วิเคราะห์ แคมเปญ centralwOrld fashion citizens วิธีสร้างจุดเด่นด้านแฟชั่นให้ศูนย์การค้า สไตล์เซ็นทรัลเวิลด์

CPN x BrandCase

ล่าสุดเซ็นทรัลเวิลด์ มีการจัดแคมเปญ centralwOrld fashion citizens งานที่รวบรวมแบรนด์ดังกว่า 1,000 แบรนด์และไลฟ์สไตล์แฟชั่นที่หลากหลายไว้ในที่เดียว

ถ้าดูแค่ผิวเผินอิเวนต์นี้ก็เป็นแค่หนึ่งในอิเวนต์แฟชั่นที่ศูนย์การค้าจัดขึ้นมาเท่านั้น
แต่ถ้าหากเราลองซูมเข้าไปดูลึก ๆ และลองวิเคราะห์จะเห็นว่าภายในแคมเปญนี้มีกลยุทธ์ที่น่าสนใจซ่อนอยู่

แล้วอะไรที่ทำให้แคมเปญนี้แตกต่าง ?
และมีกลยุทธ์สำคัญอะไรที่ผู้บริโภคอย่างเราเรียนรู้จากเคสนี้ได้บ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

ก่อนอื่นต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าแคมเปญ centralwOrld fashion citizens เป็นแคมเปญที่เซ็นทรัลเวิลด์ใช้ สร้าง Fashion Community ที่แข็งแกร่ง โดยรวบรวมแบรนด์ดัง การจัดอิเวนต์ และกิจกรรมด้านแฟชั่นไว้ด้วยกัน

เพื่อตอกย้ำภาพการเป็นศูนย์กลางแฟชั่นของไทย ที่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Beyond The Vines, lululemon, CASETiFY, Rituals, Aristotle bag เลือกให้เป็นสถานที่สำหรับการเปิด New Flagship Store Exclusive - First time in Thailand

ภายในแคมเปญนี้จะมีอิเวนต์ใหญ่อยู่ 3 อิเวนต์ด้วยกัน คือ

Vogue Fest x GQ Playground

งานแฟชั่นเฟสติวัลสุดครีเอตที่สนับสนุนความหลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ โดยร่วมมือกับ Vogue และ GQ ที่เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์แฟชั่นในมิติที่ลึกซึ้งมากขึ้น พร้อมสนับสนุนแนวคิด Sustainable Fashion และการเชื่อมโยงไลฟ์สไตล์กับแฟชั่นในแบบที่แท้จริง

Gumball 3000

อิเวนต์แรลลี่ซูเปอร์คาร์ระดับโลกที่นำเสนอความผสมผสานระหว่างการแข่งรถ การท่องเที่ยว และแฟชั่นเข้าไว้ด้วยกัน เป็นอิเวนต์ที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวระดับโลก อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและเซเลบริตีจากทั่วโลก และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่น

Thailand Graduate Fashion Week 2024

เวทีที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศได้แสดงผลงานในรูปแบบ Sustainable Fashion ภายใต้ธีม Embrace the Art of Upcycling เน้นการใช้วัสดุเก่ามาสร้างสรรค์เป็นแฟชั่นใหม่ เป็นการเชื่อมโยงนักศึกษาและอุตสาหกรรมแฟชั่น เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับดิไซเนอร์รุ่นใหม่ในอนาคต

ทีนี้ถ้ามองให้ลึกลงไปกว่านั้น เราจะเห็นว่านี่ไม่ใช่แค่งานแฟชั่นโชว์ธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้าง Fashion Ecosystem

ซึ่งถ้าเราลองวิเคราะห์แคมเปญนี้ในมุมการตลาด จะเห็นว่าแคมเปญนี้สามารถสร้างจุดเด่นให้กับเซ็นทรัลเวิลด์หลัก ๆ 3 เรื่องด้วยกัน ได้แก่

ตอกย้ำ Brand Positioning ของเซ็นทรัลเวิลด์ สร้าง Fashion Destination ที่ครบวงจร

การสร้างแคมเปญ centralwOrld fashion citizens ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่แคมเปญที่เอาไว้นำเสนอตัวเองในฐานะศูนย์การค้าสำหรับดึงดูดผู้บริโภค

แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้เซ็นทรัลเวิลด์กลายเป็นคอมมิวนิตีแฟชั่นที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำกว่า 1,000 แบรนด์ไว้ในที่เดียว พร้อมกับการจัดกิจกรรมที่สะท้อนถึงความเป็นศูนย์กลางของชุมชนแฟชั่นในประเทศไทย

และหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของแคมเปญนี้คือการเชื่อมโยงแบรนด์กับเทรนด์ที่กำลังเติบโตอย่าง Sustainable Fashion ซึ่งตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและนวัตกรรม

นอกจากนี้ การสนับสนุน Young Designers ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ดิไซเนอร์รุ่นใหม่ได้แสดงผลงานในเวทีระดับสากล

