โมเดลธุรกิจ ราชธานีลิสซิ่ง 71% ของพอร์ต เป็นสินเชื่อรถบรรทุก
12 ต.ค. 2023
โมเดลธุรกิจ ราชธานีลิสซิ่ง 71% ของพอร์ต เป็นสินเชื่อรถบรรทุก | BrandCase
บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง คือผู้ให้บริการสินเชื่อเจ้าหนึ่ง ที่อยู่ในตลาดหุ้นไทย
ซึ่งที่น่าสนใจคือ พอร์ตสินเชื่อของบริษัทนี้ เป็นสินเชื่อรถบรรทุกถึง 71% ..
ซึ่งที่น่าสนใจคือ พอร์ตสินเชื่อของบริษัทนี้ เป็นสินเชื่อรถบรรทุกถึง 71% ..
แล้วโมเดลธุรกิจของ ราชธานีลิสซิ่ง น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เกิดขึ้นมาเมื่อปี 2531
โดยในช่วงแรก ทำธุรกิจหลัก ๆ คือให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เก่า
โดยในช่วงแรก ทำธุรกิจหลัก ๆ คือให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เก่า
ราชธานีลิสซิ่ง จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นไทยในปี 2545
และปัจจุบัน ราชธานีลิสซิ่ง มีธุรกิจหลักคือ ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเช่าการเงิน
และปัจจุบัน ราชธานีลิสซิ่ง มีธุรกิจหลักคือ ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเช่าการเงิน
นอกจากนี้ยังให้บริการอื่น ๆ เช่น
-สินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อเพื่อผู้จำหน่ายรถยนต์
-ให้บริการต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ประจำปี
-ประสานงานการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย
-นำรถยนต์ไปตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีทะเบียนรถยนต์
-สินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อเพื่อผู้จำหน่ายรถยนต์
-ให้บริการต่อภาษีทะเบียนรถยนต์ประจำปี
-ประสานงานการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย
-นำรถยนต์ไปตรวจสภาพเพื่อต่อภาษีทะเบียนรถยนต์
แล้วโมเดลธุรกิจของ ราชธานีลิสซิ่ง เป็นอย่างไร ?
ราชธานีลิสซิ่ง มีผลิตภัณฑ์และบริการแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
1.ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และสินเชื่อเช่าการเงิน
การเช่าซื้อรถยนต์ อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การที่ผู้เช่าซื้อ นำรถยนต์ไปใช้ก่อนได้ แม้จะไม่มีกรรมสิทธิ์
แลกกับการชำระเงินเป็นงวด ๆ ตามจำนวนเงิน และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
แลกกับการชำระเงินเป็นงวด ๆ ตามจำนวนเงิน และระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา
แล้วเมื่อชำระเงินครบแล้วก็จะได้รับกรรมสิทธิ์ หรือความเป็นเจ้าของในรถยนต์ไป นั่นเอง
ส่วนสินเชื่อเช่าการเงิน (Financial Lease) เป็นสัญญาลิสซิง (Leasing) หรือสัญญาเช่าระยะยาวประเภทหนึ่ง
ซึ่งผู้เช่ามีสถานะเหมือนเป็นเจ้าของสินค้าที่เช่า เพราะผู้เช่าจะได้รับทั้งผลตอบแทน และความเสี่ยงทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดของสินค้า ตลอดระยะเวลาที่เช่า
ซึ่งผู้เช่ามีสถานะเหมือนเป็นเจ้าของสินค้าที่เช่า เพราะผู้เช่าจะได้รับทั้งผลตอบแทน และความเสี่ยงทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดของสินค้า ตลอดระยะเวลาที่เช่า
สิ่งที่สัญญาเช่าการเงินแตกต่างจาก สัญญาเช่าซื้อ
ชัดเจนที่สุดคือ เมื่อสัญญาเช่าการเงินครบกำหนดสัญญา ผู้เช่าจะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในสิ่งที่เช่า แต่จะมีสิทธิ์เลือกว่าจะซื้อสินค้าที่เช่าหรือไม่ซื้อก็ได้
ชัดเจนที่สุดคือ เมื่อสัญญาเช่าการเงินครบกำหนดสัญญา ผู้เช่าจะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในสิ่งที่เช่า แต่จะมีสิทธิ์เลือกว่าจะซื้อสินค้าที่เช่าหรือไม่ซื้อก็ได้
ถ้าตัดสินใจไม่ซื้อ ต้องส่งคืนสินค้าแก่ผู้ให้เช่าไป
แต่ถ้าเลือกซื้อสินค้า ก็จะได้ราคาที่ถูกลงจากราคาสินค้าตามปกติ
แต่ถ้าเลือกซื้อสินค้า ก็จะได้ราคาที่ถูกลงจากราคาสินค้าตามปกติ
ซึ่งที่อธิบายมานี้ ธุรกิจให้สินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถยนต์ ถือเป็นธุรกิจหลักของราชธานีลิสซิ่ง
โดยรายได้กว่า 78% มาจากธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประเภทต่าง ๆ
โดยรายได้กว่า 78% มาจากธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ประเภทต่าง ๆ
