วิธีปั้นธุรกิจ จากวันแรก ถึง 500 ล้าน จากเจ้าของ PAÑPURI ไอเดียสำหรับ คนอยากเริ่มธุรกิจ

วิธีปั้นธุรกิจ จากวันแรก ถึง 500 ล้าน จากเจ้าของ PAÑPURI ไอเดียสำหรับ คนอยากเริ่มธุรกิจ

7 ก.ย. 2024
ที่งาน The Secret Sauce Summit 2024 คุณวรวิทย์ ศิริพากย์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ PAÑPURI มาพูดเรื่องสูตรปั้นแบรนด์ในแบบฉบับตัวเอง
ซึ่ง PAÑPURI (ปัญญ์ปุริ) คือแบรนด์เครื่องหอมพรีเมียม ที่มีภาพลักษณ์ความเป็น Niche Luxury Brand คือขายสินค้าเฉพาะกลุ่มในระดับ Luxury
โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา PAÑPURI มีรายได้ 576 ล้านบาท กำไร 83 ล้านบาท
จากที่ คุณวรวิทย์ เคยทำงานประจำเป็น Management Consultant ในต่างประเทศ และเริ่มออกมาทำแบรนด์ PAÑPURI ในปี 2003
วิธีปั้นธุรกิจ เริ่มต้นจากวันเริ่มแรก ถึง 500 ล้านบาท ในแบบ PAÑPURI มีดีเทลอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้เป็นไอเดีย 6 ข้อ คนอยากเริ่มธุรกิจเอาไปประยุกต์ใช้ได้
1. ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งไหนในตลาด ต้องเข้าใจว่าอะไรสำคัญใน Position ของตัวเอง
เช่นเคส PAÑPURI วางตำแหน่งแบรนด์ตัวเองเป็น Niche Luxury Brand คือทำสินค้าเฉพาะกลุ่มระดับหรู
คุณวรวิทย์ ตีโจทย์ว่าตำแหน่งนี้ ต้องทำให้แบรนด์เป็นตัวเองมากที่สุด ทำให้ชัดที่สุด
ไม่จำเป็นต้องตามกระแสเหมือนสินค้ากลุ่ม Mass
และตีโจทย์ไปต่อว่า ส่วนผสมของคำว่า Luxury คือ Emotional buying + Storytelling
- Emotional buying = การตัดสินใจซื้อโดยใช้อารมณ์
เพราะความจริงแล้วการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคทั่วโลก ไม่ได้ใช้เหตุผลในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว
อารมณ์ มักเป็นสิ่งที่ถูกนำไปใช้ในการตัดสินใจซื้อ มากกว่าเหตุผล เสียด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้น การทำให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วมกับแบรนด์ กับสินค้าเราให้ได้ ก็เพิ่มโอกาสขายได้มาก
- Storytelling = การเล่าเรื่อง
ลองมาดูการเล่าเรื่อง (Storytelling) ของ PAÑPURI กัน
PAÑPURI มีการนำคัมภีร์ใบลาน (ตำราพระโอสถพระนารายณ์) สูตรตำรับยาที่ถูกบันทึกไว้ในตำราโอสถพระนารายณ์ เมื่อครั้งสมัยอยุธยา มาตีความใหม่แบบโมเดิร์น
โดยตำราพระโอสถพระนารายณ์ ในยุคดั้งเดิมได้มีการนำรากไม้ ดอกไม้ หรือพืชสมุนไพรมาบดและใช้นวดตามจุดสำคัญ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ
พืชพรรณเหล่านี้ จึงกลายเป็นวัตถุดิบทรงคุณค่าที่อยู่คู่กับประเพณีการดูแลสุขภาพของคนไทยมาอย่างช้านาน
ส่วนคำว่า PAÑPURI (ปัญญ์ปุริ) มาจากคำว่า
“ปัญญะ” สติปัญญาอันตื่นรู้
“ปุริ” คุณค่าแห่งความบริสุทธิ์
ทำให้สัญลักษณ์ของแบรนด์ คือ Peacock Crest เป็นสัญลักษณ์ลายนกยูงที่สื่อถึงความมีสติปัญญาและความบริสุทธิ์ อันมีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า “ปัญญ์ปุริ”..
