สรุป 8 อินไซต์ พฤติกรรมช็อปปิงแต่ละภาค จากเซ็นทรัลพัฒนา ข้อมูลเชิงลึกในศูนย์การค้าที่นักช็อปและเจ้าของธุรกิจต้องรู้

ล่าสุด เซ็นทรัลพัฒนา หรือเจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัล กว่า 40 แห่งทั่วประเทศไทย ได้ออกมาเปิดข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้า The 1 ผ่านการสะสมและแลกคะแนนที่โซนร้านค้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เป็นครั้งแรก

ที่น่าสนใจคือข้อมูลชุดนี้ วิเคราะห์มาจากฐานลูกค้าสมาชิกของ The 1 มากถึง 22 ล้านคน ซึ่งจำนวนนี้เทียบเท่า 1 ใน 3 ของประชากรไทยทั้งประเทศ และครอบคลุมกลุ่มประชากรระดับ Middle Class หรือกลุ่มชนชั้นกลาง

ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มการบริโภคสูง และสามารถสะท้อนพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยการที่เซ็นทรัลพัฒนา ออกมาเปิดเผยข้อมูลนี้ ทำให้เราเห็นแล้วว่า ศูนย์การค้าไม่ได้เป็นแค่สถานที่ให้คนมาเดินเล่นหรือจับจ่ายใช้สอยเพียงอย่างเดียว แต่ได้กลายเป็น ศูนย์กลางข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไปแล้ว

และนี่คือจุดที่ทำให้ The 1 BIZ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ สำหรับธุรกิจค้าปลีกในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ด้วยการรวบรวมข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า ผ่านเครือข่ายของ The 1

ซึ่งเป็น Loyalty Program ที่ใหญ่ที่สุดของไทย และถูกออกแบบมาให้เป็นมากกว่าระบบสะสมพอยต์ แต่เป็น Marketing Intelligence Solution หรือเครื่องมือที่ช่วยรวบรวม วิเคราะห์ และนำข้อมูลทางการตลาดมาใช้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจค้าปลีกเข้าใจลูกค้าได้ลึกขึ้น

แล้วเทรนด์ผู้บริโภคไทยในปีที่ผ่านมาจากลูกค้าที่ช็อปปิงในโซนร้านค้า มีอะไรน่าสนใจ ที่นักช็อปและเจ้าของธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้ได้บ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ ใน 8 ข้อ

1. ปีที่แล้วลูกค้าใช้คะแนน The 1 แลกอะไรบ้าง ?

- ลูกค้าสะสมคะแนนในโซนร้านค้าเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- สมาชิกกว่า 90,000 คน แลกคะแนนรวมกันเกิน 300 ล้านคะแนน เทียบเท่ากับการรับกาแฟแก้วละ 100 บาทฟรี กว่า 300,000 แก้ว
- บิลที่มีการสะสมคะแนนสูงสุดในปี 2567 อยู่ที่ 3.4 ล้านบาท และได้คะแนนสะสม 68,000 คะแนน
- ลูกค้ากว่า 3,300 คน ใช้คะแนน The 1 แทนเงินสดเต็มจำนวน ช็อปปิงฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่าย
- มีสมาชิก 1 คน ใช้คะแนนสูงสุดถึง 793,090 คะแนน แลกเป็นส่วนลดซื้อชุดเครื่องนอน ทำให้เหลือจ่ายเพียง 56,241 บาท

2. คนกรุงเทพฯ กระเป๋าหนัก ช็อปปิงแก้เครียด เพื่อให้รางวัลตัวเอง

คนกรุงเทพฯ ใช้ชีวิตเร่งรีบและต้องเจอกับความเครียดสูง การใช้จ่ายของลูกค้าโซนนี้จึงเป็นเหมือนการให้รางวัลตัวเอง และวิธีบำบัดความเครียดของคนเมือง ที่ต้องรับมือกับชีวิตที่เร่งรีบและเต็มไปด้วยแรงกดดัน

โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานที่มีกำลังซื้อสูง มองหาความสุขผ่านการสะสมของเล่นหายาก หรือชอบท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว

โดยเฉลี่ยลูกค้าโซนกรุงเทพฯ มีการแลกคะแนน 4,000 คะแนนต่อครั้ง เทียบเท่าส่วนลด 400 บาท

3. คนภาคกลาง กินต้องดี แกดเจ็ตต้องใหม่ ล้างรถต้องเนี้ยบ

ลูกค้าภาคกลางเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อตัวเองแบบเต็มที่ ส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานที่มีรายได้พอประมาณ และยังไม่มีภาระครอบครัวมากนัก จึงสามารถใช้เงินเพื่อเติมเต็มความสุขส่วนตัวได้อย่างเต็มที่

ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นจ่ายเงินเพื่อความสุขส่วนตัว โดยมีเรื่องกินมาเป็นอันดับหนึ่ง และอัปเดตเทรนด์แกดเจ็ตใหม่ ๆ ที่แบรนด์ไอทีเป็นประจำ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มลูกค้าที่ชอบใช้บริการล้างรถในศูนย์การค้าเซ็นทรัลมากที่สุดอีกด้วย

โดยเฉลี่ยลูกค้าภาคกลาง มีการแลกคะแนน 1,700 คะแนนต่อครั้ง เทียบเท่าส่วนลด 170 บาท และที่น่าสนใจก็คือ เมื่อลูกค้ากลุ่มนี้มีการแลกคะแนน ลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติถึง 2 เท่า

4. คนเหนือ กระเป๋าหนัก รักของไทย แต่เทคโนโลยีต้องใหม่ด้วย

ลูกค้าภาคเหนือขึ้นชื่อเรื่อง Local Pride พร้อมจ่ายเพื่อสนับสนุนแบรนด์ไทยและสินค้าพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นของใช้ อาหาร หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ ถึงแม้ลูกค้ากลุ่มนี้จะมีแนวโน้มเป็นกลุ่มที่มีอายุมากขึ้น แต่ยังให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและแกดเจ็ตใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

โดยเฉลี่ยลูกค้าภาคเหนือ มีการแลกคะแนน 3,600 คะแนนต่อครั้ง เทียบเท่าส่วนลด 360 บาท

5. คนอีสาน ช็อป เทรนด์ บิวตี้ คาเฟ ครบทุกไลฟ์สไตล์

ลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่ให้ความสำคัญกับลุคและสไตล์ของตัวเองแบบไม่มีหลุดกระแส จากข้อมูลพบว่า ลูกค้าภาคอีสานมีไลฟ์สไตล์ที่สนใจเทรนด์แฟชั่นและความงามเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า แบรนด์เนม หรือบริการเสริมความงาม

นอกจากนี้ยังใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์คอนเทนต์ ชอบเช็กอินคาเฟ และอัปเดตเทรนด์ใหม่บนโซเชียลตลอดเวลา แล้วเอาพอยต์ไปแลกคะแนน The 1 เพื่อซื้อสินค้าแกดเจ็ตไอทีใหม่ ๆ

โดยเฉลี่ยลูกค้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการแลกคะแนน 1,600 คะแนนต่อครั้ง เทียบเท่าส่วนลด 160 บาท

6. คนใต้ ใช้จ่ายกับลูกมากที่สุด

คนภาคใต้ที่เป็นพ่อแม่ยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกแบบมีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของเล่น หนังสือ หรือคอร์สเรียนเสริม พฤติกรรมการใช้คะแนน The 1 ของพ่อแม่กลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นทุกการใช้จ่ายในหมวดนี้คือ การลงทุนเพื่ออนาคตของลูก ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่ายทั่วไป

โดยเฉลี่ยลูกค้าภาคใต้ มีการแลกคะแนน 3,500 คะแนนต่อครั้ง เทียบเท่าส่วนลด 350 บาท

7. พ่อแม่ภาคตะวันออก กำลังซื้อสูง เน้นจ่ายเพื่อการเรียนรู้ของลูกเป็นหลัก

ลูกค้าภาคตะวันออกเป็นกลุ่มพ่อแม่ที่มีกำลังซื้อสูง และมองว่าการลงทุนเพื่อการศึกษาของลูกคือสิ่งที่คุ้มค่าที่สุด ไม่ว่าจะเป็น คอร์สเรียนพิเศษ ภาษา ดนตรี และการเสริมทักษะทุกด้าน เป็นสิ่งที่พ่อแม่กลุ่มนี้ยอมจ่ายโดยไม่ลังเล

โดยลูกค้าโซนนี้มียอดใช้จ่ายเพื่อการศึกษาแต่ละครั้งสูงถึง 10,000-50,000 บาท และมีการแลกคะแนนเฉลี่ย 3,000 คะแนนต่อครั้ง เทียบเท่าส่วนลด 300 บาท

8. ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา เป็นเจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัล กว่า 40 แห่งทั่วประเทศไทย

- ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล มีสินค้ารวม 8 หมวดหมู่ ได้แก่ สินค้าแฟชั่น สินค้าบิวตี้ สินค้าแม่และเด็ก ร้านอาหาร สินค้าเกี่ยวกับบ้าน สินค้าสุขภาพ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แกดเจ็ตไอที และบริการท่องเที่ยว

- รวมทั้งหมดกว่า 3,000 แบรนด์ และกว่า 30,000 ช่องทางการขายที่ลูกค้าสามารถมองเห็นแบรนด์

- ปัจจุบันมีแบรนด์ที่ร่วมมือกับ The 1 มากกว่า 1,000 แบรนด์ และกว่า 3,000 ร้านค้าทั่วประเทศไทย

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า ข้อมูลอินไซต์ที่อ่านมาทั้งหมดนี้
สามารถเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ?

