แสนสิริ ฉลองครบรอบ 40 ปี แห่งความเป็นผู้นำด้านอสังหาฯ ด้วย Gallery of the Proud Exhibition

แสนสิริ x BrandCase

ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา แสนสิริไม่เพียงพิสูจน์ให้ลูกบ้านเห็นว่า เป็นแบรนด์ที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
พร้อมให้บริการลูกบ้านหลังการขายที่น่าประทับใจ จนทำให้แสนสิริ ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์อันดับหนึ่ง
ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย และมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งแน่นอนว่า หนึ่งในเสาหลักที่ผลักดันความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ให้กับแสนสิริ คือ “พนักงานทุกคน”
ที่ได้ร่วมกันพัฒนาที่พักอาศัย และส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด ให้กับลูกบ้านของแสนสิริ

นอกจากการเป็นแบรนด์ที่พักอาศัยที่มีคุณภาพแล้ว แสนสิริ ก็ยังให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน
ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงโลกที่น่าอยู่ ทั้งในเรื่อง การใส่ใจสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลด้วย

ดังนั้น แสนสิริจึงอยากถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดนี้ผ่านนิทรรศการ Gallery of the Proud

นิทรรศการที่จะชวนให้ภาคภูมิใจไปกับเรื่องราวของแสนสิริ
นิทรรศการนี้มีความน่าสนใจขนาดไหน ตามไปชมจาก Photo Story นี้ได้เลย

Welcome to “Gallery of the Proud” Exhibition

แสดงให้เห็นเส้นทางการเดินทางกว่า 40 ปี
และปลายทางสำคัญที่พนักงานแสนสิริทุกคนร่วมสร้าง

โดยนิทรรศการจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ 
นั่นก็คือ

- สร้างคน ให้เติบโตก้าวหน้าไปพร้อมกัน ด้วยการทำงานที่ตอบโจทย์

- สร้างบ้าน ที่ตอบโจทย์การใช้งาน สร้างความสุข และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย

- สร้างโลก ให้ดีขึ้นทุกวัน เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยเราจะไปดูแต่ละส่วนกัน

จากที่พักตากอากาศหัวหิน โครงการแรกของแสนสิริ สู่การเป็นแบรนด์ No.1 ด้านอสังหาริมทรัพย์

รู้หรือไม่ โครงการแรกของ แสนสิริ คือ 
"บ้านไข่มุก” คอนโดตากอากาศ ตั้งอยู่บนหาดหัวหิน เปิดตัวเมื่อปี 2531
มูลค่า 250 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ ก็ได้รับการตอบรับ จากผู้คนในแวดวงต่าง ๆ เป็นอย่างดี

ซึ่งต่อมา คอนโดตากอากาศแห่งนี้ ก็ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ของ แสนสิริ
และเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจ ให้กับโครงการอื่น ๆ อีกด้วย

สำหรับ Building B ก็จะเป็น Exhibition ที่จัดแสดงเส้นทางความสำเร็จของแสนสิริ ตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน 

โดย แสนสิริ เริ่มต้นพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมอีกหลายแห่ง ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

พร้อมกับขยายพอร์ตที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ ไปในต่างจังหวัดใหญ่ ๆ อีกหลายจังหวัด
ไม่ว่าจะเป็น เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น และพัทยา

ซึ่งโครงการที่พักอาศัยทุกโครงการของ แสนสิริ นั้น ต้องผ่านการคิดเป็นอย่างดี วัสดุที่ใช้ต้องมีคุณภาพ มีดิไซน์โครงการที่โดดเด่น ไม่ล้าสมัย และสร้างความสุข ความสะดวกสบายให้แก่ลูกบ้านทุกคน

นอกจากโครงการที่พักอาศัย ที่ตอบโจทย์การใช้งาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยแล้ว

ทางแสนสิริ ก็ยังมีจุดแข็งอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ธุรกิจบริหารอสังหาริมทรัพย์ อย่าง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ Plus+ ที่การันตีความเป็นมืออาชีพ ในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ด้วยรางวัลต่าง ๆ กว่า 127 รางวัล และ LIV-24 เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยภายในอาคาร ตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่ง Plus+ ได้ครอบคลุมพื้นที่บริหารอสังหาริมทรัพย์ มากที่สุดในประเทศไทย 
โดยมีจำนวนโครงการที่อยู่ในการบริหารมากกว่า 635 โครงการ

ทั้งโครงการที่พักอาศัย และการบริหารโครงการ ก็สามารถการันตีได้ว่า แสนสิริ เป็นแบรนด์อันดับ 1 ในวงการอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเป็นบริษัทที่มีรายได้และกำไรมากที่สุด ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567

ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ แสนสิริ ได้รับการยอมรับจาก  Marketeer ให้เป็นแบรนด์อันดับ 1 ทั้งหมด 3 หมวดหมู่ด้วยกัน นั่นก็คือ

Marketeer No.1 Brand Thailand 2024 หมวดอสังหาริมทรัพย์ ประเภท อาคารชุด (Condominium)
Marketeer No.1 Brand Thailand 2024 หมวดอสังหาริมทรัพย์ ประเภท ทาวน์โฮม (Townhome)
Marketeer No.1 Brand Thailand 2024 หมวดอสังหาริมทรัพย์ ประเภท บ้านเดี่ยว (Home)

