โมเดลธุรกิจ MuvMi ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เรียกผ่านแอป แก้ปัญหาโดนโก่งราคาค่าโดยสาร

โมเดลธุรกิจ MuvMi ตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เรียกผ่านแอป แก้ปัญหาโดนโก่งราคาค่าโดยสาร | BrandCase
คนทำงานหรือคนที่อาศัยอยู่ใกล้ ๆ โซนรถไฟฟ้า หลายคนพอลงรถไฟฟ้าแล้ว ต้องหารถนั่งอีกต่อหนึ่ง ซึ่งตัวเลือกก็จะมีตั้งแต่ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ โบกแท็กซี่ หรือเรียกแกร็บ

แต่ปัญหาของหลายคนคือ ไม่ชอบนั่งมอเตอร์ไซค์เพราะกลัวอุบัติเหตุ หรือจะเรียกแท็กซี่ นั่งคนเดียวก็ราคาแพงเกินไป

ปัญหาตั้งต้นเหล่านี้ ทำให้เกิดเป็นโมเดลธุรกิจ “รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ขับเฉพาะย่าน แบบราคาที่เข้าถึงง่าย” ขึ้นมา

โมเดลธุรกิจที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ มีชื่อว่า “MuvMi” บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า เรียกผ่านแอปพลิเคชัน ในราคาเป็นมิตร

โมเดลธุรกิจของ MuvMi เป็นอย่างไร ?
BrandCase มีโอกาสได้คุยกับ MuvMi ถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ รวมถึงสิ่งที่ MuvMi กำลังทำอยู่ในตอนนี้ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

-จุดเริ่มต้นของ MuvMi เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2561 หรือเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว

โดยกลุ่มเพื่อน ๆ สมัยเรียน 4 คน ได้แก่

1.คุณมิก-ดร.กฤษดา กฤตยากีรณ CEO ผู้จุดไอเดียธุรกิจ

2.คุณตี้-ศุภพงษ์ กิติวัฒนศักดิ์ Co-Founder ผู้ดูแลด้าน Business Development

3.คุณอั๋น-พิพัฒน์ ตั้งสิริไพศาล Chief Engineering ผู้ดูแลฝั่งผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า

4.คุณเมฆ-เมธา เจียรดิฐ ผู้ดูแลระบบซอฟต์แวร์

ทั้ง 4 คนมีเป้าหมายเดียวกันคือ อยากแก้ปัญหาการเดินทางที่ไม่ครอบคลุมในกรุงเทพมหานคร ระหว่างการขนส่งสาธารณะหลัก (Mass Transit) คือรถไฟฟ้า กับการเดินทางระยะสั้น ๆ (Micro Transit) ช่วงสุดท้ายต่อ หลังจากนั้น

โดย Micro Transit ก็อย่างเช่น การเดินทางจากซอยหน้าคอนโดมิเนียม ไปยังสถานีรถไฟฟ้าเพื่อทำงาน
หรือเมื่อลงจากสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ต้องเดินทางเข้าซอยต่อ เพื่อไปสถานที่ใกล้ ๆ

จาก Pain Point ตรงนี้เอง ที่ทำให้ผู้ก่อตั้งทั้ง 4 คน มองเห็นโอกาส และตั้งเป็น บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด

โดยบริษัทนี้ ให้บริการ “MuvMi” เครือข่ายรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า พร้อมแอปพลิเคชันเรียกรถ ให้บริการตามย่านสำคัญต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร และคิดค่าบริการราคาถูก

ซึ่งต้องบอกว่าโมเดลของ MuvMi คือ มีรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าและพนักงานขับรถ เป็นของบริษัทเอง

-แล้วทำไม MuvMi ถึงเลือกใช้โมเดลรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ?

อย่างแรกเลยคือ ปัญหาด้านผังเมืองของกรุงเทพมหานครที่มีความซับซ้อน เป็นตรอกซอย ขนาดเล็กเต็มไปหมด

ดังนั้นโมเดลรถที่มองหาคือ ต้องมีขนาดที่เล็กพอให้สามารถขับซอกแซกตามซอยได้

ต่อมาคือปัญหาเรื่องความปลอดภัยขณะโดยสาร ที่เราอยากจะแก้ไขให้มันดีขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งถ้าดูจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่มาจากรถมอเตอร์ไซค์ก็เป็นสัดส่วนที่เยอะ

ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ ไม่ตอบโจทย์กับการแก้ปัญหาที่เราอยากจะแก้ และอยากจะยกระดับ
รวมถึงความสะดวกในการใช้งาน ก็ต้องมีความสะดวกสบาย และง่ายสำหรับผู้โดยสารทุกช่วงวัยด้วย

ดังนั้นคำตอบจึงมาลงตัวที่ “รถตุ๊กตุ๊ก”

โดยโมเดลแรกที่เริ่มทดลองก็คือ รถตุ๊กตุ๊กธรรมดา หรือก็คือรถตุ๊กตุ๊กประเภทแก๊สและน้ำมันตามท้องถนนทั่วไป

