โมเดลธุรกิจ Index Living Mall จากขายเก้าอี้พับ สู่บริษัทเฟอร์นิเจอร์ 10,000 ล้าน

โมเดลธุรกิจ Index Living Mall จากขายเก้าอี้พับ สู่บริษัทเฟอร์นิเจอร์ 10,000 ล้าน | BrandCase

Index Living Mall เป็นบริษัทเฟอร์นิเจอร์ในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท
ที่มีทั้งแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ของตัวเอง และมีทั้งห้าง Index Living Mall กระจายอยู่หลายสาขาทั่วประเทศไทย

รู้หรือไม่ ? ว่า Index Living Mall มีจุดเริ่มต้นจากการผลิต “เก้าอี้ขาพับ” สีแดงตัวเล็ก ๆ ออกไปขาย

จุดเริ่มต้นจากเก้าอี้ขาพับ
สู่แบรนด์เฟอร์นิเจอร์เจ้าดังของประเทศไทย อย่าง Index Living Mall

มีเรื่องราวน่าสนใจอย่างไร

BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

เรื่องราวของ Index Living Mall เริ่มต้นจากห้องแถวเล็ก ๆ ในปี 2516
หรือเมื่อราว ๆ 50 ปีก่อน

โดยคุณพิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ซึ่งมีความสนใจอยากทำธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์ แล้วขายในแบรนด์ของตัวเอง

โดยสินค้าตัวแรกของที่คุณพิศิษฐ์ที่ได้ผลิตมาขาย ก็คือ “เก้าอี้ขาพับเหล็กสีแดง” ภายใต้แบรนด์ Winner

ซึ่งเก้าอี้ขาพับตัวนี้ ก็ขายดิบขายดี จนเรียกได้ว่าบ้านทุกหลัง จะต้องมีเก้าอี้แบบนี้อย่างน้อย 1 ตัว

เมื่อเก้าอี้ขาพับขายดี คุณพิศิษฐ์ก็ได้หันไปผลิตสินค้าอย่างอื่นเพิ่มเติม
อย่างตู้วางทีวี ซึ่งเป็นสินค้าที่คนสมัยก่อนยังไม่ค่อยมีใช้มากนัก

หลังจากนั้น คุณพิศิษฐ์ก็ค่อย ๆ ขยายโรงงานเฟอร์นิเจอร์ให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มต้นตีตลาดต่างประเทศมากขึ้น

จนกระทั่งในปี 2534 คุณพิศิษฐ์ก็ได้เริ่มเปิดตัวแบรนด์เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ใหม่ ชื่อว่า Index Furniture โดยตั้งใจเจาะกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไป

หลังจากที่เปิดตัวแบรนด์เฟอร์นิเจอร์แบรนด์ใหม่ได้สักพัก คุณพิศิษฐ์ก็ได้เปิดตัวห้างค้าปลีกแบรนด์ใหม่
ชื่อ Index Living Mall เพื่อให้เป็นห้างค้าเฟอร์นิเจอร์โดยเฉพาะ

โดยห้าง Index Living Mall ได้เปิดสาขาแรกที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในปี 2545 และก็ทยอยขยายสาขามากขึ้น ในกรุงเทพมหานคร และหัวเมืองในต่างจังหวัด

ซึ่ง Index Living Mall ก็เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ และบริษัทก็ได้เริ่มต้น IPO หรือระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2562 โดยใช้ชื่อตัวย่อว่า ILM

ปัจจุบัน ธุรกิจหลักของ Index Living Mall แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ

ธุรกิจจัดจำหน่าย

เป็นการจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้าน และของตกแต่งบ้านภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และแบรนด์อื่น ๆ

ผ่านช่องทางจำหน่ายหลัก คือห้าง Index Living Mall ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ

รวมถึงร้านค้าอื่น ๆ ที่เช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า และร้านค้าแบบสแตนด์อะโลน
อย่างเช่น Index Furniture Center, Trend Design, BoConcept และ OK Furniture

พร้อมกับช่องทางจำหน่ายในรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น

การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์การจำหน่ายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายการจำหน่ายสินค้าในรูปแบบ B2B ให้กับโครงการต่าง ๆ
เช่น โครงการหมู่บ้านจัดสรร, คอนโดมิเนียม, อาคารสำนักงาน และโรงแรมต่าง ๆ

นอกจากนี้ Index Living Mall ยังรับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์อื่น หรือที่เรียกว่า OEM ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกด้วย

ธุรกิจพื้นที่ให้เช่า

เป็นรูปแบบการให้เช่าพื้นที่ภายในห้าง และคอมมิวนิตีมอลล์ต่าง ๆ ในเครือ Index Living Mall นั่นคือ

The Walk เป็นคอมมิวนิตีมอลล์ขนาดย่อม โดยมีหลายชั้นด้วยกัน
ภายในจะมีร้านค้า ร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และคาเฟต่าง ๆ
ปัจจุบันคอมมิวนิตีมอลล์ The Walk มีทั้งหมด 3 สาขาLittle Walk เป็นคอมมิวนิตีมอลล์ ที่มีเพียงชั้นเดียว แต่เน้นให้ลูกค้าเข้าถึงง่ายและสะดวกสบาย
โดยมีบางร้านที่ให้บริการในรูปแบบ Drive-Through ด้วย
ปัจจุบันคอมมิวนิตีมอลล์ Little Walk มีทั้งหมด 3 สาขาIndex Mall เป็นพื้นที่เช่าขนาดใหญ่ ซึ่งอยู่ใน Index Living Mall
โดย Index Mall จะมีเพียงแค่ 4 สาขาเท่านั้น

