สรุป “เยอรมันตะวันแดง” โรงเบียร์ใหญ่ในไทย ที่อยู่มาแล้ว 23 ปี
8 เม.ย. 2023
- เบียร์สด มากกว่า 1,800,000 แก้ว
- ขาหมูทอด มากกว่า 136,000 ขา
นี่คือสถิติที่น่าสนใจของโรงเบียร์ “เยอรมันตะวันแดง” ที่ขายได้ในปี 2561
- ขาหมูทอด มากกว่า 136,000 ขา
นี่คือสถิติที่น่าสนใจของโรงเบียร์ “เยอรมันตะวันแดง” ที่ขายได้ในปี 2561
โรงเบียร์แห่งนี้ถือเป็นโรงเบียร์ขนาดใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาว่า หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง คือ คุณเสถียร เสถียรธรรมะ
แต่จริง ๆ แล้วโรงเบียร์แห่งนี้ ยังมีเจ้าของคนสำคัญอีกคนหนึ่ง
คือ “คุณสุพจน์ ธีระวัฒนชัย”
คือ “คุณสุพจน์ ธีระวัฒนชัย”
แล้วกว่าจะมาเป็น โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง
มีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
มีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ?
BrandCase จะเล่าให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
คุณสุพจน์ ธีระวัฒนชัย ที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง โดยเขาเริ่มทำธุรกิจมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ทั้งขายขนม ขายน้ำอัดลม และขายน้ำเก๊กฮวย
พอเริ่มโตขึ้นก็มาทำ แบรนด์เสื้อยืดเป็นของตัวเอง เนื่องจากทางบ้าน มีพื้นฐานด้านการเย็บเสื้อขาย
ซึ่งธุรกิจเย็บเสื้อนี้ ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ซึ่งธุรกิจเย็บเสื้อนี้ ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
แต่ไม่นาน ด้วยการดำเนินงานที่ผิดพลาด เพราะเร่งขยายกิจการอย่างรวดเร็วจนเกินไป ทำให้หาแรงงานฝีมือ และแหล่งระบายสินค้าไม่ทัน
สุดท้ายแล้ว ธุรกิจก็รับการขาดทุนต่อไปไม่ไหว และต้องปิดกิจการลง พร้อมหนี้ธนาคารอีกกว่า 30 ล้านบาท
นั่นทำให้คุณสุพจน์ ต้องหาเงินมาจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เดือนละกว่า 400,000 บาท
คุณสุพจน์ จึงตัดสินใจยืมเงินจากคนรู้จัก และทยอยขายทรัพย์สินที่มีเกือบทั้งหมด มาโปะหนี้ก้อนนี้
และภายในระยะเวลา 3 ปี เขาก็สามารถเคลียร์หนี้สินได้ทั้งหมด
และภายในระยะเวลา 3 ปี เขาก็สามารถเคลียร์หนี้สินได้ทั้งหมด
ต่อมาไม่นาน คุณสุพจน์ก็ได้เริ่มธุรกิจใหม่ โดยการหุ้นกับเพื่อนทำโครงการบ้านจัดสรร ระดับพันยูนิต
ซึ่งก็ดูเหมือนจะไปได้สวยอีกครั้ง เพราะในเวลาเพียงไม่นานลูกค้าก็จองเต็มทั้งหมด
ซึ่งก็ดูเหมือนจะไปได้สวยอีกครั้ง เพราะในเวลาเพียงไม่นานลูกค้าก็จองเต็มทั้งหมด
แต่หลังจากนั้น ก็เป็นช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 พอดี และเกิดฟองสบู่แตกในภาคอสังหาริมทรัพย์
ส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นวงกว้าง รวมทั้งตัวของคุณสุพจน์เองด้วย เพราะลูกค้าหลายคนเริ่มไม่มีเงินจ่าย
จนต้องทิ้งโครงการ และเป็นเหตุให้เส้นทางธุรกิจของคุณสุพจน์ ต้องล้มเหลวอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ภาคเศรษฐกิจกำลังซบเซา หลายธุรกิจ ต่างล้มละลาย
