ทำไม แว่น Vision Pro ของ Apple ถึงตั้งราคาขาย หลัก 100,000 บาท
7 มิ.ย. 2023
ทำไม แว่น Vision Pro ของ Apple ถึงตั้งราคาขาย หลัก 100,000 บาท | BrandCase
เมื่อวาน Apple เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ตัวใหม่ชื่อว่า “Vision Pro” ซึ่งเป็นแว่น VR/AR ที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ เพียงแค่ขยับนิ้วบนอากาศ หรือจะสั่งการด้วยเสียงก็ได้
โดยแว่น Vision Pro ตัวนี้ มีราคาเริ่มต้นประมาณ 122,000 บาท
ซึ่งถือว่าสูงมาก ถ้าไปเทียบกับอีกเจ้าที่ดัง ๆ อย่าง Meta Quest 2 ของบริษัท Meta เจ้าของเฟซบุ๊ก ที่มีราคาเริ่มต้นประมาณ 17,000 บาท
แล้วทำไมแว่น Vision Pro ของ Apple ถึงทำราคามาแบบนี้ ?
BrandCase ชวนมาวิเคราะห์กัน
BrandCase ชวนมาวิเคราะห์กัน
เป็นที่รู้กันดีว่า ไม่ว่า Apple จะเปิดตัวสินค้าอะไร ก็เป็นที่ฮือฮาอยู่เสมอ
อย่าง การเปิดตัว iPhone ในปี 2007, เปิดตัว MacBook Air ในปี 2008
ไปจนถึงการเปิดตัว Apple Watch ในปี 2015
อย่าง การเปิดตัว iPhone ในปี 2007, เปิดตัว MacBook Air ในปี 2008
ไปจนถึงการเปิดตัว Apple Watch ในปี 2015
ซึ่งการเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ของ Apple ในแต่ละครั้ง ก็จะต้องมีกลุ่มลูกค้าที่อยากจะซื้อ เป็นคนแรก ๆ ถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะมีราคาสูงก็ตาม
ซึ่ง Apple Vision Pro แว่นอัจฉริยะ ที่เพิ่งเปิดตัว ก็ทำราคามาสูงสมกับเป็น Apple จริง ๆ
ถ้าให้วิเคราะห์ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
เรื่องแรก : คือสเป็กและฟีเชอร์ในการใช้งาน
เรื่องสำคัญที่ Apple ตั้งราคาแพงขนาดนี้ ก็เพราะรวมสเป็กและฟีเชอร์โหด ๆ เอาไว้ในตัวเยอะมาก
เช่น
- กล้องที่สามารถใช้งานได้ทั้งโหมด VR (สร้างโลกเสมือน) และโหมด AR (สร้างวัตถุเสมือน มาซ้อนทับกับโลกจริง) ซึ่งสามารถสลับโหมดการใช้งานระหว่าง 2 โหมดได้
- หน้าจอ Micro OLED ให้ภาพสีสด ความคมชัดระดับมากกว่า 4K
- ชิปประมวลผลแบบใหม่ M2 และ ชิป R1 ที่เข้ามาช่วยประมวลภาพ AR แบบ Realtime ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานผ่านมือและนิ้ว ก็จะมีกล้องคอยตรวจจับท่าทางการสั่งงาน
- เวลาซื้อสินค้าผ่าน App Store เราสามารถซื้อ ปลดล็อก และจ่ายเงิน ผ่านระบบสแกนม่านตา ซึ่งเรียกกันว่า Optic ID
- ในตัวกล้องมีเซนเซอร์ LiDAR ซึ่งเป็นเซนเซอร์ที่ใช้วัดระยะห่างระหว่างวัตถุ ที่นิยมนำไปใช้กับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติหลาย ๆ แบรนด์
เรื่องที่สอง : ระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง ดึงให้คนอยากซื้อฮาร์ดแวร์ที่ออกมาใหม่เรื่อย ๆ
อุปกรณ์แต่ละอย่างของ Apple เชื่อมต่อและใช้ร่วมกันได้หมด ทั้ง iPhone, AirPods, Apple Watch
ซึ่งแน่นอนว่า แว่น Vision Pro ก็เป็นตัวเติมเต็มระบบนิเวศให้ Apple อีกตัวหนึ่ง
เช่น ในวิดีโอเปิดตัว Vision Pro ตัวแว่นสามารถเชื่อมต่อกับ MacBook ได้เลย แค่มองหน้าจอ แล้วเอาหน้าจอจาก MacBook มาขยายใหญ่ นั่งทำงานสบาย ๆ
ถ้าอยากเห็นภาพ ลองกดดูวิดีโอนี้ นาทีที่ 4.50
https://www.youtube.com/watch?v=TX9qSaGXFyg&t=370s
https://www.youtube.com/watch?v=TX9qSaGXFyg&t=370s
โดยทางทีมผู้บริหารบอกว่า ใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนา นานกว่า 10 ปี กว่าจะออกมาเป็น Apple Vision Pro
และเรื่องสุดท้าย : ตำแหน่งทางการตลาดที่ชัด ว่าจะเจาะลูกค้ากลุ่ม High-end
สินค้าของ Apple คือตัวแทนของความพรีเมียม และที่สำคัญคือ Apple มีสาวกที่จงรักภักดีกับแบรนด์เป็นจำนวนมาก
สาวกหลายคน เป็นกลุ่มคนที่ชอบเทคโนโลยี และมีกำลังซื้อสูงนั้น จะให้ความสนใจกับสินค้าที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดเวลา
ลูกค้ากลุ่มนี้หลายคน จะยอมจ่ายเงินซื้อสินค้าตัวใหม่ของ Apple
เหมือนกับที่จ่ายเงินซื้อสินค้าแบรนด์หรู ไม่ว่าจะราคาแพงแค่ไหน ก็ยอมจ่าย เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่พิเศษ ก่อนคนอื่น
เหมือนกับที่จ่ายเงินซื้อสินค้าแบรนด์หรู ไม่ว่าจะราคาแพงแค่ไหน ก็ยอมจ่าย เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่พิเศษ ก่อนคนอื่น
ซึ่ง Apple ก็คงรู้ดี ว่าตั้งราคาแบบนี้ หลายคนจะบ่นว่าแพง
แต่พวกเขาก็รู้เหมือนกัน
ว่าต่อให้ขายแว่นตาราคาหลัก 100,000 บาทแบบนี้ ก็มีคนรอซื้อ ไม่น้อยเหมือนกัน..
ว่าต่อให้ขายแว่นตาราคาหลัก 100,000 บาทแบบนี้ ก็มีคนรอซื้อ ไม่น้อยเหมือนกัน..