อธิบาย เทคโนโลยี RFID ใต้ป้ายราคา ZARA ใช้เก็บข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

อธิบาย เทคโนโลยี RFID ใต้ป้ายราคา ZARA ใช้เก็บข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า

3 ส.ค. 2024
-RFID Technology ย่อมาจาก Radio-Frequency Identification
เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยในการเก็บหรือติดตามข้อมูลผ่านคลื่นวิทยุ
ซึ่งนี่คือเทคโนโลยีที่หลายแบรนด์เอามาใช้ในมุมธุรกิจ รวมถึงแบรนด์เสื้อผ้าระดับโลกอย่าง ZARA ด้วย

แล้ว ZARA เอา RFID มาใช้ทำอะไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ZARA เป็นแบรนด์เสื้อผ้าสัญชาติสเปน ก่อตั้งในปี 1975 โดยคุณ Amancio Ortega 
โดยที่ ZARA เป็นแบรนด์หลักภายใต้บริษัทแม่ชื่อว่า Inditex Group เครือร้านขายเสื้อผ้ายักษ์ใหญ่ระดับโลก 
ซึ่ง Inditex Group ก็มีแบรนด์อื่นในเครืออีก เช่น Pull&Bear, Massimo Dutti, Stradivarius และ Bershka 
โดยแบรนด์เรือธงอย่าง ZARA มีภาพลักษณ์หนึ่งที่สำคัญ คือ การออกเสื้อผ้าแฟชั่นคอลเลกชันใหม่ค่อนข้างบ่อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่น
ซึ่งวิธีที่จะสามารถผลิตสินค้าได้อย่างรวดเร็ว และถูกใจลูกค้า คือการบริหารและวิเคราะห์ข้อมูลให้ถูกต้องแม่นยำที่สุด
และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ ก็คือ RFID
Radio-Frequency Identification ประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ
- RFID Tag
ไมโครชิปขนาดเล็กที่ฝังอยู่ในวัตถุชนิดต่าง ๆ ได้ และภายในจะมีเสาอากาศและวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบุข้อมูลของวัตถุนั้น ๆ 
- RFID Reader 
เป็นเครื่องสแกนอ่านข้อมูลผ่านสัญญาณวิทยุ โดยจะใช้คู่กับ RFID Tag ทำให้ได้รับข้อมูลต่าง ๆ ที่อยู่ใน RFID Tag เช่น รู้ว่าสินค้าชนิดนี้ ผลิตที่ไหน, ใครเป็นผู้ผลิต และผลิตเมื่อใด 
ในปี 2014 ZARA ได้นำเทคโนโลยี RFID มาใช้ในการติดตามสินค้าคงคลัง 
โดยบริษัทจะทำการฝังชิปไว้ในแท็กพลาสติกที่ติดกับเสื้อผ้า เมื่อขายเสื้อผ้าชิ้นนั้นไปแล้ว ก็สามารถนำแท็กกลับมาใช้ใหม่ได้
โดยผลลัพธ์ที่ได้จากเทคโนโลยีขนาดจิ๋วนี้ คือการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบหลังบ้านของ ZARA ไม่ว่าจะเป็น
- สามารถติดตามสินค้าได้อย่างแม่นยำ ลดปัญหาสินค้าขาด หรือล้นสต๊อก
- จัดส่งสินค้าไปยังร้านค้าได้เร็วขึ้น เนื่องจากสามารถระบุตำแหน่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว
- พนักงานสามารถตรวจสอบสินค้าจากสาขาอื่น ๆ ได้เร็วขึ้น
- มีระบบแจ้งเตือนเมื่อสินค้าใกล้หมด ทำให้เติมสต๊อกได้ทันที
- เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า เพราะช่วยให้รู้ว่าลูกค้าลองเสื้อผ้าชิ้นไหนบ้าง แม้จะไม่ได้ซื้อ 
- แก้ปัญหาสินค้าถูกขโมย
อีกทั้งเทคโนโลยี RFID ยังช่วยลดเวลาในการตรวจนับสินค้าคงคลังได้อีกด้วย
โดย Wall Street Journal ได้เปิดเผยข้อมูลว่า จากเดิมที่ใช้พนักงาน 40 คน ต่อการทำงาน 5 ชั่วโมง RFID จะช่วยทุ่นแรงได้เยอะ 
และลดจำนวนพนักงานที่จำเป็นให้เหลือเพียง 10 คน ต่อการทำงาน 5 ชั่วโมง เท่ากัน
RFID จึงเป็นตัวช่วยให้ ZARA ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น 
- ลดปัญหาสินค้าหาย สต๊อกสินค้าไม่ตรง และใช้เวลานานในการนับสต๊อก
- ลดปัญหาลูกค้าหงุดหงิด เนื่องจากไม่มีสินค้าที่ลูกค้าต้องการในร้าน ทำให้สูญเสียรายได้ 
- ลดปัญหาค่าใช้จ่ายสูงในการรักษาความปลอดภัย และการสูญเสียรายได้จากการถูกขโมย
ZARA จึงเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ในฐานะแบรนด์ที่นำเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจแฟชั่น 
จนสามารถปรับปรุงการผลิตให้ตรงตามความต้องการของตลาดได้ ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ และตอบสนองเทรนด์แฟชั่นล่าสุดได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งเทคโนโลยี RFID ที่ว่านี้ ก็คือทีเด็ดสำคัญของ ZARA ..
__________________________
เปิดจอง IPO MEGA10EURO วันที่ 30 ก.ค. - 6 ส.ค. นี้
ร่วมเป็นเจ้าของ 10 บริษัททรงอิทธิพลในยูโรโซน กับ MEGA10EURO
- กองทุนเปิด MEGA10EURO ชนิดสะสมมูลค่า (MEGA10EURO-A) ชนิดเพื่อการออม (MEGA10EURO-SSF) และกองทุนเปิด MEGA10EURO เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10EURORMF) เป็นกองทุนที่จะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่อยู่ใน Euro Stoxx 50 ดัชนีหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศยูโรโซน
โดยคัดเลือกมาจากบริษัท ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูง และมีสภาพคล่องสูง จำนวน 10 บริษัท เช่น LVMH, Hermès, L'Oréal, Inditex (เจ้าของ Zara) และ EssilorLuxottica*
*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น 
MEGA10EURO-A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return)
MEGA10EURO-SSF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาว 
MEGA10EURORMF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ 
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 หรือ www.talisam.co.th และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
ผู้สนับสนุนการขาย ได้แก่
1. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
2. บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
3. บริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด
4. บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
6. บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
7. บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
8. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด
9. บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
10. บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
11. บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
12. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
13. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
14. บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน)
15. บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน)
16. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
17. บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เทรเชอริสต์ จำกัด
18. บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
19. บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
20. บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด
21. บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
22. บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด
23. บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
24. บริษัทหลักทรัพย์ เว็ลธ์ เมจิก จำกัด
25. บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
26. บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด
27. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 
28. บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด
29. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ รายชื่อผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน อาจมีการปรับเปลี่ยนได้ และเป็นไปตามเงื่อนไขของผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน
กองทุนนี้มีการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการลงทุนกระจุกตัวของหลักทรัพย์ และ หมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
References
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.