อ่านกลยุทธ์ที่ทำให้ ‘เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์’ กำไรโต 2 เท่า ไตรมาส 1/67 เหล่าบิ๊กเนมร่วมทำ ‘Naming Sponsor’

Major Cineplex x BrandCase

แม้ก่อนหน้านี้ ธุรกิจโรงภาพยนตร์จะเผชิญกับความท้าทายสารพัด
แต่ด้วยอรรถรสของการนั่งดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้
ทำให้ปีนี้โรงภาพยนตร์กลับมาทำผลงานท็อปฟอร์ม

ยืนยันได้จากผลประกอบการของ Major Cineplex
ผู้นำอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ของเมืองไทย
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566

รายได้ 1,719 ล้านบาท เติบโต 8%
กำไร 140 ล้านบาท เติบโต 100%

กำไรที่เติบโตขึ้นถึง 2 เท่านี้ เหตุผลหลัก ๆ มาจากมีคนเข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์มากขึ้น เพราะได้อานิสงส์จากกระแสภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง ที่เข้าฉายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
สามารถกวาดรายได้หลักร้อยล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น

-พี่นาค 4 รายได้ 177 ล้านบาท
-หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด รายได้ 127 ล้านบาท
-หลานม่า รายได้ 320 ล้านบาท
-อนงค์ รายได้ 120 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นอกจากการที่มีคนเข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์มากขึ้น จะส่งผลดีต่อรายได้และกำไร
ยังส่งผลดีต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรงภาพยนตร์ โดยเฉพาะโอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากรายได้ในฝั่งของโฆษณา

เพราะถ้าไปดูผลสำรวจเม็ดเงินโฆษณาและเทรนด์ผู้บริโภคไทย 4 เดือนแรกปี 2024 โดย Nielsen ประเทศไทย จะพบว่า เม็ดเงินโฆษณาในไทย มีมูลค่า 37,919 ล้านบาท เติบโตขึ้น +4%

และหากโฟกัสไปที่สื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ จะพบว่ามีมูลค่า 1,125 ล้านบาท
หรือเติบโตมากถึง +35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2023

ซึ่งถือเป็นช่องทางที่มีการเติบโตสูงสุด เมื่อเทียบกับทีวี อินเทอร์เน็ต สื่อนอกบ้าน (OOH) วิทยุ สิ่งพิมพ์
ดังนั้น นี่จึงถือเป็นโอกาสทองของการทำสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ก็ว่าได้

แล้วธุรกิจ Major สร้างรายได้ในฝั่งโฆษณาอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้แบบเข้าใจง่าย ๆ

เวลาพูดถึงการโฆษณาในโรงหนัง หลายคนอาจจะนึกถึงโฆษณา ที่ฉายก่อนภาพยนตร์จะเริ่ม
หรือโฆษณาตามป้ายบิลบอร์ด หรือจอ LED ที่อยู่ตามจุดจำหน่ายตั๋ว ไปจนถึงด้านหน้าทางเข้าโรงภาพยนตร์

แต่อีกหนึ่งรูปแบบการโฆษณา ที่มาแรงอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปีนี้ คือ Naming Sponsor หรือ การใส่ชื่อสปอนเซอร์ตามด้วยชื่อโรงภาพยนตร์
ที่หลายคนคุ้นหูเป็นอย่างดี คงหนีไม่พ้น Krungsri IMAX ที่ Paragon Cineplex

ถามว่า การ Naming Sponsor มีข้อดีอย่างไร?

มาเริ่มจากฝั่งพาร์ตเนอร์
Naming Sponsor ถือว่า เป็นการสร้าง Awareness ให้กับแบรนด์อย่างแยบยล และไม่ได้ทำให้ผู้มาใช้บริการรู้สึกอึดอัด ในทางกลับกัน ยังเป็นการไทอินชื่อแบรนด์ให้ติดหู และกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคมากขึ้น

ที่สำคัญ ยังทำให้แบรนด์มีความใกล้ชิดกับผู้บริโภค แถมยังสามารถใช้ประโยชน์จากการ Naming Sponsor ต่อยอดไปสู่การทำกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็นการมอบสิทธิพิเศษหรือส่วนลดให้กับลูกค้าของแบรนด์ รวมไปจนถึงการจัดกิจกรรมใหญ่ เพื่อมอบความเอกซ์คลูซีฟให้กับลูกค้า

