รู้จัก Data Driven Marketing ที่บอกว่า การตลาดจะดีได้ ต้องอาศัยข้อมูล

รู้จัก Data Driven Marketing ที่บอกว่า การตลาดจะดีได้ ต้องอาศัยข้อมูล

11 เม.ย. 2024
HPE Server x BrandCase
ถ้า Lego ไม่เก็บข้อมูลลูกค้าก็คงไม่รู้ว่า คนเล่น Lego ไม่ได้มีแค่เด็กแล้ว
หรือถ้าแบรนด์ต่าง ๆ ไม่เรียนรู้พฤติกรรมของผู้บริโภคก็คงไม่สามารถ พูดคุยหรือแนะนำสินค้าได้อย่างถูกจุด
ซึ่งการนำข้อมูลต่าง ๆ ของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย มาใช้ในการทำการตลาด, การผลิตสินค้า และบริการต่าง ๆ นั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของการทำ Data Driven Marketing หรือ การนำข้อมูลมาใช้ในการขับเคลื่อนการตลาดนั่นเอง
แล้วเทคนิคการตลาดนี้น่าสนใจอย่างไร
BrandCase สรุปให้แบบเข้าใจง่าย ๆ
Data Driven Marketing พูดง่าย ๆ ก็คือการนำข้อมูลมาสร้างสินค้าและบริการ รวมถึงการทำการตลาด เช่น การทำโฆษณาต่าง ๆ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
โดยข้อมูลเหล่านี้สามารถรวบรวมได้จากแหล่งที่มาที่น่าเชื่อถือ
ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Market Explorer หรือแม้แต่การเก็บรวบรวมข้อมูลเองก็ทำได้
แล้วข้อดีของ Data Driven Marketing คืออะไร ?
อย่างแรก แน่นอนว่า เมื่อเรารู้จักผู้บริโภคมากพอ รู้จักอินไซต์ของกลุ่มเป้าหมายเราดีพอ รู้ว่าชอบทำอะไร ชอบซื้ออะไร หรืออยู่ในแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด ก็จะยิ่งทำให้นักการตลาด รวมถึงผู้ประกอบการสามารถออกแบบสินค้าบริการให้ออกมาตรงใจมากที่สุดได้
อย่างในกรณีของ Lego สมัยก่อนภาพจำของคนทั่วไป คือ Lego นั้นเป็นของเล่นสำหรับเด็ก
แต่ภาพจำของ Lego ในหัวของหลาย ๆ คนตอนนี้ อาจจะเป็นมุมของของเล่นสำหรับผู้ใหญ่หรือนักสะสมไปแล้ว
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า Lego ได้นำข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายมาวิเคราะห์ แล้วพบว่ากลุ่มลุกค้าผู้ใหญ่ของ Lego นั้นเป็นกลุ่มที่กำลังเติบโต และมีแนวโน้มจะเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากนั้นทาง Lego ก็เริ่มมีการออกสินค้าใหม่ ๆ ที่เจาะกลุ่มนี้ออกมามากขึ้น
หรืออย่างล่าสุดก็ได้มีการ Personalized สำหรับผู้ใหญ่มากขึ้นไปอีก โดยทำคอนเทนต์ในเว็บไซต์สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ
อย่างต่อมาคือ การทำ Data Driven Marketing นั้นจะช่วยให้วางกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น
สำหรับนักการตลาด หรือแม้แต่ผู้ประกอบการ
หลายครั้งที่เราอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว ลูกค้าต้องการอะไรกันแน่
แต่การนำข้อมูลมาวิเคราะห์แบบตรงไปตรงมา
ก็สามารถช่วยชี้นำแนวนางในการวางกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้ถูกต้องมากขึ้น
อย่างเช่น ถ้าข้อมูลแสดงออกมาว่า ตอนนี้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มียอดผู้ใช้บริการ และยอดค่าโฆษณาเติบโตมากสุดในปีที่ผ่านมา
เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า เราควรโฟกัสกับการยิงโฆษณาลงบนแพลตฟอร์มนี้ มากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในตอนนี้นั่นเอง
ซึ่งการทำ Data Driven Marketing นี้ก็สามารถทำได้ด้วยการตั้งเป้าหมายก่อนอันดับแรกว่าเราต้องการอะไรจากแคมเปญนั้น ๆ มากที่สุด จากนั้นก็เริ่มเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้วประมวลข้อมูลเหล่านั้นออกมา
เมื่อประมวลออกมาได้แล้ว จึงค่อย ๆ วางกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับข้อมูลเหล่านั้น
จะเห็นได้ว่าข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ และจะยิ่งมีผลมากขึ้นไปอีกในอนาคต เพราะใครที่มีข้อมูลมากกว่า วิเคราะห์ข้อมูลได้ดีกว่า ก็จะมีส่วนช่วยให้เราสามารถกลายเป็นผู้นำในตลาดนั้น ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม การจะทำ Data Driven Marketing ได้อย่างเต็มศักยภาพ ก็ต้องอาศัยระบบการจัดการหลังบ้านที่ดีด้วย
ซึ่งวันนี้ก็มีอีกหนึ่งตัวช่วยในการการจัดเก็บและการบริหารข้อมูล ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นั่นก็คือตัว
HPE Server Gen10, Gen10 plus และ Gen 11
แล้วจุดเด่นของ HPE Server ทั้งสามรุ่นคืออะไร ?
