โมเดลธุรกิจ Plan B บริษัทสื่อนอกบ้าน ใหญ่สุดในไทย ที่ไม่ได้ทำแค่ ป้ายโฆษณา

โมเดลธุรกิจ Plan B บริษัทสื่อนอกบ้าน ใหญ่สุดในไทย ที่ไม่ได้ทำแค่ ป้ายโฆษณา

4 ม.ค. 2024
โมเดลธุรกิจ Plan B บริษัทสื่อนอกบ้าน ใหญ่สุดในไทย ที่ไม่ได้ทำแค่ ป้ายโฆษณา | BrandCase
Plan B ชื่อเต็ม ๆ คือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสื่อนอกบ้าน ที่ใหญ่สุดในไทย มีมูลค่าบริษัทกว่า 36,000 ล้านบาท
ธุรกิจหลักของ Plan B อธิบายง่าย ๆ คือทำป้ายโฆษณา แล้วให้คนมาจ่ายเงิน เพื่อลงโฆษณาในป้ายเหล่านั้น ซึ่งป้ายโฆษณาของ Plan B จะอยู่ตามสถานที่สำคัญ ๆ
เช่น ตามศูนย์การค้าใหญ่ ๆ, ย่านธุรกิจ, ถนนใหญ่, ทางด่วน, ป้ายรถเมล์ ไปจนถึงใน 7-Eleven
แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว Plan B ยังมีธุรกิจอื่นในมืออีก นอกจากเป็นเจ้าของป้ายโฆษณา
โมเดลธุรกิจของ Plan B น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ไอเดียธุรกิจของ Plan B เริ่มต้นจาก คุณปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ที่เรียนจบปริญญาตรี สาขาการตลาด จากสหรัฐอเมริกา
คุณปรินทร์ เป็นคนที่สนใจธุรกิจด้านสื่อโฆษณามาก
จนมาวันหนึ่งก็คิดว่า ถ้าลองทำสื่อโฆษณาบนรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ ที่วิ่งไปทั่วเมือง
จะมีคนเห็นจำนวนมาก ในขณะที่ต้นทุนก็ไม่แพงจนเกินไป
คุณปรินทร์ ตั้งบริษัท Plan B ขึ้นมาในปี 2548
แล้วเริ่มต้นธุรกิจด้วยสื่อโฆษณา แปะด้านข้างรถเมล์ปรับอากาศยูโรทู
โดยได้สัมปทานจาก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ให้ติดตั้งพื้นที่โฆษณาทั้งหมด 1,200 คัน
เมื่อผลตอบรับดี ก็ได้ขยายธุรกิจไปทำสื่อโฆษณากลางแจ้ง เริ่มจากบนตู้โทรศัพท์สาธารณะ
ต่อมาก็เริ่มทำป้ายบิลบอร์ด บริเวณทางด่วน บนรถไฟฟ้า BTS และ MRT
จากนั้นก็ขยายไปยังศูนย์การค้าทั่วกรุงเทพมหานคร
เมื่อธุรกิจเริ่มเติบโตไประดับหนึ่ง Plan B ก็จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2558
และเริ่มขยายธุรกิจสื่อโฆษณาเพิ่มเติม ไปยังหัวเมืองในต่างจังหวัด
กลยุทธ์ของ Plan B อย่างหนึ่งคือ การเข้าควบรวมกิจการกับบริษัทที่ทำธุรกิจสื่อโฆษณาอื่น ๆ เพื่อขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้น
ตัวอย่างเช่น
ควบรวมกิจการ บริษัท แม็กซ์วิว มีเดีย กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นเจ้าของสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยทั่วประเทศควบรวมกิจการ กับบริษัททำสื่อโฆษณาหลายแห่งในสนามบิน เพื่อเป็นเจ้าของสื่อโฆษณาในสนามบิน 34 แห่งทั่วประเทศ
เวลาต่อมา Plan B ก็เปิดตัวสื่อโฆษณาดิจิทัล ตั้งแต่ตามศูนย์การค้าชื่อดัง ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ อย่างเช่น
สื่อโฆษณาดิจิทัล The panoramix @ CentralwOrld ในปี 2561
ปัจจุบันเป็นจอดิจิทัล LED ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ตรงลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์เปิดตัวสื่อโฆษณาดิจิทัล Paragon Motion Block ที่อยู่บริเวณลานน้ำพุ หน้าสยามพารากอน ในปี 2562ติดตั้งพื้นที่สื่อโฆษณาจอ LED ภายใน 7-Eleven มากถึง 2,000 สาขา ในปี 2564