อย่าลืมว่า การดูหนัง ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมโปรดของคนทุกเพศทุกวัย
เพราะด้วยอรรถรสของประสบการณ์ในโรงหนัง ที่ไม่ได้หาได้จากที่ไหน
ต่อให้มีการจำลองบรรยากาศขึ้นมาก็อาจจะไม่เหมือน

เพราะด้วยประสบการณ์ความบันเทิงครบสมบูรณ์แบบ ด้วยโรงภาพยนตร์ที่หรูหรา สะดวกสบาย และบริการระดับโรงแรม พร้อมด้วยเทคโนโลยีโรงภาพยนตร์ที่ล้ำทันสมัย

ดังนั้น กิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโรงภาพยนตร์ จึงมีความพิเศษ และสามารถสร้างความประทับใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี แบบที่ไม่ใช่ใครจะทำตามได้ง่าย ๆ

ที่สำคัญ ยังสามารถตอบโจทย์กิจกรรมได้หลากหลายรูปแบบ แทนที่จะเป็นการดูหนังอย่างเดียว
อาจจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อคืนกำไรให้ลูกค้าในรูปแบบอื่น ๆ

สามารถตอบโจทย์คนทุกเจนในครอบครัว ไม่ว่าจะมาคนเดียว มาเป็นคู่ มาทั้งครอบครัว
หรือ ในยุค Pet Parent แบบนี้ ต่อให้อยากจะยกขบวนพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาด้วยก็ไม่ใช่ปัญหา

ที่สำคัญที่สุด คือ ด้วยจุดแข็งของจำนวนโรงภาพยนตร์ของเครือ Major ที่มีมากถึง 185 สาขา 861 โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ครอบคลุม 63 จังหวัด
ทำให้ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหน ก็สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

โดยในปีนี้ Major ยังมีแผน ทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาท เพื่อขยายเพิ่ม 15 สาขา 47 โรงภาพยนตร์อีกด้วย

คราวนี้มาดูในฝั่งของลูกค้ากันบ้าง

มองผิวเผิน การทำ Naming Sponsor อาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อลูกค้ามากนัก
แต่จริง ๆ แล้ว คนที่ได้ประโยชน์ไม่น้อยจากเรื่องนี้ คือลูกค้า
เพราะมีโอกาสจะได้สิทธิพิเศษจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่เราอาจจะเป็นลูกค้าอยู่ในปัจจุบันหรือในอนาคต

หรือจากเดิมที่อาจจะแค่มาดูหนัง แต่พอแบรนด์ดังเข้ามา “Naming Sponsor”
ก็มีโอกาสที่จะจัดกิจกรรมอะไรที่นอกเหนือจากการดูหนัง ซึ่งเป็นโอกาสให้ลูกค้าได้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในโรงหนังแบบที่คาดไม่ถึง

ในฝั่ง Major ก็ไม่ต้องพูดถึง การที่มีแบรนด์ดังให้ความไว้วางใจมาเป็นพาร์ตเนอร์
ก็เหมือนมีเพื่อนร่วมทางที่พร้อมกอดคอกันทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

เพราะการทำธุรกิจยุคนี้ ถ้าไปแบบลำพัง อาจจะไปได้ยาก หรือ ไปได้ไม่ไกล เท่าการมีพาร์ตเนอร์ ที่มาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง และสร้างความภักดีในแบรนด์อย่างแยบยล

ดังนั้น BrandCase จึงมองว่า กลยุทธ์ “Naming Sponsor” เป็นอีกหนึ่ง Win-Win Strategy ที่วิน-วิน กันทุกฝ่าย ตั้งแต่ลูกค้า-Major-พาร์ตเนอร์