ซึ่งจากการทดลองให้บริการ พบว่า รถตุ๊กตุ๊กแบบเดิม ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ และปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่เสียงดัง

รวมถึงการขึ้นลงที่ไม่สะดวก ทั้งในกลุ่มผู้โดยสารที่สูงอายุ นิสิตและนักศึกษาผู้หญิงที่ใส่กระโปรง ไปจนถึงปัญหาด้านศูนย์ถ่วงรถ ที่มีโอกาสพลิกคว่ำได้ง่าย

ปัญหาทั้งหมดนี้ นำไปสู่การพัฒนาจนออกมาเป็นโมเดล รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า MuvMi

โดยมีคอนเซปต์หลัก ๆ 4 อย่าง คือ

1.ลดมลภาวะที่เป็นพิษต่อโลก
โดยเปลี่ยนจากรถที่ใช้แก๊สและน้ำมัน ไปเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าแทน เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยลดเสียงดังรบกวนตามท้องถนน

2.ค่ารถที่สมเหตุสมผล
MuvMi ใช้ระบบ Ride Sharing คือทางเดียวกันไปด้วยกัน หมายความว่า ตอนเรานั่งอาจมีคนอื่นนั่งร่วมกับเราไปด้วย แต่ถ้าอยากเหมานั่งคนเดียวก็สามารถเลือกได้
โดยค่าโดยสารเริ่มต้น อยู่ที่ 10 บาท ซึ่งสามารถเช็กราคาในแอปพลิเคชันได้

3.ตัวรถขนส่งที่สะดวก และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกวัย
ส่วนนี้เราได้มีการออกแบบดิไซน์โครงสร้างของตัวรถ ให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพื่อลดโอกาสในการพลิกคว่ำ

และมีการปรับขนาดพื้นที่และเบาะนั่งให้โปร่งมากขึ้น รวมถึงลดขั้นบันไดให้ต่ำลง ช่วยให้ผู้โดยสารขึ้นลงได้อย่างสะดวก

4.การเดินทางที่ปลอดภัย
มีการนำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่เราออกแบบ เข้าทดสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัย

โดยให้ทาง MTEC ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ ช่วยวิเคราะห์เรื่อง Finite Element Analysis เกี่ยวกับความแข็งแรงของโครงสร้างรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า

รวมไปถึงทำระบบคัดกรองคนขับ MuvMi Hero Academy เพื่ออบรมพนักงานคนขับรถ ให้มีการขับขี่ที่ปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งหากยังขับขี่ไม่ได้ตามมาตรฐานของ MuvMi ก็จะยังไม่ปล่อยให้ขับ

-แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือ MuvMi เลือกผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าด้วยตัวเอง แล้ว MuvMi ทำเองคนเดียวหรือมีใครเข้ามาช่วย ?

ในส่วนของการผลิตรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าของ MuvMi เป็นลักษณะของการ Joint Venture หรือทำเป็นกิจการร่วมทุน

โดยร่วมทุนกันระหว่าง MuvMi ที่ทำหน้าที่เป็นคนออกแบบรถ
และมีบริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) ที่เชี่ยวชาญเรื่องการประกอบและดัดแปลงยานยนต์ ทำหน้าที่ผลิตรถตุ๊กตุ๊กให้

แต่ทาง MuvMi บอกว่า ต้นทุนในการผลิตหลัก ๆ จะอยู่ในส่วนของแบตเตอรี่มากกว่า

โดยในส่วนของแบตเตอรี่ MuvMi มีพาร์ตเนอร์หลักอย่าง บ้านปู เน็กซ์ เป็นผู้สนับสนุนด้านการลงทุน
ช่วยจัดหาแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และช่วยติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ด้วย

ซึ่งปัจจุบัน MuvMi มีรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าในสังกัด ทั้งหมดราว ๆ 500 คัน และจำนวนคนขับทั้งหมดก็อยู่ที่ประมาณเกือบ 500 คน

โดยมีพื้นที่ให้บริการจุดจอดรับ-ส่ง กว่า 3,000 จุด ครอบคลุมใน 12 โซน พื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ได้แก่

จุฬา-สามย่าน เป็นโซนที่เริ่มต้น และเป็นย่านยอดฮิตที่สุดของ MuvMiอารีย์-ประดิพัทธ์ โซนที่มีการใช้บริการ ลูกค้าสายเที่ยวร้านคาเฟในย่านนั้นรัตนโกสินทร์ โซนท่องเที่ยวตามสถานที่ทางประวัติศาสตร์ของไทยสุขุมวิท โซนพื้นที่ที่มีลูกค้าหลากหลาย โดยเฉพาะคนญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานในไทยพหลโยธินเกษตร-เสนาอ่อนนุชบางซื่อชิดลม-ลุมพินีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสีลม-สาทรรัชดาฯ-พระราม 9

ซึ่งทั้ง 12 โซนครอบคลุมจุดเชื่อมต่อกับขนส่งมวลชน ทั้งรถโดยสารประจำทาง เรือโดยสาร รถไฟฟ้า BTS และ MRT

โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ MuvMi มีตั้งแต่นักเรียน, นักศึกษา, กลุ่มคนวัยทำงาน จนถึงกลุ่มผู้สูงวัย

รวมไปถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงาน และอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วย

-แล้วสำหรับใครที่ไม่เคยใช้ MuvMi อยากเริ่มใช้ ต้องทำอย่างไร ?