ซึ่งนี่คือการวาง Position ในแบบของเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้ตัวเองเป็นมากกว่าแค่สถานที่ช็อปปิง แต่เป็น Fashion Hub ศูนย์กลางของชุมชนแฟชั่นที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย ที่ไม่ใช่แค่สำหรับนักช็อปปิง แต่เป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นและการสร้างสรรค์ใหม่ ๆ

สร้าง Community และ Fashion Ecosystem กับ 3 อิเวนต์ใหญ่

หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของแคมเปญ centralwOrld fashion citizens คือการสร้างชุมชนแฟชั่นที่เชื่อมโยงดิไซเนอร์รุ่นใหม่กับแบรนด์ และผู้บริโภค โดยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย

อีกทั้งเซ็นทรัลเวิลด์ยังได้สร้าง Community ที่เชื่อมโยงระหว่างสถาบันการศึกษากับอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ดิไซเนอร์รุ่นใหม่ได้ต่อยอดผลงานไปสู่ตลาดจริง เช่น Pop-Up Store ช่วยเสริมสร้าง Fashion Ecosystem ที่แข็งแกร่ง

การจัดงานในลักษณะนี้ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์ไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับแสดงแฟชั่นหรือขายสินค้าแฟชั่นแบบเดิม ๆ แต่ยังเป็นพื้นที่พัฒนาธุรกิจแฟชั่นและเวทีที่ช่วยส่งเสริมดิไซเนอร์รุ่นใหม่ได้อีกด้วย

ซึ่งถ้าเราลองวิเคราะห์ทั้ง 3 อิเวนต์ใหญ่ในงานนี้อย่าง Vogue Fest x GQ Playground, Gumball 3000 และ Thailand Graduate Fashion Week 2024 จะเห็นว่าทั้ง 3 อิเวนต์นี้ ไม่ได้เป็นแค่การจัดงานให้แตกต่างกันเท่านั้น

แต่เป็นการสร้าง Fashion Journey ที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ระดับ High Fashion ไปจนถึงการสนับสนุนดิไซเนอร์รุ่นใหม่

รวมถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่าง Vogue, GQ, Gumball 3000 และ Samsung แสดงให้เห็นถึงแนวคิดในการสร้าง Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่การทำการตลาดแบบผิวเผิน

ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้เซ็นทรัลเวิลด์ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าที่วิ่งตามกระแสแฟชั่นเท่านั้น แต่เป็นการยกระดับเซ็นทรัลเวิลด์ให้กลายเป็นผู้นำในตลาดแฟชั่นที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ผู้คน และอุตสาหกรรมแฟชั่นอย่างยั่งยืน

ช่วยดึงดูด Traffic และกระตุ้นยอดขาย

หนึ่งในผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สำคัญของแคมเปญนี้คือการกระตุ้นยอดขายและดึงดูด Traffic เข้าสู่ศูนย์การค้า การจัดงานที่มีการผสมผสานระหว่างแฟชั่น ศิลปะ และดนตรี จะช่วยดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ไม่ใช่แค่ลูกค้ากลุ่มแฟชั่นนิสตา แต่ยังรวมถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปที่ต้องการมาเยี่ยมชมและใช้เวลาที่เซ็นทรัลเวิลด์

ซึ่งการจัดอิเวนต์ใหญ่ ๆ อย่าง Vogue Fest x GQ Playground และ Gumball 3000 ไม่ได้แค่ดึงดูดกลุ่มคนที่รักแฟชั่นเท่านั้น แต่ยังสร้างความน่าสนใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์ในงานศิลปะด้วย

กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่ม Foot Traffic ให้กับศูนย์การค้าโดยตรง โดยเฉพาะการจัด Pop-Up Store ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าจากดิไซเนอร์รุ่นใหม่และแบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ

อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมต่อระหว่างรันเวย์แฟชั่นและร้านค้าภายในงาน ช่วยกระตุ้นยอดขายโดยตรงให้กับแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงช่วยให้ดิไซเนอร์รุ่นใหม่และแบรนด์แฟชั่นใหม่ ๆ สามารถเข้าสู่ตลาดและสร้างยอดขายได้

ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คงพอสะท้อนให้ผู้บริโภคอย่างเราได้เห็นแล้วว่าแคมเปญ centralwOrld fashion citizens สามารถสร้าง Win-Win Situation ให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้

ฝั่งเซ็นทรัลเวิลด์ก็ได้ประโยชน์จากการสร้าง Brand Positioning ให้แข็งแกร่งขึ้น พร้อมทั้งดึงดูด Traffic และเพิ่มยอดขายให้กับศูนย์การค้า

ในขณะที่ Young Designers ก็ได้รับโอกาสสำคัญในการแสดงผลงาน ต่อยอดธุรกิจ และสร้างเครือข่ายที่จำเป็นต่อการเติบโตในอนาคต

สุดท้ายในส่วนของลูกค้า แคมเปญนี้ก็มอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ผ่านกิจกรรมแฟชั่น ศิลปะ และดนตรี รวมถึงมีสินค้า Upcycling ตัวเลือกใหม่ ๆ ที่น่าสนใจให้ช็อปปิงมากขึ้นอีกด้วย..