SPONSORED
5 ส.ค. 2021

ทำไมบางบริษัท ขาดทุนติดต่อกันหลายปี แต่ยังทำธุรกิจต่อไปได้

เราคงเคยได้ยินกันมาบ้างว่า บริษัทที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในปีแรก ๆ ถ้าอยากเติบโตเร็ว ก็ต้องแลกกับการไม่มีกำไร ตัวอย่างบริษัทใกล้ตัวเรา ก็อย่างเช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada, Shopee หรือบริษัทที่ให้บริการฟูดดิลิเวอรี อย่าง Grab, Foodpanda บริษัทที่ว่ามาเหล่านี้ขาดทุนติดต่อกันมาแล้วหลายปี แต่จำนวนผู้ใช้งานและรายได้ ก็กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดดเช่นกัน หรือหากเราลองดูจากบริษัทชื่อดังระดับโลกหลายบริษัท ก็จะพบว่า หลายบริษัทต้องใช้เวลาหลายปีเลยทีเดียวกว่าจะมีกำไร เช่น - Facebook ใช้เวลา 5 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจึงจะสามารถทำกำไรได้ - Amazon.com ใช้เวลา 7 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจึงจะสามารถทำกำไรได้

28 มิ.ย. 2021

K-USXNDQ-A กองทุนอิงดัชนีหุ้นเทคโนโลยี Nasdaq ที่กำลังทำจุดสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

รู้หรือไม่ว่า Nasdaq คือดัชนีที่เป็นตัวแทนของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Amazon.com, Apple, Google หรือ Facebook ซึ่งหุ้นทุกตัวที่กล่าวมา ล้วนเป็นหนึ่งในหุ้นที่ถือโดยกองทุน K-USXNDQ-A ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (KAsset) โดยจากวิกฤติโควิด 19 ที่ผ่านมา ธุรกิจส่วนมากต้องปิดตัวลงไป คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางหรือทำธุรกรรมเหมือนเดิมได้ แต่มีอุตสาหกรรมหนึ่งที่สร้างผลตอบแทนได้ดีแม้ในช่วงวิกฤติโควิด 19 นั่นก็คือ อุตสาหกรรมเทคโนโลยี จากผลประกอบการ 1 ปีที่ผ่านมา กำไรของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี อย่างเช่น FANGMAN ได้เติบโตขึ้นอย่างมาก

28 มิ.ย. 2021

มุมมองต่อความล้มเหลว ของบริษัทระดับโลก เป็นแบบไหน ?

ความล้มเหลวและความกลัวที่จะผิดพลาด มักจะเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการหลาย ๆ คนกลัว เพราะกลัวว่าจะต้องสูญเสียทั้งเงินและทรัพยากรไปอย่างมหาศาล แต่ในบางครั้งการที่จะริเริ่มสร้างนวัตกรรมอะไรใหม่ ๆ ออกมา ก็มักจะต้องเริ่มจากศูนย์ จากการที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน และต้องแลกมาด้วยการผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกบริษัท ไม่เว้นแม้กระทั่งบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ แล้วบริษัทที่ประสบความสำเร็จระดับโลก มีมุมมองต่อความล้มเหลวอย่างไร ?

© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.