คราวนี้ลองมาดูตัวอย่าง การเป็น “Naming Sponsor” ของแบรนด์ต่าง ๆ เริ่มจาก

-Krungsri
ออกแบบพื้นที่ไลฟ์สไตล์ในชื่อ “Krungsri Co-Life Space” พื้นที่ไลฟ์สไตล์แห่งใหม่ล่าสุดสำหรับคนรุ่นใหม่เพื่อให้ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” ที่ Major Cineplex Ratchayothin
ซึ่งเป็นสาขาที่มียอดขายสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ปัจจุบันมี Traffic ประมาณ 27,000-32,000 คนต่อวัน
เพื่อตอกย้ำ Brand Awareness ของกรุงศรี ที่ต้องการให้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย ๆ ด้วยสเปซที่ช่วยเติมเต็มและตอบสนองการใช้ชีวิตด้วยกันของคนรุ่นใหม่ให้ง่ายขึ้นในทุกด้าน

-Krungthai AXA
เนรมิตโรงภาพยนตร์ระดับเวิลด์คลาส Siam Pavalai Royal Grand Theatre by Krungthai-AXA Life ณ ชั้น 6 Paragon Cineplex เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษเหนือระดับให้กับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมมอบโปรโมชันและสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า

-Vietjet
เปิดโรงภาพยนตร์วีไอพีระดับไฮเอนด์ “Vietjet VIP Cinema” จำนวน 3 โรงภาพยนตร์ ณ ชั้น 5 Paragon Cineplex เพื่อส่งมอบไลฟ์สไตล์ความหรูหราเฉพาะลูกค้าคนพิเศษ ด้วยที่นั่งในโรงหนังแบบ Co-Coon สามารถปรับเอนนอนได้ 180 องศา แถมยังมีการเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มภายในเลาจ์ส่วนตัว รวมไปถึงมีบริการนวดเท้าให้สำหรับ Member ที่ถือบัตร VIP GIFT CARD ฟรี 15 นาที

-Pramy แบรนด์อาหารแมวเกรดซูเปอร์พรีเมียม
เปิดโรงภาพยนตร์ “PRAMY PET CINEMA” ที่ Westville Cineplex ชั้น 3 เซ็นทรัลเวสต์วิลล์
ให้เจ้าของได้พาสัตว์เลี้ยงแสนรักทั้งน้องแมวและน้องสุนัข มาทำกิจกรรมนอกบ้านด้วยการใช้เวลาดูหนังร่วมกันในวันหยุด ทุก ๆ วันเสาร์และอาทิตย์รอบเช้า

-LG
เปิดตัวโรงภาพยนตร์ “LG Miraclass LED Cinema” ที่ Mega Cineplex ชั้น 2 เมกาบางนา
เพื่อชูสุดยอดนวัตกรรมจอ 4K LED ใหญ่ที่สุดในไทย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูหนังให้กับลูกค้า

-Real Asset
เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ระดับเฟิสต์คลาสสุดหรู “REAL ASSET ULTIMATE CINEMA” ที่ Mega Cineplex
เพื่อตอบโจทย์คนเมืองและวัยรุ่นที่ชื่นชอบการดูหนัง รวมทั้งสนับสนุนลูกค้าของโครงการเรียลแอสเสทบริเวณโซนบางนา

ทั้งหมดนี้ คือ ตัวอย่างของ 6 แบรนด์ดังที่มาร่วม “Naming Sponsor” กับ Major Cineplex
ที่กำลังสร้างโอกาสที่คาดไม่ถึง จากการเติบโตของธุรกิจโรงหนัง ที่ไม่ใช่แค่การเป็นพื้นที่มอบความบันเทิงให้กับลูกค้า

แต่ยังเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์ที่จะเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ในการทำกิจกรรมการตลาดที่โรงหนัง
เพื่อมอบประสบการณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างให้กับลูกค้า

เอาเป็นว่า แบรนด์ไหนที่กำลังมองหาพาร์ตเนอร์ที่จะมาสร้างมิติใหม่ให้กับแบรนด์
Major พร้อมชวนทุกแบรนด์ที่สนใจมาร่วมทำกิจกรรมการตลาดสนุก ๆ ในโรงภาพยนตร์
ทั้งในรูปแบบ Movie Marketing หรือ Naming Sponsor ได้เลย

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ช่องทาง Facebook : MajorGroup

References
-https://www.facebook.com/photo/?fbid=858379072989927&set
=a.627721116055725
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ไตรมาส 1 ปี 2567