ขั้นตอนแรก คือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ MuvMi ก่อน และลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์
หลังจากนั้นสามารถเลือกจุดขึ้น-ลงรถที่เราต้องการ ตามด้วยกดเลือกจำนวนที่นั่ง

โดยสามารถเลือกได้ตั้งแต่คนเดียว จนถึงทั้งหมด 6 ที่นั่ง
หรือเราจะเลือกนั่งคนเดียว หรือเฉพาะกลุ่มของเราแบบเหมาทั้งคันก็ได้

ต่อมาเป็นการเลือกวิธีจ่ายเงิน โดยสามารถเลือกวิธีการจ่ายเงิน แบบตัดเงินจาก My Wallet ที่มาจากการเติมเงินเข้ากระเป๋าตังค์ภายในแอป หรือ แบบ MuvMi Pass ที่เป็นการเดินทางในรูปแบบเที่ยว
ซึ่งตรงนี้เราจะต้องเติมเงินเข้าไปในแอปพลิเคชันก่อนใช้งาน เมื่อรถมาถึงเราก็สแกน QR Code เพื่อจ่ายเงิน และเดินทางไปยังจุดที่เราต้องการได้เลย

-นอกจากบริการเรียกรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าเฉพาะย่านแล้ว MuvMi มีบริการอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ?

MuvMi มีบริการที่ทำขึ้นมา เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ คือ “Tuk Tuk Hop”

โดยเป็นบริการพาเที่ยวตามสถานที่สำคัญในกรุงเทพมหานคร รอบย่านรัตนโกสินทร์ แบบเหมาทั้งวัน ราคาเดียว เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดนโก่งราคาค่าโดยสาร

ตัวอย่างแพ็กเกจ เช่น เที่ยวรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ตามวัดดัง ย่านเมืองเก่า แบบเหมาจ่ายทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 08:30-18:00 น. โดยรถตุ๊กตุ๊ก 1 คัน นั่งได้ประมาณ 4-6 คน

ส่วนราคาอยู่ที่ประมาณ 1 คน ราคา 399 บาท, 2 คน ราคา 649 บาท หรือ 3 คน ราคา 799 บาท ยิ่งจำนวนคนต่อคันเยอะ ค่ารถเฉลี่ยต่อคนก็จะน้อยลง

-หลังจากนี้ ทิศทางต่อไปของ MuvMi คืออะไร ?

อย่างแรกที่จะทำ คือการเพิ่มโซนบริการให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในกรุงเทพมหานครมากขึ้น

ต่อมาคือการขยายออกไปตามหัวเมืองท่องเที่ยวในต่างจังหวัด เช่น พัทยา
และตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดอื่น ๆ

ซึ่งตอนนี้มีการทดลองระบบ ด้วยการขยายไปที่พัทยาแล้ว ชื่อว่า “Roami” เป็นแอปพลิเคชันโมเดลใหม่ที่ทำร่วมกับรถสองแถวในพื้นที่ แบบจ่ายเงินครั้งเดียว

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม MuvMi ต้องทำหลายแอปพลิเคชัน ? ทำไมไม่เอาแอปพลิเคชันเดียว มาทำให้จบ

คำตอบคือ เนื่องจาก MuvMi มองว่า ไม่ได้จะเป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าตลอดไป

ความตั้งใจคือ อยากเป็น Mobility as a Service (MaaS) หรือระบบการเดินทางขนส่งที่เชื่อมต่อทุกการเดินทาง เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องของการเดินทางระยะสั้น ๆ ให้เชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลักได้ดีขึ้น

ซึ่งตอนนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงของการสำรวจหาอะไรใหม่ ๆ เพื่อหาโอกาสในการพัฒนาธุรกิจต่อไปในอนาคต

จึงทำให้บริษัทมีหลายแอปพลิเคชัน และหลายโมเดลรถออกมานั่นเอง

และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของ MuvMi แอปพลิเคชันเรียกรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า แบบวิ่งเฉพาะย่าน

ที่เกิดขึ้นเพราะ ผู้ก่อตั้งทั้ง 4 คน มองเห็นปัญหาการเดินทางในเมืองกรุงที่ไม่ครอบคลุม และเชื่อว่าปัญหาการจราจรที่เกิดขึ้น ต้องแก้ที่ระบบขนส่งมวลชน

ซึ่งสุดท้ายแล้ว ในอนาคต MuvMi อาจไม่จำเป็นต้องเป็นเพียงรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า

แต่อาจจะขยายไปเป็นรถประเภทอื่น
เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะ ได้สะดวกขึ้นกว่าเดิม..

Reference:
-สัมภาษณ์พิเศษกับ MuvMi รถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ภายใต้ บริษัท เออร์เบิน โมบิลิตี้ เทค จำกัด