ต้องบอกว่าฝั่งผู้บริโภคเองก็สามารถใช้การสะสมคะแนน The 1 มาเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การใช้จ่ายคุ้มค่ามากขึ้น โดยการบอกเบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับ The 1 ก่อนจ่ายเงินทุกครั้ง

โดยทุก 1,000 คะแนน ใช้แทนเงินสดได้ 100 บาท
ซึ่งสามารถนำไปใช้แลกเป็นส่วนลด หรือรับสิทธิพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำในศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้

อีกทั้งยังมีโปรโมชันอื่น ๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคสะสมคะแนนได้มากขึ้น เช่น

โปรโมชันการช็อปปิงช่วง 1 มีนาคม - 21 พฤษภาคม 2568
- สำหรับลูกค้า 3,000 คนแรก ที่ลงทะเบียนผ่าน The 1 APP รับคะแนน The 1 เพิ่ม 1,000 คะแนน เมื่อช็อปสะสมครบ 12,000 บาท
- สำหรับลูกค้าที่แลกพอยต์แทนเงินสด แลก 1,000 พอยต์ รับคืน 250 พอยต์ รับคืนสูงสุด 1,000 พอยต์
- สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวันรับคะแนนเพิ่มสูงสุด 3 เท่า (ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2568)

สุดท้ายแล้วการสะสมคะแนนง่าย ๆ เพียงแค่บอกเบอร์โทรศัพท์ทุกครั้งที่ซื้อของในเซ็นทรัล ก็จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของในราคาที่ดีขึ้นได้นั่นเอง

ในขณะเดียวกันฝั่งเจ้าของแบรนด์หรือนักการตลาด ก็สามารถเอาข้อมูลจาก The 1 BIZ ไปวางกลยุทธ์ต่อได้ ว่าจะเน้นทำตลาดที่พื้นที่ไหนให้ได้ลูกค้ามากที่สุด

เนื่องจาก The 1 BIZ มีข้อได้เปรียบด้านฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมศูนย์การค้ากว่า 40 แห่งทั่วประเทศ เชื่อมต่อฐานลูกค้ากว่า 22 ล้านคนทั่วไทย อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงข้อมูลการใช้จ่ายของกลุ่มลูกค้า Wealth Segment ผ่าน The 1 Exclusive ซึ่งมีกำลังซื้อสูงกว่าสมาชิกทั่วไป 30 เท่าได้อีกด้วย

นอกจากนี้ข้อมูลจากบัตรเครดิต Central The 1 ยังพบว่า การที่แบรนด์เข้าร่วมสะสมคะแนนกับ The 1 BIZ สามารถเพิ่มยอดขายได้สูงขึ้นถึง 26%

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของแบรนด์และนักการตลาด เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคแบบเจาะลึก และสามารถวางกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อย่างในอดีต การทำโปรโมชันของร้านค้าอาจใช้วิธีเดิม ๆ เช่น ลดราคาทุกสิ้นเดือน หรือ แจกของแถมช่วงเทศกาล โดยไม่มีข้อมูลมาสนับสนุนว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายต้องการอะไรจริง ๆ

แต่ข้อมูลจาก The 1 BIZ จะทำให้ผู้เช่ารู้ว่า
ลูกค้าของพวกเขาคือใคร ?
ใช้จ่ายอย่างไร ?
และมีพฤติกรรมแบบไหน ?

ซึ่งข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ ช่วยให้เจ้าของแบรนด์สามารถออกโปรโมชันได้ตรงจุด และทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยกตัวอย่างเช่น นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลจาก The 1 BIZ เพื่อกำหนดพื้นที่และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พร้อมออกแคมเปญที่ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าของแบรนด์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

สุดท้ายจะเห็นได้ว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขธรรมดา แต่สามารถช่วยให้ทั้งนักช็อปและเจ้าของธุรกิจวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาค จะช่วยให้แบรนด์พัฒนาแคมเปญที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น และการสะสมพอยต์และใช้ประโยชน์จาก The 1 ก็ทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายได้คุ้มค่ามากขึ้น และได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ นั่นเอง..