สรุปงบ SAPPE ไตรมาสแรกปีนี้ รายได้ 1,900 ล้าน กำไรโต 28% เพราะขายดี ในต่างประเทศ

ล่าสุด SAPPE หรือ บมจ.เซ็ปเป้ 

เจ้าของเครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ 

ได้ประกาศงบไตรมาสที่ 1 ของปี 2567

- รายได้ 1,904 ล้านบาท +21% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

- กำไร 352 ล้านบาท +28% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยกำไรของ SAPPE ที่โตขึ้น มีสาเหตุหลักจากการเติบโตของรายได้ในต่างประเทศกว่า 24% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

จากการที่สามารถขยายฐานลูกค้าเข้าสู่หลายช่องทาง Modern Trade ได้มากขึ้นในทุกทวีป 

และการบริหารจัดการด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น บวกกับเงินบาทอ่อนค่า ทำให้สัดส่วนต้นทุนการผลิตต่อรายได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนอาจไม่รู้ว่า รายได้ส่วนใหญ่กว่า 83% ของ SAPPE มาจากต่างประเทศ ฉะนั้นการที่รายได้ในส่วนนี้เติบโต จึงส่งผลต่อรายได้รวมของ SAPPE อย่างมาก

โดยรายได้ของ บมจ.เซ็ปเป้ ทุก ๆ 100 บาท ในไตรมาสที่ผ่านมานั้น มาจาก

- เอเชีย 40 บาท

- ยุโรป 20 บาท

- ตะวันออกกลางและอื่น ๆ 18 บาท

- ไทย 17 บาท

- อเมริกา 5 บาท

นอกจากนี้ สินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดต่างประเทศ คือ เครื่องดื่มผสมวุ้นมะพร้าวแบรนด์ โมกุ โมกุ (Mogu Mogu) 

และเครื่องดื่มผสมว่านหางจระเข้ เซ็ปเป้ อโลเวร่า ดริ้งค์ ซึ่ง SAPPE มีการส่งออกสินค้าไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก 

ส่วนรายได้จากการขายในประเทศก็เติบโตขึ้น 6% แม้จะเป็นรายได้ในสัดส่วนที่น้อย แต่ก็ถือว่ามีส่วนสำคัญในการเติบโตของรายได้เช่นกัน

โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมที่สุดของตลาดในประเทศ ยังคงเป็นแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ (Sappe Beauti) 

รวมถึงผลิตภัณฑ์คอลลาเจนชนิดผง เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์ (Sappe Beauti Powder Stix) 

ที่มีจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงได้ง่าย และยังไม่มีคู่แข่งในตลาดนี้โดยตรง..

Reference

- คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บมจ.เซ็ปเป้ ไตรมาสที่ 1 ปี 2567