สรุปธุรกิจ เจ้าของร้าน MAGURO - HITORI SHABU กำลังจะ IPO

สรุปธุรกิจ เจ้าของร้าน MAGURO - HITORI SHABU กำลังจะ IPO | BrandCase

ใครชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียม น่าจะคุ้น ๆ ร้านชื่อ MAGURO กับ HITORI SHABU
เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น 2 แบรนด์นี้ ชื่อว่า MAGURO Group

MAGURO Group ยังเป็นเจ้าของร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ชื่อว่า SSAMTHING TOGETHER ด้วย

รู้หรือไม่ว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา MAGURO Group มีรายได้ 666 ล้านบาท กำไร 31 ล้านบาท
และบริษัทกำลังจะ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในไทยเร็ว ๆ นี้

ธุรกิจของ MAGURO Group น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของ MAGURO Group เริ่มมาจาก
ร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อว่า MAGURO ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 หรือเมื่อประมาณ 8 ปีก่อน

โดยผู้ร่วมก่อตั้งคือ คุณจักรกฤติ สายสมบูรณ์, คุณรณกาจ ชินสำราญ และเพื่อน ๆ รวมทั้งหมด 4 คน

ในตอนนั้นทั้ง 4 คน ต้องการที่จะทำร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพ เจาะกลุ่มครอบครัว คู่รัก และคนทำงาน รายได้ปานกลางถึงรายได้สูง

และได้เปิดร้าน MAGURO สาขาแรกที่ ชิค รีพับบลิค บางนา

MAGURO ให้บริการ แบบ Full Service ตามสไตล์ญี่ปุ่น เช่น

-การทักทาย ตามสไตล์ญี่ปุ่น ทุกครั้งที่มีลูกค้าเดินออกจากร้าน

-มีการเสิร์ฟเมนูของทานเล่น ระหว่างรออาหารให้กับทุกโต๊ะ

-ควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ โดยเน้นใช้ของเกรดพรีเมียม

-ขนาดร้านไม่อึดอัด โดยแต่ละสาขามีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 150 ตารางเมตร

ทีนี้เมื่อประสบความสำเร็จจากร้าน MAGURO แล้ว ทางผู้บริหารก็มีความคิดอยากขยายไปทำร้านอาหารแนวอื่น ๆ มากขึ้น

โดยเริ่มที่แบรนด์ชื่อว่า “SSAMTHING TOGETHER”

SSAMTHING TOGETHER เป็นร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลี ที่ยังเน้นคอนเซปต์เดิมก็คือ ใช้วัตถุคุณภาพ และบริการอย่างใกล้ชิด ในราคาที่เข้าถึงได้

โดย SSAMTHING TOGETHER จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น
เช่น กลุ่มคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา และคู่รัก รายได้ปานกลาง

แต่ก็ยังคงโดดเด่นในเรื่องของการบริการตามมาตรฐานของร้าน เช่น มีพนักงานมาช่วยปิ้ง และช่วยย่างให้ถึงโต๊ะ

แบรนด์ต่อมา ที่เป็นไฮไลต์ของ MAGURO Group ในเวลานี้เลยก็คือ HITORI SHABU

HITORI SHABU เป็นแบรนด์ร้าน ชาบู ชาบู สุกี้พรีเมียม แบบหม้อเดี่ยว
โดยแต่ละคนจะได้หม้อชาบูส่วนตัวของตัวเองไปเลย

ซึ่งต้องบอกว่า เสียงตอบรับของร้านนี้ค่อนข้างดี โดยปัจจุบันถึงแม้จะมีเพียง 4 สาขา

แต่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 นั้น เฉพาะแบรนด์ HITORI SHABU ก็สามารถทำรายได้ไปแล้วกว่า 73 ล้านบาท

จุดเด่นของ HITORI SHABU คือเน้นเข้ามาตอบโจทย์ คนที่ชอบทานคนเดียว หรือคนที่มีธุระเร่งรีบ ไม่มีเวลา แต่อยากทานอาหารดี ๆ สักมื้อหนึ่ง
ซึ่งคนกลุ่มนี้นั้นก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน

รวมถึงตอบโจทย์ คนที่ชอบทานแบบแยกหม้อ รสชาติใครรสชาติมัน

นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบทานมากเกินไป หรือคนที่ไม่ชอบทานแบบบุฟเฟต์
เพราะเมนูของร้าน HITORI SHABU เป็นแบบ A La Carte คือ หนึ่งเซตหนึ่งอิ่ม

โดย HITORI SHABU ไม่ได้เน้นแค่เนื้อชาบู แต่ยังมีทั้งผัก เส้น เต้าหู้ ของทานเล่น ของหวาน
ซึ่ง 1 เซต สามารถทานอิ่มได้กำลังดี หรือถ้าอยากทานเมนูพิเศษไหนเพิ่ม ก็สามารถสั่งได้

ทั้งหมดนี้ก็คือ แบรนด์ 3 แบรนด์ ในเครือของ MAGURO Group ในตอนนี้

ทีนี้เราลองมาดู ผลประกอบของ บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ปี 2563 รายได้ 382 ล้านบาท กำไร 19 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 388 ล้านบาท กำไร 10 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 666 ล้านบาท กำไร 31 ล้านบาท

6 เดือนแรกของปี 2566 รายได้ 501 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท

โดยรายได้จากธุรกิจอาหารนั้น แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จาก
ร้าน MAGURO 64%
ร้าน SSAMTHING TOGETHER 21%
ร้าน HITORI SHABU 15%

จำนวนสาขา
ร้าน MAGURO 12 สาขา
ร้าน SSAMTHING TOGETHER 5 สาขา
ร้าน HITORI SHABU 4 สาขา

โดยตอนนี้ MAGURO Group กำลังอยู่ในขั้นตอนการยื่น Filing คือ ยื่นขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai

เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป สามารถร่วมลงทุนถือหุ้น MAGURO Group ได้..

References
-https://www.maguro.co.th/th/history
-https://www.set.or.th/th/listing/ipo/upcoming-ipo/mai
-https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=558618&lang=th