และข้อความจากใครได้บ้างใน Contact เรา
2. เราสามารถตั้งให้ระบบส่งข้อความอัตโนมัติไปยังคนที่ติดต่อหาเรา เวลาที่เปิด Focus Mode ทิ้งไว้ เพื่อที่จะเตือนคนที่กำลังติดต่อเราว่า เราโฟกัสกับอะไรอยู่ในตอนนี้
3. เราสามารถตั้งค่าให้โทรศัพท์ของเราเปิดใช้งานระบบ Focus Mode ตามเวลาหรือโลเคชันที่เราอยู่ได้
ยกตัวอย่างเช่น หากเราตั้งเปิดการใช้งาน Focus Mode ณ ออฟฟิศของเรา ระบบก็จะเปิดใช้งานทันทีเมื่อเราเดินทางมาถึง หรือเราสามารถเซตว่าทุก ๆ 19.00 น. ของทุกวัน ให้เปลี่ยนมาเป็นโหมดพักผ่อน
นอกจากนี้เรายังสามารถกดเปิดใช้งาน Focus Mode ให้ทำงานกับทุก ๆ อุปกรณ์ Apple ของเราได้อีกด้วย
สุดท้ายแล้ว การที่เราสามารถบริหารสิ่งที่เข้ามาในแต่ละวันได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วยทำให้เราสามารถโฟกัสและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง..
References
-https://qz.com/1046312/scientists-made-people-turned-off-their-notifications-for-a-day-and-saw-an-effect-years-later/
-https://www.wired.com/story/sleep-procrastination-psychology-tips/