ทำไม CEO ระดับโลกหลายคน ถึงต้องมีที่ปรึกษา
16 ก.ย. 2021
ทำไม CEO ระดับโลกหลายคน ถึงต้องมีที่ปรึกษา | THE BRIEFCASE
“การมีที่ปรึกษาที่ดี จะทำให้คุณมองเห็นคุณค่าของตัวเอง”
ประโยคนี้มาจากผู้หญิงผิวสี ผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง อย่าง Oprah Winfrey พิธีกรชื่อดังเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงปี 2000
รู้หรือไม่ว่า การขอคำปรึกษาจากคนที่เราไว้วางใจและให้ความเคารพนับถือ ก็เป็นสิ่งที่นิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เช่น การกำเนิดของเจ้าพ่อปรัชญาอย่าง อริสโตเติล (Aristotle) ก็มาจากการที่มีคนให้คำปรึกษาที่ดีอย่าง เพลโต (Plato)
มาถึงยุคสมัยนี้ CEO ระดับโลกหลายคน ก็ล้วนมีที่ปรึกษาที่คอยแนะแนวทาง คอยพูดคุย และคอยขัดเกลาวิสัยทัศน์ที่จะช่วยให้ CEO เหล่านั้น ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก
แล้วการมีที่ปรึกษาที่ดี ช่วยอะไร CEO ระดับโลกได้บ้าง ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะมาเล่าให้ฟัง
ต้องยอมรับว่า บุคคลในตำแหน่งผู้นำคน หรือผู้บริหารระดับสูง คือผู้ที่อยู่ระดับสูงสุดในองค์กรหรือหน่วยงานนั้น ๆ ผลที่ตามมาก็คือ คงไม่มีพนักงานคนใดจะไปกล้าชี้แนะให้คำปรึกษา หรือคอยเตือน หากมองเห็นว่าบุคคลระดับสูงกระทำผิด
ดังนั้น ที่ปรึกษา จึงเป็นตำแหน่งที่ CEO แต่งตั้งมาเพื่อคอยทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้คำชี้แนะได้ หรือให้คำตักเตือนกับคนเป็น CEO ได้
ผู้บริหารระดับโลกหลาย ๆ คน ต่างก็มีที่ปรึกษาเป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น Sir Richard Branson ผู้บริหารเครือ Virgin Group ของประเทศอังกฤษ
Richard เป็นคนที่มีความคิดและวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลม แต่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างหัวแข็งและไม่ยอมรับความคิดคนอื่นมากนัก
ในช่วงเวลาเข้าสู่ยุคที่อุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์รุ่งเรือง
บริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมาก ต่างก็ให้ความสนใจกับธุรกิจนี้ รวมถึง Virgin Media ของเขา (ที่ตอนหลังกลายมาเป็น Virgin Group ในตอนนี้)
ในขณะนั้น Virgin Media เป็นบริษัทในประเทศอังกฤษที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสารต่าง ๆ เช่น ขายโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ และให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์
ด้วยจุดเริ่มต้นของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน ประกอบกับ บุคลากรของบริษัทนั้นขาดความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ จึงทำให้ในช่วงแรกที่ Virgin เข้ามาทำธุรกิจการบิน ต้องประสบปัญหาเกี่ยวกับการทำกำไรจากธุรกิจการบินอย่างหนัก
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ Richard ขอคำปรึกษาจาก Sir Freddie Laker วิศวกรการบินมากประสบการณ์ เจ้าของสายการบิน Laker Airways
Sir Freddie Laker ให้คำแนะนำกับ Richard ว่าลองเปิดใจเรียนรู้แนวทางการทำงานใหม่ ๆ เพราะการทำงานแบบเดิม ๆ ของเขาไม่สามารถใช้กับทุกอุตสาหกรรมได้
และถ้าอยากที่จะลุกมาปั้นธุรกิจใหม่ Richard จะต้องเปิดใจที่จะเรียนรู้มาก ๆ จากคนที่มีประสบการณ์ในด้านนั้น ๆ มาก่อน โดยไม่ยึดติดกับความคิดของตัวเองมากจนเกินไป
ซึ่งผลจากคำแนะนำนี้ มีส่วนทำให้ธุรกิจเครือ Virgin เติบโตมาจนถึงปัจจุบัน
จากกรณีของ Sir Richard Branson ก็ทำให้เห็นว่า การมีที่ปรึกษาจะช่วยให้เราเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นได้ง่ายขึ้น เสมือนมีเพื่อนคู่คิด มีครูให้คำปรึกษา ทำให้เรากลับมาเดินหน้าธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้
