สรุปการเติบโต ยาสีฟันเทพไทย จากยอดขาย 6 ล้าน สู่ 400 ล้าน ในเวลา 10 กว่าปี
6 เม.ย. 2024
สรุปการเติบโต ยาสีฟันเทพไทย จากยอดขาย 6 ล้าน สู่ 400 ล้าน ในเวลา 10 กว่าปี | BrandCase
“ใช้นิดเดียว ปากสะอาด” สโลแกนของยาสีฟันแบรนด์หนึ่ง ที่แนะนำให้ลูกค้าบีบยาสีฟันเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็เพียงพอแล้ว สำหรับทำความสะอาดฟัน
ถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของยาสีฟัน และเป็นการค้านความเชื่อของหลาย ๆ คนที่เคยคิดว่า ต้องบีบยาสีฟันเต็มแปรงเท่านั้น ถึงจะดีต่อสุขภาพช่องปาก
โดยยาสีฟันแบรนด์ที่ว่านี้ก็คือ “เทพไทย” แบรนด์ยาสีฟันสมุนไพรอันดับต้น ๆ ของคนไทย ที่มียอดขายปีละหลายร้อยล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่า กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เมื่อราว 20 ปีก่อน เทพไทย ก็เคยเป็นเพียงแบรนด์เล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ที่ขายตามงาน OTOP มาก่อน
แล้วเรื่องราวของ เทพไทย เป็นมาอย่างไร ? ทำไมสามารถเติบโตกลายเป็นแบรนด์ดังระดับประเทศได้ ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของยาสีฟันเทพไทยนั้น เกิดจากคุณแม่ของคุณกร สุริยพันธ์ ผู้บริหารของเทพไทยรุ่นปัจจุบัน ที่แต่เดิมนั้นทำธุรกิจรับจ้างทั่วไป ไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร
จะมีก็เพียงแต่ยาสีฟันสมุนไพรธรรมดา ๆ ที่ทำใช้กันเองภายในครอบครัว จากความรู้ด้านสมุนไพรที่ได้จากบรรพบุรุษก็เท่านั้น
จนวันหนึ่ง คุณแม่ได้ลองทำยาสีฟันสมุนไพรใส่ตลับขายดู โดยในช่วงแรก ๆ ก็ขายตามตลาดนัด จากนั้นก็ค่อยพัฒนากลายเป็นสินค้า OTOP ของอำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา ในปี 2546
และถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แบรนด์เทพไทยเติบโตอย่างมาก จนสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้คุณกรตัดสินใจลาออกจากงานวิศวกรในเวลานั้น มาช่วยดูแลธุรกิจนี้ของคุณแม่
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เทพไทย มีขายเฉพาะในงาน OTOP เท่านั้น
ทำให้มียอดขายต่อปี 6 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ก็เหลือเป็นกำไรจริง ๆ ไม่มากนัก
ทำให้มียอดขายต่อปี 6 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แล้ว ก็เหลือเป็นกำไรจริง ๆ ไม่มากนัก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณกรเลยจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อผลักดันเทพไทย ให้กลายเป็นแบรนด์ระดับ Mass ให้ได้
โดยคุณกรได้ตั้งบริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด ขึ้นมาในปี 2557 จากนั้นก็ได้จับมือเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัท แมส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (Mass Marketing)
หนึ่งในผู้จัดจำหน่ายชั้นนำของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ที่มีแบรนด์ดังต่าง ๆ มากมายเป็นพาร์ตเนอร์ด้วย เช่น ยากันยุง ก.ย. 15, ลูกอมมายมิ้นท์, ลูกอมคูก้า, โฟมล้างหน้า ดร.มนตรี
นอกจากนี้ แมส มาร์เก็ตติ้ง ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการตลาดและการกระจายสินค้า ที่มีคอนเน็กชันกับห้างสรรพสินค้า ร้านค้าท้องถิ่น รวมถึงร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ
โดยการเป็นพาร์ตเนอร์กันของเทพไทยและแมส มาร์เก็ตติ้ง ในครั้งนี้ จะช่วยให้สินค้าของเทพไทยได้วางขายในร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องพึ่งพาแค่งาน OTOP อีกต่อไป
แม้จะแลกมาด้วยรายได้ส่วนหนึ่งที่ต้องแบ่งกับแมส มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งทางเทพไทยมองแล้วว่า ต่อให้แบ่งรายได้ให้กับแมส มาร์เก็ตติ้ง คนละครึ่ง เพื่อให้สินค้า Mass มากขึ้น และทำให้ยอดขายดีขึ้นหลายเท่าตัว ย่อมคุ้มค่ากว่าการขายเองที่งาน OTOP อยู่ดี
ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างมากของเทพไทย ในการแก้จุดอ่อนด้านการตลาดและทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และที่สำคัญคือเป็นการก้าวจากสินค้าระดับ OTOP เป็นสินค้าระดับประเทศ
นอกจากนี้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถไปไกลมากขึ้น ในปี 2558 คุณกรจึงเข้าศึกษาคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เพื่อนำความรู้มาต่อยอดธุรกิจเทพไทยอีกด้วย
ส่วนอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของเทพไทย ที่ทำให้ดูเป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ก็คือในปี 2561 ตอนที่เทพไทย ดึงสองนักแสดงชั้นนำระดับประเทศคือ เบลล่า-ราณี และ เวียร์-ศุกลวัฒน์ มาเป็นพรีเซนเตอร์
เนื่องจากตอนนั้น ละครบุพเพสันนิวาสกำลังดังมาก ประกอบกับแครักเตอร์ที่คล้ายกับยาสีฟันของเทพไทย คือมีความเป็นไทย แต่ก็มีความทันสมัยอยู่ในคราวเดียวกัน
ถึงค่าใช้จ่ายในการจ้างทั้งคู่มาเป็นพรีเซนเตอร์จะสูงลิบ แต่ก็แลกมาด้วยความน่าเชื่อถือที่มากขึ้น และยอดขายที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ถือเป็นความคุ้มค่าที่ได้กลบจุดอ่อน และเสริมจุดแข็งในคราวเดียว
ปัจจุบัน เทพไทย ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ยาสีฟัน ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ ของประเทศ มีการวางขายตามห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ
รายได้และกำไรของ บริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ยาสีฟัน “เทพไทย”
ปี 2564 รายได้ 490 ล้านบาท กำไร 139 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 416 ล้านบาท กำไร 93 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 416 ล้านบาท กำไร 93 ล้านบาท
อ่านมาถึงตรงนี้ คงเข้าใจแล้วว่าทำไมเทพไทยถึงกล้าเสียส่วนแบ่งรายได้กับพาร์ตเนอร์, กล้าเสียเงินทุ่มโฆษณาเมื่อถึงเวลาที่ใช่
เพราะจากผลลัพธ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งการได้เข้าไปอยู่ในร้านสะดวกซื้อ การเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่มากขึ้น
ซึ่งถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและคุ้มค่ามากจริง ๆ สำหรับเทพไทย ที่ใช้กลยุทธ์ยอมเสียน้อย เพื่อให้ได้มาก
จนทำให้ยาสีฟันสมุนไพรเทพไทย เติบโตจากแบรนด์ OTOP ยอดขาย 6 ล้านบาท
กลายเป็นแบรนด์ระดับประเทศที่มียอดขายกว่า 400 ล้านบาท ภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี..
Tag:ยาสีฟันเทพไทย