สรุป สงครามพิซซา 2 วันที่ผ่านมา จากถาดละ 99 สู่แฮชแท็ก #โดมิโน่ส์ขายพิซซ่าไม่ขายขิง

สรุป สงครามพิซซา 2 วันที่ผ่านมา จากถาดละ 99 สู่แฮชแท็ก #โดมิโน่ส์ขายพิซซ่าไม่ขายขิง

23 พ.ค. 2024
เรื่องนั้นเริ่มมาจากวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทาง The Pizza Company ได้ออกมาจัดโปรโมชันพิเศษขายพิซซา ถาดกลางเริ่มต้น 99 บาท (จากปกติเริ่มต้น 299 บาท)
โดยในวันนั้นก็มีคนให้ความสนใจกันจำนวนมาก มีคิวต่อยาวหน้าร้าน The Pizza Company แทบทุกสาขาจนกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล 
เรียกได้ว่าโปรโมชันนี้ ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายเลยทีเดียว 
จนทำให้หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็พากันออกมาตามกระแสด้วย 
ซึ่งโพสต์ที่ทาง The Pizza Company โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ก็จะมีแบรนด์อื่น ๆ อย่างเช่น แบรนด์ร้านปิ้งย่าง Yakiniku Like มาร่วมคอมเมนต์ แนวว่า กินแป้งแล้วใครอยากทานเนื้อมาทานได้ที่ Yakiniku Like 
หรืออีกแบรนด์อย่าง Sizzler ก็มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กเพจว่า “กินแป้งเยอะ ๆ ?กินผักบ้างนะ ? เดินเข้า Sizzler เล่อะ ?”
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะในช่วงค่ำ ๆ ของวันอังคารที่ 21 คู่แข่งอีกแบรนด์อย่าง Pizza Hut ก็ไม่ยอมน้อยหน้า 
ออกมาประกาศว่าในวันพรุ่งนี้ หรือวันพุธที่ 22 พฤษภาคม จะมีเซอร์ไพรส์หนักกว่า ฝากให้ทุกคนรอติดตาม
ซึ่งก็เป็นไปตามคาดเพราะในวันที่ 22 นั้น ทาง Pizza Hut ก็ได้ออกมาประกาศโปรโมชัน พิซซาถาดกลางในราคาเริ่มต้น “98 บาท” เท่านั้น สามารถสั่งได้ในวันนั้นวันเดียว 
และรับพิซซาได้ในวันที่ 23-24 พฤษภาคม โดยต้องมารับที่หน้าสาขาเอง 
ซึ่งก็เช่นเดียวกับ The Pizza Company ทันทีที่ประกาศโปรโมชันนี้ 
คนก็พากันเข้าไปสั่งอย่างล้นหลาม ถึงกับทำให้เว็บไซต์ และแอปพลิเคชันล่มอยู่พักหนึ่งเลยทีเดียว 
จนคนต้นคิดอย่าง The Pizza Company ต้องออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กเพจว่า “ถึงโปรจะลอกได้.....
?แต่ความอร่อยลอกไม่ได้จริงๆ?”
เรื่องนี้คนที่จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ ก็คงเป็นฝั่งของผู้บริโภค ที่ได้ประโยชน์จากการซื้อพิซซาในราคาที่ถูกลง 
และยังมีการพากันแซวเล่นว่า อยากให้แบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ จัดโปรโมชันแนวนี้อีก ไม่อยากให้น้อยหน้าอีก 2 แบรนด์ บางคนก็เสนอให้จัดโปรโมชัน 97 บาท ไปเลย 
ซึ่งแบรนด์ที่ว่านั้นก็คือแบรนด์ดังอย่าง Domino’s Pizza คู่แข่งรายที่ 3 ที่ในเวลานั้น ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ 
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าในช่วงโปรโมชัน 99 บาท และ 98 บาท ถึงแม้จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม 
แต่ก็มีการร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาอยู่ไม่น้อย 
ตัวอย่างเช่น 
- The Pizza Company ไม่ได้จำกัดการซื้อต่อคน ทำให้มีการรับฝากหิ้วจำนวนมากเกิดขึ้น 
- มีคนโพสต์ว่าบางสาขา พิซซา เหมือนถูกลดต้นทุน ไม่เหมือนกับที่ซื้อในช่วงเวลาปกติ ซึ่งเจอเคสนี้ในทั้งสองแบรนด์ 
- บางสาขาแป้งหมด คนที่มาต่อคิวรอก็ผิดหวังกลับไป 
- ปัญหาเรื่องการสั่ง โทรไม่ติด แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ล่ม 
และจากปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เอง ก็ถึงเวลาที่แบรนด์อย่าง Domino’s Pizza จะตอบกลับมาบ้าง 
หลายคนลุ้นว่าต้องออกมาจัดโปรโมชันแข่งตามแน่ ๆ 
แต่ล่าสุดเมื่อช่วงสาย ๆ ของวันพฤหัสบดี ที่ 23 พฤษภาคม หรือช่วงสายของวันนี้ 
ทาง Domino’s Pizza ก็ออกมาเคลื่อนไหวแล้ว 
โดยโพสต์จดหมาย พร้อมเนื้อความด้านในว่า
“ ถึงลูกค้าทุกท่าน…
โดมิโนส์พิซซ่าขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่โพสต์ข้อความและส่งกำลังใจเข้ามา 
ในการทำโปรโมชันของเราแต่ละครั้ง เราได้คำนึงถึงหลักความเป็นจริงที่ลูกค้าสามารถสั่งทานได้จริงและต้องเป็นโปรโมชันที่เราสามารถจัดเต็มทั้งคุณภาพ บริการ และการจัดส่ง (Delivery) ในราคาที่สมเหตุสมผลเพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทุกท่าน 
เมื่อไรที่คุณคิดถึงพิซซ่า อย่าลืมคิดถึงโดมิโนส์พิซซ่า เราสัญญาว่าเราจะทำพิซซ่าที่อร่อย สดใหม่ และจริงใจที่สุดให้กับคุณ 
ด้วยรักจากเรา
โดมิโนส์ :) ”
พร้อมปิดท้ายจดหมายด้วยแฮชแท็ก แบบจี้จุด 
#โดมิโนส์ขายพิซซ่าไม่ขายขิง 
ถือเป็นการประกาศตอบโต้แบบตรง ๆ ว่า “ไม่เข้าร่วม” 
และน่าจะเป็นการจบดรามา สงครามพิซซา ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานี้..
References
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.