แล้วที่ปรึกษาในโลกธุรกิจ มีสไตล์แบบไหนกันบ้าง ? ลองมาดูกัน
- ผู้ท้าทาย (The Challenger)
คือ ที่ปรึกษาธุรกิจที่จะคอยตั้งคำถามกับผู้นำหรือผู้บริหารอยู่เสมอ เช่น ข้อจำกัดของคุณคืออะไร, กระบวนการคิดของคุณคืออะไร, ความสามารถของคุณมีมากแค่ไหน และนิสัยการทำงานที่คุณคิดว่าต้องปรับให้ดีขึ้นมีอะไรบ้าง
- เชียร์ลีดเดอร์ (The Cheerleader)
คือ ที่ปรึกษาธุรกิจที่จะคอยส่งเสริมความมั่นใจให้กับตัวผู้นำหรือผู้บริหาร จะคอยตรวจสอบความคิด พฤติกรรมของตัวผู้บริหารคนนั้นว่า มีอะไรที่ทำได้ดี ทำได้เยี่ยมอยู่แล้ว ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจในส่วนนั้นให้
- ผู้ฝึกสอน (The Coach)
คือ ที่ปรึกษาธุรกิจที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าผู้ว่าจ้าง เพราะเป็นบุคคลที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน คำแนะนำต่าง ๆ จึงมักจะมาจากประสบการณ์จริง ๆ และมักจะออกไปในเชิงแนะนำแบบสั่งสอนว่าถ้าเจอเรื่องแบบนี้ ต้องใช้วิธีรับมืออย่างไร
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า ที่ปรึกษา เป็นได้ทั้งเพื่อนสนิท อาจารย์ และคนที่คอยเติมเต็มในด้านที่ผู้นำอาจมองไม่เห็นตัวเอง ทั้งยังคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ ทำให้บุคคลในตำแหน่งผู้นำองค์กรหรือ CEO ไม่ต้องเผชิญสถานการณ์เลวร้ายเพียงลำพัง
ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลว่า แม้ CEO ระดับโลก จะเก่งแค่ไหน แต่หลายคน ก็ยังต้องการมีที่ปรึกษาอยู่ดี..
References
-https://www.mentorresources.com/mentoring-blog/3-key-reasons-all-great-leaders-have-mentors
-https://www.togetherplatform.com/blog/notable-mentors-and-informal-mentorships
-https://www.forbes.com/sites/alisoncoleman/2016/04/10/why-mentors-can-be-the-making-of-entrepreneurs-like-branson/?sh=5cddbbcd1778
“การมีที่ปรึกษาที่ดี จะทำให้คุณมองเห็นคุณค่าของตัวเอง”
ประโยคนี้มาจากผู้หญิงผิวสี ผู้ทรงอิทธิพลในวงการบันเทิง อย่าง Oprah Winfrey พิธีกรชื่อดังเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงปี 2000
รู้หรือไม่ว่า การขอคำปรึกษาจากคนที่เราไว้วางใจและให้ความเคารพนับถือ ก็เป็นสิ่งที่นิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เช่น การกำเนิดของเจ้าพ่อปรัชญาอย่าง อริสโตเติล (Aristotle) ก็มาจากการที่มีคนให้คำปรึกษาที่ดีอย่าง เพลโต (Plato)
มาถึงยุคสมัยนี้ CEO ระดับโลกหลายคน ก็ล้วนมีที่ปรึกษาที่คอยแนะแนวทาง คอยพูดคุย และคอยขัดเกลาวิสัยทัศน์ที่จะช่วยให้ CEO เหล่านั้น ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีก
แล้วการมีที่ปรึกษาที่ดี ช่วยอะไร CEO ระดับโลกได้บ้าง ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะมาเล่าให้ฟัง
ต้องยอมรับว่า บุคคลในตำแหน่งผู้นำคน หรือผู้บริหารระดับสูง คือผู้ที่อยู่ระดับสูงสุดในองค์กรหรือหน่วยงานนั้น ๆ ผลที่ตามมาก็คือ คงไม่มีพนักงานคนใดจะไปกล้าชี้แนะให้คำปรึกษา หรือคอยเตือน หากมองเห็นว่าบุคคลระดับสูงกระทำผิด
ดังนั้น ที่ปรึกษา จึงเป็นตำแหน่งที่ CEO แต่งตั้งมาเพื่อคอยทำหน้าที่ให้คำแนะนำ ให้คำชี้แนะได้ หรือให้คำตักเตือนกับคนเป็น CEO ได้
ผู้บริหารระดับโลกหลาย ๆ คน ต่างก็มีที่ปรึกษาเป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น Sir Richard Branson ผู้บริหารเครือ Virgin Group ของประเทศอังกฤษ
Richard เป็นคนที่มีความคิดและวิสัยทัศน์ที่เฉียบแหลม แต่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างหัวแข็งและไม่ยอมรับความคิดคนอื่นมากนัก