2. พยายามเปลี่ยนตัวเอง ก่อนที่ตลาดจะบังคับให้เราเปลี่ยน
สำหรับ PAÑPURI ทุก ๆ 5-7 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีการพัฒนาสินค้าเจเนอเรชันใหม่ หรืออัปเกรดของเดิมให้ดีกว่าเดิม
ซึ่งไม่ใช่แค่ตัวสินค้า แต่ส่วนอื่นที่ประกอบเป็นประสบการณ์ของลูกค้า อย่างเช่น หน้าร้าน ก็ต้องปรับไปตามรสนิยม เทรนด์ของผู้บริโภคตลอดด้วย
ซึ่งจริง ๆ แล้วข้อนี้ของ PAÑPURI ตรงกับเรื่องที่ BrandCase เคยเขียนไว้เรื่องหนึ่ง คือการทำ Brand Rejuvenation ซึ่งหมายถึงการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ปรับตัวสินค้า แพ็กเกจจิง ทุก ๆ 3-5 ปี
เพราะช่วงเวลาประมาณนี้ รสนิยมหรือเทรนด์การบริโภคของลูกค้า มักจะมีความเปลี่ยนแปลงไปนั่นเอง
3. ถ้าเน้นขายที่หน้าร้าน ทำหน้าร้านให้แตกต่าง สร้างประสบการณ์และความตื่นเต้น
เพราะพื้นที่ร้าน คือโอกาสทองในการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าอินกับแบรนด์ของเรา
ดังนั้น PAÑPURI เลยบอกว่า โฟกัสมากกับการทำหน้าร้านทุก ๆ สาขาให้มีประสบการณ์ที่ดี
ที่น่าสนใจคือแต่ละสาขาจะมีความแตกต่าง ไม่เหมือนกัน เพื่อให้เกิดประสบการณ์กับลูกค้าในแต่ละโลเคชันได้ดีที่สุด
4. พยายามให้แบรนด์เรา อยู่ในสายตาลูกค้าตลอด
ถ้าพูดตามหลัก Branding และ Marketing นี่คือการสร้าง Awareness หรือก็คือ ทำให้ลูกค้าตระหนักในแบรนด์เรา นึกถึงภาพแบรนด์เราอยู่เสมอ
วิธีการทำก็อย่างเช่น การจัดอิเวนต์ การทำ Pop Up Store ตามสถานที่สำคัญที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเราผ่านไปมา
นอกจากจะได้โอกาสนำเสนอตัวแบรนด์ของเราไปยังลูกค้าใหม่ ๆ
ลูกค้าเก่าที่เห็นเราบ่อย ๆ ก็จะถูกกระตุ้นให้กลับมาซื้อได้ด้วย
หรือนอกจากนี้ ก็อาจจะเลือกอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อโปรโมตแบรนด์ ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ถ้าทำได้ดีแบรนด์เราจะยิ่งไปไกล
5. มี Passion อย่างเดียวไม่พอ ต้องไปพร้อมกับ Purpose และ People ด้วย
คุณวรวิทย์ เจ้าของ PAÑPURI บอกว่า มีการทำการบ้านกันหนักมากในทั้ง 3 คำนี้
- Passion = ความหลงใหลที่จะทำ
ต้องมีแรงบันดาลใจอย่างแน่วแน่ ที่ต้องการจะทำแบรนด์ออกมาให้ดีที่สุด
- Purpose = เป้าหมายในการทำ
ต้องตั้งเป้าให้ใหญ่กว่าตัวเราเอง อย่างเช่นเคส PAÑPURI บอกว่าตั้งเป้าอยากให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในด้าน Beauty & Wellness เพื่อให้มีแรงขับเคลื่อนธุรกิจ
- People = ทีมงาน คนในองค์กร
มองว่าการลงทุนในทีมงาน คนในองค์กร คือการลงทุนในแบรนด์ ต้องให้ความสำคัญมาก เพราะเบื้องหลังทุกแบรนด์ทุกธุรกิจที่ดี คือคนที่ดี ทีมงานที่แข็งแรง
6. มองภาพกว้าง มองเทรนด์ผู้บริโภคให้ออก คือเรื่องสำคัญมาก
เพราะเทรนด์จะเหมือนลมใต้ปีก ธุรกิจจะไปได้ไกล ไปได้ง่ายยิ่งขึ้นถ้าจับเทรนด์ได้ดี ถูกที่ถูกจังหวะ
อย่างเช่น เทรนด์หลังช่วงโรคระบาด ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้ออะไรที่เป็น Wellness และประสบการณ์ มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาไทย คนต่างชาติอยากหาของ Local ของไทยกลับไป
ซึ่งก็ทำให้ PAÑPURI ที่อยู่ในธุรกิจนี้ ต้องโฟกัสเต็มที่กับการทำสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์เทรนด์ที่มองเห็น
เพราะฉะนั้น การมองเทรนด์ให้ออกจึงสำคัญมาก
และยิ่งมองเห็นได้เร็ว คาดการณ์ได้ดี ก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะเราจะขยับไปกับเทรนด์ได้เร็ว..
References
-งาน The Secret Sauce Summit 2024 Session “Crafting Billion Niche Luxury Brand Playbook สูตรปั้น Niche Luxury Brand พันล้าน ฉบับ PAÑPURI”
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.