จะเห็นได้ว่า จากผลงานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ก็ได้สะท้อนถึงความภาคภูมิใจ
ในผลงาน ทั้งธุรกิจโครงการที่พักอาศัย และธุรกิจบริหารโครงการ ของแสนสิริ

ความยั่งยืน ในแบบฉบับ Everyday Better ของ แสนสิริ

นอกจากแสนสิริจะมีรายได้และกำไรที่เติบโตสม่ำเสมอ
และเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยแล้ว

แสนสิริ ยังเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ที่เอาใจใส่ในเรื่องความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจ
โดยคำนึงถึง 3 อย่างด้วยกัน นั่นก็คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

ดังนั้น Building C จะเป็น Exhibition ที่เกี่ยวกับเรื่อง ESG โดยเฉพาะ โดยเริ่มจาก

E : Environment
แสนสิริ ตั้งเป้าไว้ว่า จะเป็นองค์กร ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2050

โดย แสนสิริ มี 3 กลยุทธ์หลักที่ต้องลงมือทำ ได้แก่

1. เป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ และใช้พลังงานสะอาด
2. การออกนโยบาย ด้านธรรมาภิบาลเพื่อลดคาร์บอน 
จากคู่ค้าและผู้รับเหมาก่อสร้าง
3. การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ เพื่อคิดค้นและลงทุนในนวัตกรรม

S : Social
Better Care of Social NO ONE LEFT BEHIND
โดย แสนสิริ ขอเป็นฟันเฟืองชิ้นเล็ก ๆ เพื่อส่งต่อความห่วงใย ผ่าน 4 เสาหลักด้วยกัน ได้แก่ ลูกค้า, สังคม, ผู้ถือหุ้น และพนักงาน

โดยแสนสิริ ได้ทำโครงการต่าง ๆ เพื่อตอบแทนสังคมในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น

- ZERO DROPOUT มุ่งมั่นให้เด็กทุกคนได้เรียน 
โดยระดมทุน 100 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) 
เพื่อสนับสนุนโครงการ "ราชบุรี โมเดล" เด็กหลุดระบบการศึกษาต้องเป็น "ศูนย์" ใน 3 ปี

- SANSIRI BACKYARD สร้างแปลงเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เพื่อส่งผลิตภัณฑ์ที่ได้ ต่อไปยังสังคมและชุมชน

- โครงการช่วยเหลือ และเยียวยาน้ำท่วมภาคเหนือ

- โครงการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ และการสมรสเท่าเทียม 

นอกจากนี้ยังมี SANSIRI ACADEMY เพื่อส่งเสริมและยกระดับ คุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนในชุมชนรอบ
โครงการ ผ่านการเสริมสร้างทักษะต่าง ๆ อย่าง การเล่นฟุตบอล

G : Governance
แสนสิริ ยึดมั่นว่า จะเป็นองค์กรที่โปร่งใส และมีจริยธรรม โดยไม่ยอมรับการคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ

โดยคณะกรรมการบริษัท ได้กำหนดนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และกระจายให้หน่วยงานต่าง ๆ ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

องค์กรอสังหาริมทรัพย์ “อันดับหนึ่ง” 
ที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด

สำหรับ Building D และ Building E ก็ถือเป็นนิทรรศการ
ที่จัดแสดงเพื่อขอบคุณพนักงาน และแสดงความภาคภูมิใจในตัวพนักงานทุกคน ที่เป็นฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนองค์กร

สร้างผลงานโครงการที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ลูกบ้าน 
และการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงโลกที่น่าอยู่มากขึ้น

ทั้งหมดนี้ ทำให้แสนสิริ เป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นที่รับรู้ต่อผู้คนในวงกว้าง 
ว่าเป็นแบรนด์ที่พักอาศัยที่โดดเด่น มีคุณภาพ เอาใจใส่สังคม และสิ่งแวดล้อม

โดยนอกจากที่ แสนสิริ จะสร้างบ้านที่ดี ให้กับผู้พักอาศัยแล้ว
แสนสิริ ยังสร้างบ้านที่ดีให้กับพนักงาน อย่างเข้าใจ และเข้าถึง

ซึ่งบริษัทจะให้ความสำคัญ ในเรื่องของการสร้าง Work Life Harmony 

โดยจะสร้างความสมดุลให้กับพนักงาน ทั้งในเรื่องของ
กาย ใจ และการเงิน เพื่อให้พนักงานมีสุขภาพดี 
ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุขในระยะยาว

เพราะ แสนสิริ เชื่อว่า ถ้าพนักงานมีความสุข
พนักงานก็จะสามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ 
และส่งมอบผลงานที่ดีที่สุด ให้กับบริษัทได้

โดย แสนสิริ จะออกแบบสวัสดิการ เพื่อตอบโจทย์ความหลากหลาย
เช่น ลาสมรสชีวิตคู่, ลาเพื่อเปลี่ยนแปลงเพศสภาพ 
ซึ่งก็สอดคล้องกับโครงการสนับสนุนความเท่าเทียมของแสนสิริ
และ ลาเพื่อบุตรแรกเกิด รวมถึงบุตรบุญธรรมแรกเกิดด้วย

นอกจากนี้ แสนสิริ พร้อมส่งต่อความสำเร็จโดย
สนับสนุนให้พนักงานทุกคน กล้าคิด กล้าทำ กล้าพัฒนา แบบไร้ขีดจำกัด
เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ และเป้าหมายที่พนักงานทุกคนได้วางไว้