รู้จัก Max Food บริษัทไทยที่ส่ง ไอศกรีมซอร์เบต์ ในลูกสับปะรด ไปฮิตที่ เกาหลีใต้

รู้จัก Max Food บริษัทไทยที่ส่ง ไอศกรีมซอร์เบต์ ในลูกสับปะรด ไปฮิตที่ เกาหลีใต้

7 มี.ค. 2025
รู้ไหมว่า ในประเทศเกาหลีใต้ตอนนี้ มีสินค้าจากไทยอย่างหนึ่งที่กำลังเป็นที่นิยม คือ “ไอศกรีมซอร์เบต์ ในลูกสับปะรด”
ซึ่งไอศกรีมซอร์เบต์ (Sorbet) คือไอศกรีมที่คล้ายกับน้ำผลไม้ปั่นแบบแช่แข็ง ไม่มีส่วนผสมจาก นม และไขมัน เหมือนไอศกรีมที่เราคุ้นเคยกันทั่วไป
โดยบริษัทที่อยู่เบื้องหลังไอศกรีมสับปะรดที่กำลังฮิตในเกาหลีใต้นี้ คือ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด
ที่น่าสนใจคือ ในปีที่ผ่านมา บริษัทนี้สามารถทำรายได้ไปกว่า 300 ล้านบาท
โดยที่รายได้กว่า 99% มาจากการส่งออกไอศกรีม
เรื่องราวของ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ย้อนกลับไปในปี 2554 หรือ เมื่อ 14 ปีที่แล้ว
คุณฐานพงศ์ จุ้ยประเสริฐ ได้ใช้เวลาหลังเลิกงานไปขาย “ไอศกรีมโมจิ” ที่ตลาดนัดรถไฟสวนจตุจักร
โดยมีภรรยาเป็นคนทำไอศกรีม ส่วนคุณฐานพงศ์ รับหน้าที่เป็นคนขาย
เมื่อธุรกิจเริ่มขายดี จากเดิมที่เคยต้องยืนขายเองทุกวัน
คุณฐานพงศ์จึงปรับโมเดลธุรกิจ ขยายธุรกิจจากร้านเล็ก ๆ ไปเป็นระบบขายส่งและรูปแบบแฟรนไชส์
พร้อมลงทุนเปิดโรงงานผลิตขนาดเล็กขึ้นมา เพื่อรองรับกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะนี้ ทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างรวดเร็ว จนได้รับความสนใจจากทั้งสื่อไทยและต่างประเทศ และสามารถขยายแฟรนไชส์ กว่า 300 สาขาทั่วประเทศ
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อคุณฐานพงศ์ สังเกตเห็นว่า มีเปลือกสับปะรดจำนวนมากถูกทิ้งเพราะไม่ได้ใช้
จึงทำให้คุณฐานพงศ์เกิดไอเดียในการทำธุรกิจ และนำผลไม้เหล่านั้นมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า
แล้วต่อยอดมาก่อตั้ง บริษัท D&I ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตไอศกรีมสับปะรด เพื่อส่งออกไปยังประเทศเกาหลีใต้
พอมาถึงจุดหนึ่งที่ความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น ก็ขยายโรงงานและได้ก่อตั้งเป็น บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด ขึ้นมาในปี 2563
โดย แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจผลิตขนมหวานแช่แข็งและไอศกรีมคุณภาพสูง และมีการวางโมเดลธุรกิจเป็นแบบ B2B ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายในประเทศและเน้นการส่งออกเป็นหลัก
นอกจากนี้บริษัทยังให้บริการผลิตสินค้าในรูปแบบ OEM เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยให้บริการแบบครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา พัฒนาสูตร ไปจนถึงขั้นตอนการส่งออก
ซึ่งหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ประสบความสำเร็จคือ การใช้นวัตกรรมในกระบวนการผลิต
เช่น ไอศกรีมซอร์เบต์ในลูกผลไม้ของบริษัท ที่สามารถเก็บได้นานถึง 2 ปี ที่อุณหภูมิ -25°C
ซึ่งเทคโนโลยีนี้ช่วยให้สินค้าสามารถขนส่งและจัดจำหน่ายในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น
คุณฐานพงศ์ เคยให้สัมภาษณ์กับ Forbes Thailand ว่า บริษัทได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายโรงงาน และนำเข้าเทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัย สามารถช่วยลดระยะเวลาการผลิตไอศกรีมผลไม้ลงได้
ทำให้จากเดิมไอศกรีมผลไม้ 1 ลูก ใช้เวลาในการผลิต 3 วัน ก็เหลือเพียงแค่ 10 นาที
ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้มากถึง 2 เท่า จาก 9 ล้านชิ้นต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้านชิ้นต่อปี
อีกทั้งบริษัทยังได้ลงทุนกว่า 20 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานวัตถุดิบของตัวเอง โดยการปลูกสับปะรดบนพื้นที่ 1,000 ไร่ ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของไอศกรีมซอร์เบต์ในลูกสับปะรด หนึ่งในผลิตภัณฑ์เด่นของบริษัท
ซึ่งข้อดีของการมีแหล่งวัตถุดิบเป็นของตัวเอง จะช่วยให้บริษัทสามารถควบคุมคุณภาพและปริมาณผลผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดวัตถุดิบ และรักษามาตรฐานรสชาติของไอศกรีมได้อย่างคงที่
ด้วยโมเดลธุรกิจนี้ แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จึงกลายเป็นบริษัทที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก
ซึ่งจากบทสัมภาษณ์ Forbes Thailand คุณฐานพงศ์ ก็ได้เปิดเผยว่า บริษัทผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศเกือบ 99% ขณะที่สัดส่วนการขายในประเทศมีเพียง 1% เท่านั้น
ซึ่งประเทศที่ส่งออกไปขายมากที่สุดก็คือ ประเทศเกาหลีใต้
โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- ไอศกรีมซอร์เบต์ในลูกผลไม้ ภายใต้แบรนด์ Max Fresh คิดเป็นสัดส่วน 80% ซึ่งกลุ่มนี้เป็นสินค้าขายดีอันดับ 1 ในประเทศเกาหลีใต้
- โมจิไอศกรีม ภายใต้แบรนด์ Mochilato คิดเป็นสัดส่วน 15%
- ไอศกรีมผลไม้แท่ง ภายใต้แบรนด์ Fruits lato stick คิดเป็นสัดส่วน 5%
ทีนี้เรามาดูผลประกอบการของ บริษัท แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป จำกัด กันต่อ
ปี 2564 รายได้ 93 ล้านบาท กำไร 6 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 295 ล้านบาท กำไร 24 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 346 ล้านบาท กำไร 22 ล้านบาท
ปัจจุบัน แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป ส่งออกไอศกรีมผลไม้ไปยังหลายประเทศ ทั้งเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย จีน สิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ ในโซนยุโรป
โดยมีจุดวางจำหน่ายหลักอยู่ในร้านอาหาร คาเฟ บาร์ โรงแรม และซูเปอร์มาร์เก็ต
และล่าสุด แม็คซ์ฟู๊ด กรุ๊ป เพิ่งนำไอศกรีมซอร์เบต์ในลูกสับปะรด ที่ฮิตในเกาหลีใต้ ไปวางขายเป็นเมนูพิเศษในช่วงซัมเมอร์ที่ร้าน MK สุกี้
ซึ่งจะวางขายตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2568 เท่านั้น (หรือจนกว่าสินค้าจะหมด)
© 2025 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.