อธิบายโมเดลธุรกิจ เครือ Minor เกี่ยวอะไรกับ POP MART ที่กำลังฮิตตอนนี้

อธิบายโมเดลธุรกิจ เครือ Minor เกี่ยวอะไรกับ POP MART ที่กำลังฮิตตอนนี้

25 พ.ค. 2024
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือที่หลายคนเรียกว่า เครือ Minor 
ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรม อย่าง อนันตรา, อวานี
นอกจากนั้นยังเป็นเจ้าของแบรนด์ฟาสต์ฟูดชื่อดังในไทย อย่าง The Pizza Company, Burger King, Sizzler, Bonchon, Swensen’s, Dairy Queen
และเครือ Minor ยังมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ POP MART ในไทยด้วย
โดยในปี 2566 เครือ Minor มีรายได้รวม 153,049 ล้านบาท กำไร 5,407 ล้านบาท
แล้วโมเดลธุรกิจของเครือ Minor เป็นอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ 
โดยผลประกอบการช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
ปี 2564 มีรายได้ 76,211 ล้านบาท ขาดทุน 13,167 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้ 124,206 ล้านบาท กำไร 4,286 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้ 153,049 ล้านบาท กำไร 5,407 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ของเครือ Minor ปี 2566 มาจาก
- ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม 77.05%
- ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและผลิตสินค้า 19.10%
- ธุรกิจจัดจำหน่าย 1.43%
- รายได้อื่น ๆ 2.42%
จะเห็นว่า รายได้หลักเกือบ 80% หรือราว ๆ 117,919 ล้านบาท ของเครือ Minor มาจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม 
ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม หรือเรียกว่า ไมเนอร์ โฮเทลส์
โดยเมื่อสิ้นปี 2566 ไมเนอร์ โฮเทลส์ มีโรงแรมที่ลงทุนเองจำนวน 365 แห่ง 
และมีโรงแรมและเซอร์วิซสวีตที่รับจ้างบริหารอีก 167 แห่ง ใน 65 ประเทศ 
มีจำนวนห้องพักทั้งหมดกว่า 78,253 ห้อง
โดยจำนวนที่ว่านี้ อยู่ภายใต้แบรนด์ อนันตรา, อวานี, โอ๊คส์, ทิโวลี, เอ็นเอช คอลเลคชั่น, เอ็นเอช, นาว และ เอเลวาน่า คอลเลคชั่น 
ครอบคลุมทั่วทวีปเอเชีย, โอเชียเนีย, ยุโรป, อเมริกา และแอฟริกา 
โดยห้องพักส่วนใหญ่ของ ไมเนอร์ โฮเทลส์ กว่า 61% อยู่ในทวีปยุโรป 
ที่เหลือจะแบ่งเป็น
ทวีปอเมริกา 11%, ทวีปเอเชีย 11%, ทวีปโอเชียเนีย 9% และทวีปตะวันออกกลางและแอฟริกา 8%
โดยภูมิภาคที่สามารถทำรายได้มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ 
- ยุโรป 71%
- ไทย 11%
- ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ 9%
ต่อมาเรามาเจาะลึกลงไปในอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจสำคัญ คือกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร หรือ ไมเนอร์ ฟู้ด 
กลุ่มนี้ ทำรายได้เกือบ 20% หรือคิดเป็นรายได้กว่า 29,238 ล้านบาท
โดยแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารของ ไมเนอร์ ฟู้ด ก็อย่างเช่น 
The Pizza Company, Burger King, Sizzler, Bonchon, Swensen’s, Dairy Queen 
ซึ่งแบรนด์ที่ทำรายได้ในกลุ่ม ไมเนอร์ ฟู้ด 5 อันดับแรก คือ 
- The Pizza Company 13%
- ThaiExpress 13%
- THE COFFEE CLUB 12%
- Beijing Riverside & Courtyard (ริเวอร์ไซด์) 11%
- Sizzler 8% 
สุดท้ายคือ กลุ่มธุรกิจที่ทำรายได้น้อยที่สุดในเครือ คือ ธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ 
ซึ่งทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 2,182 ล้านบาท
ตัวอย่างแบรนด์ที่คนไทยคุ้นตา อย่างเช่น 
แบรนด์กระเป๋า anello, แบรนด์แฟชั่น CHARLES & KEITH, แบรนด์เครื่องครัว ZWILLING J.A. HENCKELS, BergHOFF และ Joseph Joseph  
และหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า POP MART แบรนด์กล่องสุ่มอาร์ตทอยที่กำลังฮิตมาก ๆ ในไทยตอนนี้ ก็มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจส่วน Minor Lifestyle ด้วย
โดย บริษัท ป๊อป มาร์ท (ไทยแลนด์) จํากัด เจ้าของธุรกิจร้านอาร์ตทอย POP MART ในไทย 
มี บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Minor Lifestyle 
เข้าไปร่วมทุนโดยการถือหุ้นอยู่ 42%..
Reference
- รายงานประจำปี 2566 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) 
--------------------------
Sponsored by JCB Thailand
#JCBสุขทุกสไตล์ได้ทุกวัน
พบกับส่วนลดและสิทธิพิเศษสำหรับทุกไลฟ์สไตล์
ทั้ง กิน เที่ยว ช็อป ให้คุณมีความสุขได้ทุก ๆ วัน
เพิ่มเติมที่ >> https://bit.ly/JCBJSOPRO
สมัครบัตรเครดิต JCB ได้ที่
#JCBThailand #JCBCard
#JCBOwnHappinessOwnStory
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.