ทำไมโมเดล Home Office ของ Escent Avenue Rayong ถึงตอบโจทย์สำหรับเจ้าของธุรกิจ ?

Escent Avenue Rayong x BrandCase

หากพูดถึงจังหวัดที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมและมีความสำคัญทางเศรษฐกิจของไทย
หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของจังหวัดระยอง ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ

และถึงแม้ว่าจังหวัดระยองจะมีพื้นที่เพียง 3,552 ตารางกิโลเมตร
แต่จากข้อมูลของสำนักงานแรงงานจังหวัดระยอง กลับพบว่าระยองเป็นจังหวัดที่มีรายได้ประชากรต่อหัว (GPP per Capita) สูงถึง 904,857 บาท/คน/ปี ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของภาคตะวันออกและของประเทศไทย

ด้วยสาเหตุนี้เอง ทำให้เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการพากันเข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดนี้
วันนี้ BrandCase จะพาไปดู หนึ่งในทำเลการทำธุรกิจ ที่จะช่วยตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ อย่าง โครงการ Escent Avenue Rayong พื้นที่โครงการ Mixed-Use ในเมืองระยอง โดย CENTRAL PATTANA

โครงการนี้น่าสนใจและจะช่วยผู้ประกอบการที่กำลังเริ่มธุรกิจได้อย่างไรบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

เล่าให้ฟังก่อนว่า โครงการ Escent Avenue Rayong เป็นโครงการ Home Office ที่ตั้งอยู่ในโครงการใหญ่อย่าง Mixed-Use ในเมืองระยอง

โดยเป็นโครงการที่ทาง CENTRAL PATTANA ออกแบบมาเพื่อให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ธุรกิจในหลังเดียวกัน

ด้วยคอนเซปต์ Contemporary Shophouse อาคารพาณิชย์ที่ตอบโจทย์การค้าขายด้วยรูปแบบอาคารที่ทันสมัยสวยงาม พร้อมพื้นที่จอดรถที่รองรับมากกว่า 130 คัน

ข้อดีของโครงการลักษณะนี้ จะสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าการทำธุรกิจได้ง่ายกว่ารูปแบบอาคารพาณิชย์แบบเดิม

อีกทั้งโครงการ Escent Avenue Rayong ยังได้เปรียบในเรื่องของทำเลอีกด้วย

โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ในตัวเมืองจังหวัดระยอง ทำเล Mixed-Use ของ CPN
ซึ่งประกอบไปด้วยศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยอง, โรงแรม Hilton Garden Inn Rayong (200 ห้อง), คอนโด Escent1 (400 ห้อง) และคอนโด Escent2 (420 ห้อง)

อีกทั้งทำเลนี้ยังใกล้สิ่งอํานวยความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แหล่งช็อปปิง ศูนย์รวมราชการ สถานศึกษาสําคัญ แหล่งนิคมอุตสาหกรรม โรงพยาบาลและคลินิก สถานีขนส่ง และสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา

พร้อมทั้งสถานที่สําคัญต่าง ๆ ของจังหวัด ทําให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมของทุกความสะดวก และช่วยยกระดับการทำธุรกิจ ได้แบบครบจบในที่เดียว

นอกจากความได้เปรียบทางด้านทำเลแล้ว โครงการ Escent Avenue Rayong ยังมีจุดเด่นอื่น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อเจ้าของธุรกิจโดยเฉพาะอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น

1. ความปลอดภัยทั้งลูกบ้านที่พักอาศัย และลูกค้าของพื้นที่ทำธุรกิจ

- การออกแบบ New Function Home Office ใหม่ที่ง่ายต่อการปล่อยเช่าและทำธุรกิจได้แบบไม่กระทบการอยู่อาศัย

- ระบบ Security 24 ชม. พร้อมระบบตรวจตราโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้อง CCTV ทั่วโครงการ

- ติดตั้งสัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor และ Shock Sensor ในบ้านทุกหลัง

- ระบบ Security Gate เพิ่มความเป็นส่วนตัว ตั้งแต่ประตูทางเข้า Residence Area

- เข้า-ออกโครงการได้สะดวกสบายและปลอดภัย ด้วยระบบ Pass Card

- เทคโนโลยี VMS Visitor สามารถสแกน QR code เพื่อขออนุญาตเข้าโครงการผ่านสมาร์ตโฟน

2. โครงสร้าง Home Office แยกสัดส่วนชัดเจน ซื้อ 1 ได้ถึง 2

โฮมออฟฟิศ 2 หน้า ที่แยกสัดส่วนที่พักอาศัย กับพื้นที่ธุรกิจอย่างชัดเจน ผังที่ออกแบบมาเพื่อให้ความสําคัญกับการใช้พื้นที่ที่ให้ผู้เช่าและผู้พักอาศัย ได้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว โดยมี 2 แบบให้เลือก คือ

