กรณีศึกษา แม่บุญล้ำ ขายน้ำปลาร้าบ้าน ๆ ปีเดียว รายได้เกือบ 1,000 ล้าน

กรณีศึกษา แม่บุญล้ำ ขายน้ำปลาร้าบ้าน ๆ ปีเดียว รายได้เกือบ 1,000 ล้าน

15 มี.ค. 2025
ใครจะคิดว่า “น้ำปลาร้า” เครื่องปรุงพื้นบ้าน ที่หลายคนมองว่าเป็นของธรรมดา
จะก้าวขึ้นมาเป็นสินค้าส่งออกที่ขายดี และทำรายได้ได้เกือบพันล้านบาท
จากสูตรลับของครอบครัว สู่น้ำปลาร้าต้มสุกพร้อมทาน
นี่คือ “แม่บุญล้ำ” แบรนด์น้ำปลาร้าที่หลาย ๆ คนอาจคุ้นชื่อ 
ในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัท เพชรดำฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของแบรนด์น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ 
ทำรายได้ไปแล้ว 905 ล้านบาท และมีกำไร 65 ล้านบาท 
เรื่องราวธุรกิจน้ำปลาร้าแม่บุญล้ำน่าสนใจอย่างไร 
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของ “แม่บุญล้ำ” ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2510 หรือเมื่อ 58 ปีก่อน
เมื่อคุณสนั่นและคุณทองสุข ศรีโยธา ได้ทำปลาร้าแบบดั้งเดิมขาย 
โดยบรรจุใส่ปี๊บ แล้วแบกหาบเร่ขายตามตลาดสดในจังหวัดกาฬสินธุ์ 
ด้วยรสชาติของปลาร้าที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ปลาร้าของคุณสนั่นและคุณทองสุข ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
และเมื่อธุรกิจเติบโต คุณสนั่นก็ได้ถ่ายทอดสูตรหมักปลาร้าให้กับลูกทั้ง 8 คน แต่ในบรรดาทายาททั้งหมด
มีเพียง “คุณแม่บุญล้ำ ปรีเรือง” ที่สามารถต่อยอดและพัฒนาธุรกิจได้อย่างมั่นคง
ต่อมาในปี 2536 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของแบรนด์ “แม่บุญล้ำ” 
เมื่อคุณแม่บุญล้ำได้คิดค้นสูตรน้ำปลาร้าของตัวเองขึ้นมา 
โดยเริ่มต้นจากการผลิตในครัวเรือน ก่อนขยายสู่โรงงานผลิตน้ำปลาร้า ภายใต้ชื่อ เพชรดำค้าปลาร้า 
และต่อมาได้ก่อตั้งเป็น บริษัท เพชรดำฟู้ดส์ จำกัด ขึ้นในปี 2557 เพื่อรองรับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น
ในช่วงแรก แม่บุญล้ำจะเน้นผลิตปลาร้าดิบบรรจุใส่ปี๊บ เพื่อส่งขายให้พ่อค้าคนกลาง
นำไปขายต่อตามตลาดสดทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณอ้อม ลูกสาวของคุณแม่บุญล้ำ ซึ่งเข้ามาช่วยบริหารธุรกิจ 
สังเกตเห็นว่าพฤติกรรมการบริโภคปลาร้าของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนไป 
จากเดิมที่นิยมทานปลาร้าดิบ ก็เปลี่ยนมาเป็นการนำปลาร้าดิบไปต้มสุกก่อน แล้วค่อยนำมาทานมากขึ้น
คุณอ้อมจึงมองเห็นโอกาสและได้พัฒนาสูตร “น้ำปลาร้าต้มสุกพร้อมทาน” ขึ้นมา 
เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
ในช่วงแรกน้ำปลาร้าแม่บุญล้ำยังคงบรรจุใส่ปี๊บขายเหมือนเดิม เนื่องจากลูกค้าหลักยังคงเป็นกลุ่มพ่อค้าคนกลางจากตลาดสด ก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ “การบรรจุขวด” เพื่อขายในห้างท้องถิ่นและร้านสะดวกซื้อชั้นนำ เช่น เซเว่น อีเลฟเว่น, โลตัส และแม็คโคร
ด้วยรสชาติที่ถูกปากและหาซื้อง่ายขึ้น น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำเริ่มได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว 
ยอดขายพุ่งขึ้น และตลาดก็ขยายไปไกลกว่าที่เคย
จากน้ำปลาร้าต้มสุกที่ขายดีในไทย แม่บุญล้ำ ขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน 
อย่าง ลาว, กัมพูชา, เมียนมา, เวียดนาม และจีน
มากไปกว่านั้น แม่บุญล้ำยังส่งออกน้ำปลาร้าไปไกลถึงยุโรป ทั้งสหราชอาณาจักร, เนเธอร์แลนด์, รวมถึงตลาดในตะวันออกกลางอย่าง ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกด้วย 
ทีนี้เรามาดู ผลประกอบการของ บริษัท เพชรดำฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของแบรนด์น้ำปลาร้าแม่บุญล้ำ 
ปี 2564 รายได้ 715 ล้านบาท กำไร 65 ล้านบาท 
ปี 2565 รายได้ 801 ล้านบาท กำไร 75 ล้านบาท 
ปี 2566 รายได้ 905 ล้านบาท กำไร 65 ล้านบาท 
ปัจจุบัน แม่บุญล้ำ มีน้ำปลาร้า 3 สูตร คือ สูตรต้นตำรับ ฝาขาว ซึ่งเป็นสูตรที่มีกลิ่นหอมของปลาร้าโหน่ง, สูตรปรุงสำเร็จพร้อมทาน ฝาแดง และฝาเหลือง สูตรที่มีความเข้มข้นของปลาร้าโหน่งมากขึ้นกว่าฝาแดง
นอกจากนี้ แม่บุญล้ำ ยังมีสินค้าอื่น ๆ อีก เช่น ปลาร้าตัวเป็น ที่มีทั้งสูตรปลากระดี่และปลาสร้อย, ปลาร้าบอง สูตรสมุนไพร, ปลาร้าปลานิล, น้ำยำปลาร้า และผัดหมี่โคราช 
โดยจะวางขายทั้งในออนไลน์และออฟไลน์ ตามร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดชั้นนำทั่วประเทศ
จากธุรกิจครอบครัวเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นจากการแบกหาบปลาร้าเร่ขายในตลาดสด
มาวันนี้ ธุรกิจน้ำปลาร้า “แม่บุญล้ำ” เติบโตขึ้นจนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์น้ำปลาร้าที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศไทย ด้วยรายได้เกือบ 1,000 ล้านบาท..
References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.