สรุปโมเดลรายได้ SAPPE ขายในไทย แค่ 17% ที่เหลือส่งออกไป 100 กว่าประเทศ
24 ส.ค. 2024
SAPPE หรือ บมจ.เซ็ปเป้ คือเจ้าของเครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu)
และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์
SAPPE เพิ่งรายงานงบการเงินไตรมาสที่ 2 ของปี 2567
- รายได้จากการขาย 1,996 ล้านบาท +20.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
- กำไร 411 ล้านบาท +32.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยรายได้ของ SAPPE ที่เติบโตขึ้น มีสาเหตุหลักจากการเติบโตของรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
- สำหรับรายได้จากการขายในต่างประเทศ เติบโตขึ้น 20.7% จากการขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ Modern Trade ได้มากขึ้น รวมถึงกิจกรรมการขายและการตลาดในช่วงฤดูกาล High Season
ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดต่างประเทศ คือ เครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu)
และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ ซึ่ง SAPPE มีการส่งออกสินค้าไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนอาจไม่รู้ว่า รายได้ส่วนใหญ่กว่า 83.1% ของ SAPPE มาจากต่างประเทศ ฉะนั้นการที่รายได้ในส่วนนี้เติบโต จึงส่งผลต่อรายได้รวมของ SAPPE อย่างมาก
โดยโมเดลสัดส่วนรายได้จากการขาย ของ บมจ.เซ็ปเป้ ในไตรมาสที่ผ่านมานั้น มาจาก
- เอเชีย 34%
- ยุโรป 25%
- ตะวันออกกลางและอื่น ๆ 18%
- ไทย 17%
- อเมริกา 6%
ส่วนรายได้จากการขายในประเทศก็เติบโตขึ้น 6% แม้จะเป็นรายได้ในสัดส่วนที่น้อย แต่ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการเติบโตของรายได้เช่นกัน
โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดของตลาดในประเทศ คือ แบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti)
คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) ที่มีจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรง..
Reference
- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บมจ.เซ็ปเป้ ไตรมาสที่ 2 ปี 2567
Tag:SAPPE