สรุป แคมเปญ RE.UNIQLO กิจกรรมด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ (ประเทศไทย)
17 ม.ค. 2024
ล่าสุด คุณเขมจิรา เทศประทีป ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท ยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็น “แผนและเป้าหมายด้านความยั่งยืนของ ยูนิโคล่ ประเทศไทย ในปี 2567”
รวมถึงอัปเดทความเคลื่อนไหวของผลสรุปกิจกรรมด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ ประเทศไทย ในปีที่ผ่านมา
มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
1. กิจกรรมด้านความยั่งยืนของยูนิโคล่ (ประเทศไทย) ที่ผลักดัน และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) จะเน้นที่เป้าหมายดังต่อไปนี้
- เป้าหมายที่ 3 สร้างหลักประกันว่าคนมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคนในทุกวัย
- เป้าหมายที่ 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพดิน และหยุดยั้งการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
2. โครงการ RE.UNIQLO คือโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าใหม่ให้กับเสื้อผ้าเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้ว มีจุดประสงค์ในการผลักดันการใช้เสื้อผ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดอายุการใช้งาน เพื่อตอกย้ำพันธกิจในการดำเนินงานเพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยตั้งอยู่บนปณิธาน 4 ข้อ ได้แก่
- Reuse การใช้ซ้ำโดยบริจาคเสื้อผ้าที่ใช้แล้วสภาพดีให้กับผู้ที่ขาดแคลน
- Recycle แปรสภาพเป็นเชื้อเพลิงหรือวัตถุดิบสำหรับการผลิตเสื้อผ้าตัวใหม่
- Repair การซ่อมแซมเสื้อผ้าตัวโปรดให้กลับมาใช้งานได้อย่างยาวนาน
- Remake การแปลงโฉม และตกแต่งลูกเล่นบนเสื้อผ้าอย่างมีสไตล์
โดยบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ตั้งเป้าการบริจาคเสื้อผ้าทั่วโลกไว้ที่ 10 ล้านตัวต่อปี ภายในปี 2568 ทั้งนี้ยูนิโคล่ ประเทศไทย ได้ร่วมโครงการ RE.UNIQLO ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 9 ปีแล้ว และบริจาคเสื้อผ้าให้กับองค์กรการกุศลเพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการแล้วกว่า 200,000 ตัว
3. โครงการ RE.UNIQLO 50,000 Warm Clothes หรือ การบริจาคเสื้อกันหนาว 50,000 ตัว เพื่อช่วยผู้ประสบภัยหนาว เป็นกิจกรรมของยูนิโคล่ ประเทศไทย ริเริ่มในปี 2566 ที่เชิญชวนให้คนไทยนำเสื้อหนาว หรือเสื้อแขนยาวมาบริจาคให้ผู้ประสบภัยหนาว เพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ต้องการผ่านความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตร ได้แก่ มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิบ้านร่มไทร และ UNHCR ประเทศไทย
ซึ่งยูนิโคล่ได้ทำการรวบรวมเสื้อผ้ากันหนาวทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งภายในองค์กรเป็นการรวบรวมจากพนักงานยูนิโคล่ทั้งที่ร้านสาขาและสำนักงานใหญ่ ด้านภายนอกองค์กร ได้แก่ การตั้งกล่องบริจาคจากลูกค้าที่ร้านยูนิโคล่ทุกสาขา และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน ที่อยู่อาศัย ในการตั้งกล่องบริจาคเพิ่มเติมอีกด้วย
นอกจากนี้ยูนิโคล่ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสร้างความตระหนักรู้ถึงการใช้เสื้อผ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดในหมู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ จึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรม “ส่งต่อความอบอุ่นด้วยพลังของเสื้อผ้า” (Passing Warmth Through THE POWER OF CLOTHING) ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมกับ 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนทับทอง และโรงเรียนอนุบาลกลมเกลียว เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ความขาดแคลนเสื้อผ้ากันหนาวในประเทศไทย รวมถึงพลังแห่งการแบ่งปัน โดยกิจกรรมนี้ทำให้สามารถรวบรวมเสื้อกันหนาวเด็กได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
โดยยอดบริจาคนับถึงปลายเดือนธันวาคม 2566 มีผู้บริจาคเสื้อผ้าทั้งหมดกว่า 94,155 ตัว ซึ่งสูงกว่าการบริจาคเสื้อผ้าในปี 2565 กว่า 4 เท่า (ปี 2565 มีผู้บริจาคเสื้อผ้าทั้งหมด 23,696 ตัว) และในจำนวนนี้ยูนิโคล่ได้คัดแยกเสื้อกันหนาว เสื้อแขนยาว และเสื้อผ้าประเภทอื่นๆ ที่อยู่ในสภาพดี ส่งมอบต่อให้ผู้ที่ขาดแคลนแล้วกว่า 24,000 ชิ้น
ซึ่งยูนิโคล่ได้ส่งมอบเสื้อผ้าให้ผู้ที่ขาดแคลน ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิกระจกเงาผ่านการจัดตั้งเป็นมุมสินค้าบริจาคกึ่งถาวรภายในศูนย์ของมูลนิธิที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งมูลนิธิกระจกเงาจะเป็นผู้ประสานกับผู้ที่ขาดแคลนเสื้อผ้าให้สามารถเข้ามาหยิบเลือกที่ศูนย์ได้โดยตรง และเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2567 เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ยูนิโคล่ และ มูลนิธิฯ ได้มีการจัดกิจกรรม “งานวันเด็กหลังเขา” เพื่อมอบความสุขและความอบอุ่นให้เด็กๆ ในพื้นที่
นอกจากนี้ยังมีการส่งมอบผ่านศูนย์ป่วยให้ยืมของมูลนิธิกระจกเงาในจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเครือข่ายช่วยกระจายเสื้อผ้าที่มีการนำไปมอบให้ผู้ขาดแคลนในจังหวัดอุบลราชธานี และศรีสะเกษ และสำหรับมูลนิธิบ้านร่มไทร ทางมูลนิธิได้ส่งมอบเสื้อผ้าบริจาคจากยูนิโคล่ ให้แก่หมู่บ้านชาวชาติพันธุ์ในพื้นที่ห่างไกลบนภูเขา อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ไปแล้วทั้งหมด 5 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ยูนิโคล่ตั้งเป้าบริจาคเสื้อผ้าให้ครบ 50,000 ชิ้นภายในต้นปี 2567 ซึ่งจะรวมถึงพื้นที่พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้หนีภัยฯ ทางภาคเหนือ ผ่าน UNHCR ประเทศไทย และยังคงเดินหน้ากิจกรรมด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป้าหมายในการทำให้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมของคนไทยดียิ่งขึ้น