นอกจากนี้ ภายใน Index Living Mall เองก็ยังมีการแบ่งพื้นที่บางส่วน ให้กับร้านค้าอื่น ๆ มาร่วมเช่าพื้นที่ด้วย

ธุรกิจอื่น ๆ เช่น

ธุรกิจแฟรนไชส์
โดยบริษัทได้ซื้อแฟรนไชส์ร้านค้า หรือร้านอาหารต่าง ๆ เช่น ร้าน Café Amazon
โดยให้ร้านแฟรนไชส์ มาเช่าพื้นที่ภายในคอมมิวนิตีมอลล์ในเครือ อย่าง The Walk และ Little Walkร้านค้าอื่น ๆ
เช่น ร้าน Seoul U Mart เป็นร้านซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลี ที่บริษัทได้พัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเอง
โดยเน้นนำเข้าสินค้า ประเภทอาหาร, เครื่องดื่ม, เครื่องปรุง และขนมขบเคี้ยวจากประเทศเกาหลีใต้

ปัจจุบันร้าน Seoul U Mart มีทั้งหมด 4 สาขา และกำลังมีแผนจะขยายร้านต่อไปในอนาคต

ถ้าหากเราดูสัดส่วนรายได้ของเครือ Index Living Mall ทุก ๆ 100 บาท เราก็จะเห็นว่า

มาจากธุรกิจจัดจำหน่าย 91บาทมาจากธุรกิจพื้นที่ให้เช่า 7 บาทมาจากธุรกิจอื่น ๆ 2 บาท

จากตัวเลขตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่า Index Living Mall จำเป็นต้องพึ่งพารายได้ จากธุรกิจร้านค้าปลีกเป็นอย่างมาก

ซึ่งถ้าหากเราเอาแว่นขยาย ส่องลงไปที่ธุรกิจจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นรายได้หลักในทุก ๆ 100 บาท เราก็จะเห็นว่า

มาจากการขายผ่านห้างสรรพสินค้า Index Living Mall และห้างในเครือ 82 บาทมาจากช่องทางออนไลน์ 12 บาทมาจากการจัดจำหน่ายสินค้า B2B ให้กับโครงการต่าง ๆ 5 บาทมาจากตัวแทนจำหน่าย 1 บาท

ถ้าหากคิดเลขเร็ว ๆ ก็จะเห็นว่ารายได้ของเครือ Index Living Mall ทั้งหมด มาจากการขายของในห้างสรรพสินค้ามากถึง 75% เลยทีเดียว

ซึ่งถ้าหากเราลองไล่จำนวนห้างของ Index Living Mall ปัจจุบันมี..

Index Living Mall 32 สาขาร้านค้าอื่น ๆ ในเครือ 10 สาขา

ซึ่งโดยรวมแล้ว จะเห็นว่าในปัจจุบัน มีร้านค้าปลีกในประเทศไทยจำนวน 42 สาขา

นอกจากนี้ ก็ยังมีร้านค้าแฟรนไชส์ต่างประเทศทั้งหมด 17 สาขา กระจายอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, เนปาล, มัลดีฟส์, ลาว, กัมพูชา, ปากีสถาน, เมียนมา และเวียดนาม

ทีนี้ เราลองไปดูรายได้และกำไรของ Index Living Mall หรือ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ กันบ้าง

ปี 2564 รายได้ 8,411 ล้านบาท กำไร 453 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 8,996 ล้านบาท กำไร 659 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 9,413 ล้านบาท กำไร 726 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่า Index Living Mall มีรายได้และกำไรที่เติบโตขึ้นทุกปี

แม้ว่าปัจจุบัน ตลาดห้างค้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านนั้น จะมีการแข่งขันกันสูง
แต่ที่ผ่านมา Index Living Mall ก็ได้พยายามปรับตัวผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น

พัฒนาและปรับปรุงสาขา Index Living Mall ในทำเลที่มีศักยภาพ
ให้ดูน่าเดินช็อปปิงมากขึ้น ด้วยการจัดวางสินค้า ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในพื้นที่ และดีลกับร้านค้าให้มาเช่าพื้นที่ศูนย์การค้ามากขึ้นพัฒนาระบบช็อปปิงออนไลน์ ให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น

ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็คือเรื่องราวโดยสรุป ของ Index Living Mall บริษัทเฟอร์นิเจอร์หมื่นล้านบาทในตลาดหุ้นไทย

ที่มีจุดเริ่มต้น จากสินค้าง่าย ๆ ที่หลายบ้านต้องมี เมื่อ 50 ปีก่อน อย่าง “เก้าอี้ขาพับ” นั่นเอง..

References
-รายงานประจำปี 2565, บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์
-https://investor.indexlivingmall.com/th/corporate-information/company-milestone
-ILM - ผลประกอบการสำคัญ - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (set.or.th)
-https://promotions.co.th/
-ยูทูบ จุดเริ่มต้นของอาณาจักรเฟอร์นิเจอร์ จากเก้าอี้พับสีแดง l ILM I MEET THE TOP