คุณสุพจน์ ตัดสินใจใช้จังหวะนี้เริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง ในปี 2542 ด้วยการเปิดร้านอาหาร ขนาด 1,000 ที่นั่ง บททำเลถนนพระราม 3
โดยได้อีกคนสำคัญมาช่วยร่วมลงเงินทุนด้วยกัน นั่นก็คือ คุณเสถียร เสถียรธรรมะ
ซึ่งก็คือผู้ร่วมก่อตั้งและประธานกรรมการ คาราบาวกรุ๊ป
ร้านอาหารนี้ ชื่อว่า “โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง” โดยใช้เงินลงทุนตอนแรกราว 40 ล้านบาท
ในช่วงแรกที่เริ่มเปิดให้บริการ หลายอย่างดูติด ๆ ขัด ๆ มีลูกค้าเพียงวันละประมาณ 100 คน จากพื้นที่กว่า 1,000 ที่นั่ง
รวมทั้งมีคำสบประมาทจากหลาย ๆ คนว่า “ธุรกิจแบบนี้เต็มที่ไม่เกิน 2 ปีก็เจ๊ง”
แต่ทั้งคู่ก็เชื่อมั่น ว่าร้านนี้จะไปได้ แม้อาจใช้เวลาคืนทุนนานหน่อย
แต่ทั้งคู่ก็เชื่อมั่น ว่าร้านนี้จะไปได้ แม้อาจใช้เวลาคืนทุนนานหน่อย
แต่ไม่นาน แค่ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ร้านก็เริ่มมีลูกค้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ระบบในร้านก็ค่อย ๆ ดีขึ้น จนเริ่มอยู่ตัว
และเพียง 1 ปีกว่า ๆ จากวันที่เปิดร้าน โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดงแห่งนี้ ก็สามารถคืนทุน 40 ล้านบาท ให้ทั้งคู่ได้ในที่สุด
ปัจจุบัน ผ่านไป 23 ปี ธุรกิจโรงเบียร์แห่งนี้ก็ยังอยู่ และมี 3 สาขา ได้แก่
- พระราม 3
- รามอินทรา
- แจ้งวัฒนะ
- พระราม 3
- รามอินทรา
- แจ้งวัฒนะ
มีพื้นที่บริการรวมกัน มากกว่า 5,000 ที่นั่ง และมีพนักงานเกือบ 1,000 คน
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณสุพจน์ เคยเล่าว่า เคล็ดลับในการทำธุรกิจมาจาก 3 เรื่องด้วยกัน
คุณสุพจน์ เคยเล่าว่า เคล็ดลับในการทำธุรกิจมาจาก 3 เรื่องด้วยกัน
1. เนื้อแท้ ก็คือ ถ้าเราจะทำอะไร ต้องทำให้ดี
เช่น ถ้าเย็บเสื้อขาย ก็ต้องเย็บให้สวย, ถ้าขายอาหาร ก็ต้องทำอาหารให้อร่อย
เช่น ถ้าเย็บเสื้อขาย ก็ต้องเย็บให้สวย, ถ้าขายอาหาร ก็ต้องทำอาหารให้อร่อย
2. ความซื่อสัตย์ กตัญญู จริงใจ และการไม่ผิดคำพูด
เช่น เวลาทำธุรกิจ ต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า คู่ค้า และลูกน้อง
เช่น เวลาทำธุรกิจ ต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า คู่ค้า และลูกน้อง
3. การใส่ใจรายละเอียด ก็คือ การคิดให้ครบทั้งวงจร
เช่น ถ้าเราจะหุงข้าว ก็ต้องหุงให้สวย สุก และนุ่ม แล้วคิดต่ออีกว่า จะใช้อะไรตัก ใช้จานขนาดไหน กินกันกี่คน ปริมาณข้าวจะพอไหม
เช่น ถ้าเราจะหุงข้าว ก็ต้องหุงให้สวย สุก และนุ่ม แล้วคิดต่ออีกว่า จะใช้อะไรตัก ใช้จานขนาดไหน กินกันกี่คน ปริมาณข้าวจะพอไหม
สรุปง่าย ๆ เคล็ดลับในการทำธุรกิจของคุณสุพจน์ คือ ต้องอินกับมันให้มาก ๆ นั่นเอง..
References
-หนังสือเรื่อง เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม โดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
-http://tawandang.com/about-us/
-https://www.youtube.com/watch?v=uw-Lf9ome80
-หนังสือเรื่อง เมื่อความจนเฆี่ยนตีผม โดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
-http://tawandang.com/about-us/
-https://www.youtube.com/watch?v=uw-Lf9ome80