จุดเด่นหลัก ๆ ของ HPE Server เลยคือ ระบบการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ, รองรับการทำงานในทุกสภาวะ, มีความยืดหยุ่น, ปรับได้ตามการใช้งาน และมีความปลอดภัยสูง ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีสเป็กการทำงานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
อย่างรุ่น HPE ProLiant DL360 Gen10 และ DL325 Gen10 plus v2
เป็นเซิร์ฟเวอร์เก็บข้อมูลขนาดกะทัดรัด ที่รองรับมากถึง 2 โปรเซสเซอร์
มีมาตรฐานการประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่นและมีความปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังสามารถขยายความจุของข้อมูลได้อย่างหลากหลาย เหมาะกับงานที่มีเวิร์กโหลดจำนวนมากในพื้นที่ที่มีอย่างจำกัดด้วย
แล้วทำไมต้องเลือก HPE Server ?
1. อุ่นใจทุกปัญหา
หากระหว่างการใช้งานเกิดปัญหาหรือมีข้อสงสัยขึ้นมา สามารถสอบถามทางออนไลน์ได้ทุกวัน ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง และมีประกันหลังการขายที่ครอบคลุมมากถึง 3 ปีเต็ม
2. ล้ำไปอีกขั้นด้วย ‘HPE InfoSight’
HPE Server ทุกรุ่นมี ‘HPE InfoSight’ ที่จะเข้ามาช่วยรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยมีการเตรียมการรับมือเอาไว้ล่วงหน้า และรองรับการบริหารจัดการแบบอัจฉริยะ
3. ยืนหนึ่งเรื่องมาตรฐาน หนักแค่ไหนก็เอาอยู่ !
ไร้กังวลเรื่องความหนัก HPE Server มี Harddisk SSD Mixed USED ที่รองรับการใช้งานทุกเวิร์กโหลดได้อย่างทนทาน ทั้งธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจที่กำลังเติบโต ซึ่งมีให้เลือกใช้หลากหลายแบบ มีความยืดหยุ่น และมีความปลอดภัยตั้งแต่เริ่มต้นใช้งาน
4. ฟีเชอร์แบบเน้น ๆ
HPE Server Gen10 และ Gen10 plus และรุ่นล่าสุด Gen11 มีฟีเชอร์ให้เลือกใช้มากมายตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น
- การปรับแต่งโปรไฟล์ของ BIOS ด้วย Workload Matching
- ระบบให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดเก็บและย้ายข้อมูลแบบไฮบริดให้คุ้มค่าด้วย HPE Right Mix Advisor
- ตรวจสอบเฟิร์มแวร์ให้แน่ใจว่าไม่มีการถูกแทรกแซงด้วยชิป Root of Trust พิเศษ
- บังคับใช้รหัสผ่านในขณะบูตได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกแก้ไขหรือตั้งค่าในระดับการบูตหรือตั้งค่าอย่างไม่หวังดี
- บริหารจัดการเซิร์ฟเวอร์อย่างอัตโนมัติด้วย HPE iLO 5, HPE iLO RESTful API และ HPE OneView
สำหรับใครที่สนใจ ลงทุนในระบบหลังบ้านที่ดี เพื่อรองรับฐานข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการทำการตลาด รวมถึงธุรกิจในอนาคต
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.hybriditthailand.com/HPE PROLIANT SUPER HERO
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.