นอกจากนี้ Plan B ก็ได้มีโปรเจกต์ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร
เพื่อออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สำหรับคนเมือง และให้มีสื่อโฆษณาพ่วงไปด้วย
อย่างเช่น
ออกแบบระบบ Bangkok Jam สื่อโฆษณาดิจิทัล พร้อมระบบป้ายจราจรอัจฉริยะ ช่วยรายงานสภาพการจราจรบนถนนสายสำคัญทั่วกรุงเทพมหานคร ในปี 2562ปรับปรุงป้ายรถเมล์โดยสารทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,170 ป้าย แล้วเสร็จในปี 2564
โดยมีการติดตั้งระบบดิจิทัลในป้ายรถเมล์ บอกสายรถเมล์ที่วิ่งผ่าน และสามารถบอกเวลาที่รถเมล์จะมาถึง
นอกจากธุรกิจสื่อโฆษณาแล้ว ปัจจุบัน Plan B ก็ยังมีอีกธุรกิจหนึ่ง นั่นคือ ธุรกิจผลิตคอนเทนต์
ซึ่ง Plan B เรียกว่า “ธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม”
โดยธุรกิจในส่วนนี้ก็เช่น การจัดอิเวนต์, ผลิตรายการโทรทัศน์, บริหารสิทธิ์คอนเทนต์, บริหารศิลปิน
โดยเริ่มจากการได้เป็นเจ้าของวง BNK48 ผ่านการซื้อหุ้นของ บริษัท บีเอ็นเค48 ออฟฟิศ จำกัด
เจ้าของลิขสิทธิ์วง BNK48 ในประเทศไทยทั้งหมด 35% ในปี 2561ปี 2562 เป็นตัวแทนในการบริหารสิทธิ์ การถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
Plan B ยังได้ลงทุนร่วมจัดรายการ อย่างเช่น
ร่วมลงทุนผลิตรายการ The Voice All Starsการจัดการแข่งขันมวยระดับประเทศ ที่เวทีมวยราชดำเนิน และเข้าถือหุ้นใน บริษัท เวทีราชดำเนิน จำกัด
ซึ่ง Plan B ก็เป็นผู้จัดมวยแมตช์พิเศษ ระหว่าง บัวขาว กับ โคตะ นักชกวัยหนุ่มจากญี่ปุ่น เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา
การจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอน ที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดระยองในปี 2566
สำหรับธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม ทำให้ Plan B มีรายได้จากคอนเทนต์ใหม่ ๆ
อย่างรายการ The Voice Thailand หรืออิเวนต์ต่าง ๆ ผ่านช่องทาง หรือแพลตฟอร์มของสื่ออื่น ๆ
เช่น ทีวี, สื่อออนไลน์, วิทยุ, สื่อสิ่งพิมพ์ โดยที่ไม่ต้องเป็นเจ้าของสื่อเอง
และอีกอย่างก็คือ รายการและอิเวนต์ต่าง ๆ เหล่านี้ Plan B ก็มีช่องทางหลักในการโปรโมตอยู่แล้ว
คือ ช่องทางป้ายโฆษณาของตัวเอง ที่มีอยู่ตามสถานที่สำคัญ ๆ ทั่วประเทศ
และถ้าหากเราไปดูรายได้ และกำไรของ Plan B
ปี 2564 มีรายได้ 4,607 ล้านบาท กำไร 64 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้ 6,706 ล้านบาท กำไร 703 ล้านบาท
9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้ 5,947 ล้านบาท กำไร 620 ล้านบาท
และถ้าเราไปดูรายได้ของบริษัท Plan B สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2566 ทุก ๆ 100 บาท มาจาก
ธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน 79 บาทธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม 20 บาทรายได้อื่น ๆ 1 บาท
ซึ่งนี่คือโมเดลรายได้ของ Plan B
บริษัทสื่อนอกบ้าน ใหญ่สุดในไทย ที่ไม่ได้ทำแค่ ป้ายโฆษณา..
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.