- Home Office Type A พื้นที่ใช้สอยกว่า 263 ตร.ม.
แบ่งเป็นโซน Business area 2 พื้นที่ทําธุรกิจ 2 ห้องน้ำ และโซน Residential area 3 ห้องนอน 1 ห้องพักผ่อน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

- Workplace หรืออาคารพาณิชย์ พื้นที่ใช้สอยกว่า 210 ตร.ม.
แบ่งเป็น 3 พื้นที่ทำธุรกิจ 3 ห้องน้ำ ตอบโจทย์สำหรับเจ้าของธุรกิจที่อยากเข้ามาเปิดธุรกิจในทำเลนี้

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็คงพอเห็นแล้วว่า Home Office ดูเป็นหนึ่งในตัวเลือกของผู้ประกอบการและคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

แต่อย่างไรก็ตาม ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและค่าครองชีพสูงขึ้น ผู้ประกอบการหลายท่านต่างกังวลเรื่องสภาพคล่องและกำลังซื้อของลูกค้า รวมถึงเรื่องเงินทุนในการทำธุรกิจ ถือเป็น Pain Point ของคนเริ่มต้นธุรกิจหรือเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมอยู่ไม่มากก็น้อย

เพราะการจะลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ ต้องใช้เงินก้อนสูงมาก โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจที่กำลังเริ่มต้น หรือเจ้าของธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขยายกิจการ หากสามารถประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายในช่วงปีแรก ๆ ได้มากเท่าไร สภาพคล่องทางการเงินและการบริหารธุรกิจก็ยิ่งดีตาม

พอเป็นแบบนี้โครงการ Escent Avenue Rayong จึงได้หยิบเอา Pain Point ของเรื่องนี้มาทำแคมเปญทางการเงิน ที่ช่วยให้การเริ่มต้นทำธุรกิจง่ายขึ้น

ด้วยการออกแคมเปญ Privilege Financial Deal เพียง 5 ยูนิต เพื่อให้เจ้าของธุรกิจที่สนใจเข้ามาเปิดกิจการที่นี่สามารถหมุนเงินได้ทัน ด้วยอัตราการผ่อน เริ่มต้นเพียง 25,000 บาท ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้แล้ว

แล้ว แคมเปญ Privilege Financial Deal ที่ว่านี้ มีรายละเอียดอะไรบ้าง ?

1. สำหรับ Home Office แปลง 25-27 ราคาขาย 7,900,000 บาท

เจ้าของธุรกิจจะเสียค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มทำธุรกิจในวันทำสัญญา 318,380 บาท โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้

- ค่าจองและค่าทำสัญญา 80,000 บาท
- เงินดาวน์ล่วงหน้า 3 เดือน 105,000 บาท
- ค่ามัดจำความเสียหาย 3 เดือน 105,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 86 บาทต่อตร.วา ล่วงหน้า 1 ปี 28,380 บาท

และระหว่างรอธนาคารอนุมัติวงเงินสำหรับทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจะสามารถผ่อนจ่ายให้โครงการต่อเดือน 35,000 บาท เป็นระยะเวลา 24 เดือน หรือ 2 ปี ซึ่งคิดเป็นเงินราว ๆ 840,000 บาท

2. สำหรับ Workplace แปลง 16-18 ราคาขาย 5,400,000 บาท

เจ้าของธุรกิจจะเสียค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มทำธุรกิจในวันทำสัญญา 244,149 บาท โดยมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายดังนี้

- ค่าจองและค่าทำสัญญา 70,000 บาท
- เงินดาวน์ล่วงหน้า 3 เดือน 75,000 บาท
- ค่ามัดจำความเสียหาย 3 เดือน 75,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 86 บาทต่อตร.วา ล่วงหน้า 1 ปี 24,149 บาท

และระหว่างรอธนาคารอนุมัติวงเงินสำหรับทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจจะสามารถผ่อนจ่ายให้โครงการต่อเดือน 25,000 บาท เป็นระยะเวลา 24 เดือน หรือ 2 ปี ซึ่งคิดเป็นเงินราว ๆ 600,000 บาท

ข้อดีของการจ่ายแบบนี้ คือ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถหมุนเงินได้ทัน และทำให้การเริ่มต้นธุรกิจไม่สะดุดตั้งแต่เริ่มต้นนั่นเอง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/47313pY

Reference
-https://rayong.mol.go.th