
สรุปโมเดลรายได้ 51,843 ล้าน ของ เซ็นทรัลพัฒนา จากงบปี 2567 แบบเข้าใจง่าย ๆ
3 มี.ค. 2025
บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา คือ เจ้าของศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ รวมถึงศูนย์การค้าเมกาบางนา
ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก และคอมมิวนิตีมอลล์อีกหลายแห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร
ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก และคอมมิวนิตีมอลล์อีกหลายแห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร
ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทั้งหมด 42 แห่ง และมีคอมมิวนิตีมอลล์อีก 15 แห่ง
รวมเป็น 57 แห่ง
รวมเป็น 57 แห่ง
ผลประกอบการปี 2567 ของบมจ.เซ็นทรัลพัฒนา
- รายได้ 51,843 ล้านบาท +11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- กำไร 16,729 ล้านบาท +11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- รายได้ 51,843 ล้านบาท +11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
- กำไร 16,729 ล้านบาท +11% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โมเดลรายได้ของ เซ็นทรัลพัฒนา ปี 2567 อธิบายง่าย ๆ ผ่านทุก ๆ 100 บาท มาจาก
- รายได้ค่าเช่าศูนย์การค้า 76 บาท
- รายได้ค่าเช่าอาคารสำนักงาน 3 บาท
- รายได้ค่าบริการศูนย์อาหาร 2 บาท
- รายได้จากธุรกิจโรงแรม 4 บาท
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 12 บาท
- รายได้อื่น ๆ 3 บาท
- รายได้ค่าเช่าศูนย์การค้า 76 บาท
- รายได้ค่าเช่าอาคารสำนักงาน 3 บาท
- รายได้ค่าบริการศูนย์อาหาร 2 บาท
- รายได้จากธุรกิจโรงแรม 4 บาท
- รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 12 บาท
- รายได้อื่น ๆ 3 บาท
โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่รายได้และกำไรของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาเติบโตนั้น มาจาก
1. ธุรกิจศูนย์การค้า เติบโตขึ้น 10% จากปีก่อน จากการเปิดศูนย์การค้าใหม่เพิ่ม 2 แห่ง ในปี 2567
คือ
- เซ็นทรัลนครสวรรค์ ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคม ปี 2567
- เซ็นทรัลนครปฐม ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2567
- เซ็นทรัลนครสวรรค์ ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคม ปี 2567
- เซ็นทรัลนครปฐม ที่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2567
นอกจากนี้ ร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ ที่มาเช่าพื้นที่ภายในศูนย์การค้า มียอดขายที่เติบโตขึ้น
ทำให้เซ็นทรัลพัฒนา สามารถเพิ่มอัตราค่าเช่าจากร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น
ทำให้เซ็นทรัลพัฒนา สามารถเพิ่มอัตราค่าเช่าจากร้านค้าแบรนด์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น
โดยเราจะเห็นได้จาก รายได้ค่าเช่าศูนย์การค้าต่อ 1 ตารางเมตร ของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา
ทั้งปี 2566 ทุก ๆ พื้นที่เช่า 1 ตารางเมตร ทำรายได้ 15,633 บาท
ทั้งปี 2567 ทุก ๆ พื้นที่เช่า 1 ตารางเมตร ทำรายได้ 17,278 บาท
ทั้งปี 2567 ทุก ๆ พื้นที่เช่า 1 ตารางเมตร ทำรายได้ 17,278 บาท
จะเห็นได้ว่า รายได้ค่าเช่าศูนย์การค้าต่อ 1 ตารางเมตร ของกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา เติบโตขึ้น 11% จากปีก่อน
2. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เติบโตขึ้น 7% จากปีก่อน จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ คอนโดมิเนียมติดศูนย์การค้าหลายแห่ง ซึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียมของ เซ็นทรัลพัฒนา ก็อย่างเช่น แบรนด์ Escent (เอสเซ็นท์)
3. ธุรกิจโรงแรม เติบโตขึ้น 26% จากปีก่อน
จากราคาห้องพักของโรงแรมติดศูนย์การค้า ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน
และมีอัตราการเข้าพัก หรือ Occupancy Rate ที่สูงมากขึ้นจากปีก่อน
จากราคาห้องพักของโรงแรมติดศูนย์การค้า ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน
และมีอัตราการเข้าพัก หรือ Occupancy Rate ที่สูงมากขึ้นจากปีก่อน
โดยเซ็นทรัลพัฒนา เป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมหลายแห่ง ที่อยู่ติดศูนย์การค้าในเครือ
ตัวอย่างโรงแรม เช่น โรงแรมเซ็นทาราและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ อุดรธานี, โรงแรมฮิลตัน พัทยา, โรงแรมเซ็นทารา โคราช, โรงแรมโกโฮเทล บ่อวิน, โรงแรมเซ็นทารา อุบล
และสำหรับแผนธุรกิจในอนาคต เซ็นทรัลพัฒนา ก็ยังมีโครงการใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น
- คอมมิวนิตีมอลล์ Market Place เทพรักษ์ (เปิดให้บริการ ต้นปี 2568)
- มิกซ์ยูส Dusit Central Park (เปิดให้บริการทั้งโครงการ ปลายปี 2568)
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่ (เปิดให้บริการ ปลายปี 2568)
- มิกซ์ยูส Dusit Central Park (เปิดให้บริการทั้งโครงการ ปลายปี 2568)
- ศูนย์การค้าเซ็นทรัลกระบี่ (เปิดให้บริการ ปลายปี 2568)
Reference
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ปี 2567
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ปี 2567