ซึ่งราชธานีลิสซิ่ง เน้นไปที่ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เป็นหลักทั้งเก่าและใหม่
เช่น รถบรรทุก รถหัวลาก รถกระบะ รถแท็กซี่ รวมถึงตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลที่ใช้แล้ว หรือรถมือสองด้วย
โดยในปี 2565 ราชธานีลิสซิ่ง มีมูลค่าพอร์ตสินเชื่อสัญญาเช่าซื้อ รวม 57,589 ล้านบาท
ซึ่งถ้ามาดูสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อในปี 2565 ของ ราชธานีลิสซิ่ง
-รถบรรทุก 71%
-รถหรู 22%
-รถจักรยานยนต์ 2%
-รถแท็กซี่ 1%
-รถอื่น เช่น ๆ รถยนต์ 4 ที่นั่ง รถกระบะ รถบัส รถแทรกเตอร์ 4%
-รถบรรทุก 71%
-รถหรู 22%
-รถจักรยานยนต์ 2%
-รถแท็กซี่ 1%
-รถอื่น เช่น ๆ รถยนต์ 4 ที่นั่ง รถกระบะ รถบัส รถแทรกเตอร์ 4%
ถ้าแบ่งสัดส่วนสินเชื่อตาม รถใหม่ป้ายแดง กับรถเก่ามือสอง
-สินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ 57%
-สินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง 43%
-สินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ 57%
-สินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง 43%
จากสัดส่วนสินเชื่อข้างต้นจะเห็นได้ว่า ราชธานีลิสซิ่ง เน้นให้สินเชื่อเช่าซื้อรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก
โดยเฉพาะรถบรรทุก
โดยเฉพาะรถบรรทุก
เนื่องจาก ราชธานีลิสซิ่ง ให้บริการสินเชื่อประเภทนี้มานาน มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาดรถบรรทุกเป็นอย่างดี
2.ธุรกิจให้บริการสินเชื่อเงินให้กู้ยืม
เป็นธุรกิจให้สินเชื่อเงินกู้ยืมแก่ลูกค้าที่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ โดยใช้ใบคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริง เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการขอสินเชื่อ
นอกจากนี้ยังให้บริการสินเชื่อแก่ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนและเสริมสภาพคล่องในการจัดซื้อรถยนต์มาจำหน่าย
3.ธุรกิจนายหน้าประกันภัย
เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ ทั้งประกันภัยภาคสมัครใจ ประกันภัยภาคบังคับ และประกันชีวิต
ดำเนินการผ่านบริษัทย่อย บริษัท อาร์ทีเอ็น อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (RTN)
โดยให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อทั้ง 3 ประเภทข้างต้นของบริษัท
ดำเนินการผ่านบริษัทย่อย บริษัท อาร์ทีเอ็น อินชัวร์รันส์ โบรกเกอร์ จำกัด (RTN)
โดยให้บริการแก่ลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อทั้ง 3 ประเภทข้างต้นของบริษัท
แล้วโครงสร้างรายได้ของ ราชธานีลิสซิ่ง ในปี 2565 มีรายได้มาจากธุรกิจไหนบ้าง ?
1.รายได้จากสัญญาเช่าซื้อ 78%
แบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 22%
-รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 56%
แบ่งเป็น
-รถยนต์นั่งส่วนบุคคล 22%
-รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 56%
2.รายได้จากสัญญาเช่าการเงิน 0.8%
3.รายได้จากสัญญาเงินให้กู้ยืม 0.2%
4.รายได้อื่น 21%
เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ, รายได้ค่านายหน้าเบี้ยประกัน
เช่น รายได้ค่าธรรมเนียมและค่าบริการ, รายได้ค่านายหน้าเบี้ยประกัน
ซึ่งในภาพรวมแล้ว ผลประกอบการของบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
ปี 2563 รายได้ 4,300 ล้านบาท กำไร 1,860 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 4,200 ล้านบาท กำไร 1,700 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 4,400 ล้านบาท กำไร 1,750 ล้านบาท
References
-รายงานประจำปี 2565 แบบ 56-1 ของบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
-https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/THANI/financial-statement/company-highlights
-https://rabbitcare.com/what-is-leasing.auto-loan.financial-guide
-รายงานประจำปี 2565 แบบ 56-1 ของบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน)
-https://www.set.or.th/th/market/product/stock/quote/THANI/financial-statement/company-highlights
-https://rabbitcare.com/what-is-leasing.auto-loan.financial-guide