ในช่วงเวลาเข้าสู่ยุคที่อุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์รุ่งเรือง
บริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมาก ต่างก็ให้ความสนใจกับธุรกิจนี้ รวมถึง Virgin Media ของเขา (ที่ตอนหลังกลายมาเป็น Virgin Group ในตอนนี้)
ในขณะนั้น Virgin Media เป็นบริษัทในประเทศอังกฤษที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสารต่าง ๆ เช่น ขายโทรศัพท์มือถือ โทรทัศน์ และให้บริการเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์
ด้วยจุดเริ่มต้นของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน ประกอบกับ บุคลากรของบริษัทนั้นขาดความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนี้ จึงทำให้ในช่วงแรกที่ Virgin เข้ามาทำธุรกิจการบิน ต้องประสบปัญหาเกี่ยวกับการทำกำไรจากธุรกิจการบินอย่างหนัก
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ Richard ขอคำปรึกษาจาก Sir Freddie Laker วิศวกรการบินมากประสบการณ์ เจ้าของสายการบิน Laker Airways
Sir Freddie Laker ให้คำแนะนำกับ Richard ว่าลองเปิดใจเรียนรู้แนวทางการทำงานใหม่ ๆ เพราะการทำงานแบบเดิม ๆ ของเขาไม่สามารถใช้กับทุกอุตสาหกรรมได้
และถ้าอยากที่จะลุกมาปั้นธุรกิจใหม่ Richard จะต้องเปิดใจที่จะเรียนรู้มาก ๆ จากคนที่มีประสบการณ์ในด้านนั้น ๆ มาก่อน โดยไม่ยึดติดกับความคิดของตัวเองมากจนเกินไป
ซึ่งผลจากคำแนะนำนี้ มีส่วนทำให้ธุรกิจเครือ Virgin เติบโตมาจนถึงปัจจุบัน
จากกรณีของ Sir Richard Branson ก็ทำให้เห็นว่า การมีที่ปรึกษาจะช่วยให้เราเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นได้ง่ายขึ้น เสมือนมีเพื่อนคู่คิด มีครูให้คำปรึกษา ทำให้เรากลับมาเดินหน้าธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้
แล้วที่ปรึกษาในโลกธุรกิจ มีสไตล์แบบไหนกันบ้าง ? ลองมาดูกัน
- ผู้ท้าทาย (The Challenger)
คือ ที่ปรึกษาธุรกิจที่จะคอยตั้งคำถามกับผู้นำหรือผู้บริหารอยู่เสมอ เช่น ข้อจำกัดของคุณคืออะไร, กระบวนการคิดของคุณคืออะไร, ความสามารถของคุณมีมากแค่ไหน และนิสัยการทำงานที่คุณคิดว่าต้องปรับให้ดีขึ้นมีอะไรบ้าง
- เชียร์ลีดเดอร์ (The Cheerleader)
คือ ที่ปรึกษาธุรกิจที่จะคอยส่งเสริมความมั่นใจให้กับตัวผู้นำหรือผู้บริหาร จะคอยตรวจสอบความคิด พฤติกรรมของตัวผู้บริหารคนนั้นว่า มีอะไรที่ทำได้ดี ทำได้เยี่ยมอยู่แล้ว ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจในส่วนนั้นให้
- ผู้ฝึกสอน (The Coach)
คือ ที่ปรึกษาธุรกิจที่มีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าผู้ว่าจ้าง เพราะเป็นบุคคลที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน คำแนะนำต่าง ๆ จึงมักจะมาจากประสบการณ์จริง ๆ และมักจะออกไปในเชิงแนะนำแบบสั่งสอนว่าถ้าเจอเรื่องแบบนี้ ต้องใช้วิธีรับมืออย่างไร
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า ที่ปรึกษา เป็นได้ทั้งเพื่อนสนิท อาจารย์ และคนที่คอยเติมเต็มในด้านที่ผู้นำอาจมองไม่เห็นตัวเอง ทั้งยังคอยช่วยเหลือ คอยให้กำลังใจ ทำให้บุคคลในตำแหน่งผู้นำองค์กรหรือ CEO ไม่ต้องเผชิญสถานการณ์เลวร้ายเพียงลำพัง
ซึ่งนั่นก็คือเหตุผลว่า แม้ CEO ระดับโลก จะเก่งแค่ไหน แต่หลายคน ก็ยังต้องการมีที่ปรึกษาอยู่ดี..
References
-https://www.mentorresources.com/mentoring-blog/3-key-reasons-all-great-leaders-have-mentors
-https://www.togetherplatform.com/blog/notable-mentors-and-informal-mentorships
-https://www.forbes.com/sites/alisoncoleman/2016/04/10/why-mentors-can-be-the-making-of-entrepreneurs-like-branson/?sh=5cddbbcd1778