เบื้องหลัง FM ผู้ผลิต - จำหน่ายชิ้นส่วนไก่ชำแหละและชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก ที่กำลังจะ IPO

เบื้องหลัง FM ผู้ผลิต - จำหน่ายชิ้นส่วนไก่ชำแหละและชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก ที่กำลังจะ IPO

2 ก.ค. 2024
FM x BrandCase
เอ่ยชื่อบริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “FM” ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ อาจจะไม่คุ้นหู
ทั้งที่จริงแล้ว FM เป็นผู้ผลิต - จำหน่ายไก่ชำแหละและชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุกรายใหญ่ ที่มีรายได้หลายพันล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
เบื้องหลังธุรกิจของ FM น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
FM เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจอาหารจากไก่
ปัจจุบันมีการลงทุนเฉพาะธุรกิจหลัก คือ ผลิตและจำหน่ายไก่ชำแหละ และธุรกิจผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products)
โดยผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ประกอบไปด้วยชิ้นส่วนไก่ชำแหละ และผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูปปรุงสุก รวมถึงผลพลอยได้จากการชำแหละไก่
หลัก ๆ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- บริษัท เอฟแอนด์เอฟฟู้ด จำกัด ประกอบธุรกิจโรงเชือด และชำแหละไก่ เพื่อจำหน่ายเนื้อไก่และชิ้นส่วนไก่สดแช่เย็นและแช่แข็งให้กับลูกค้าและบริษัท สปริงคิทเช่น จำกัด โดยรับไก่เนื้อมาจากฟาร์มของเกษตรพันธสัญญา
- บริษัท สปริงคิทเช่น จำกัด ประกอบธุรกิจโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ปรุงสุก
โดยรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ให้กับบริษัทที่จะนำไปจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเอง (OEM)
โดยจะร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกับลูกค้าตั้งแต่สูตรในการปรับปรุงอาหารเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
- บริษัท เอฟแอนด์เอฟเพ็ทฟู้ด จำกัด ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง โดยปัจจุบันยังไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจ
สำหรับกลุ่มลูกค้าของกลุ่มบริษัท FM แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1. ธุรกิจโรงเชือดและชำแหละไก่ ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ ธุรกิจแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่และ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารหรืออาหารสัตว์ และผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนกลุ่มลูกค้ารอง ได้แก่ ตลาดสด ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ผู้ประกอบการ ธุรกิจร้านอาหารที่มีโครงข่ายขนาดใหญ่ (Restaurant Chain) และร้านค้าปลีกสาขาของบริษัทฯ
2. ธุรกิจโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ ประกอบด้วยผู้ประกอบการในต่างประเทศ ได้แก่ ผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์เนื้อไก่แปรรูปปรุงสุก ภายใต้แบรนด์ตนเองและนำไปจำหน่ายผ่านช่องทางค้าปลีกที่มีหลากหลายสาขา
รวมถึงจำหน่ายต่อให้แก่ธุรกิจบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน ที่มีชื่อเสียงในอาหารประเภทฟาสต์ฟูด และมีสาขาทั่วโลก
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าครอบคลุมทั้งผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศ
ได้แก่ กลุ่มสหภาพยุโรป​, สหราชอาณาจักร, ญี่ปุ่น, แคนาดา, เขตบริหารพิเศษฮ่องกง, เกาหลีใต้, กัมพูชา, จีน, สิงคโปร์ และมาเลเซีย
แล้วถ้าถามว่าที่ผ่านมา ธุรกิจของ FM ไปได้ดีขนาดไหน
ถ้าไปดูผลประกอบการในช่วงปี 2564-2566 ของ FM พบว่า
ปี 2564 มีรายได้รวม 4,166.42 ล้านบาท กำไรสุทธิ 183.72 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้รวม 5,825.72 ล้านบาท กำไรสุทธิ 840.67 ล้านบาท
ปี 2566 มีรายได้รวม 5,782.16 ล้านบาท กำไรสุทธิ 254.69 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,737.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.81 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 1,414.58 ล้านบาท
ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทฯ อยู่ที่ 124.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.53 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 73.06 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อมีการฟื้นตัว ประกอบกับประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุนดีขึ้น
ในส่วนของกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตจากนี้ FM ได้วางกลยุทธ์ไว้อย่างน่าสนใจ ได้แก่
1. เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ซึ่งสร้างอัตรากำไรที่สูงกว่า ควบคู่ไปกับการสรรหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการผลิตที่ทันสมัยเป็นที่นิยมและดีต่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคร่วมกับลูกค้าของบริษัทฯ ทำให้สามารถขายสินค้าได้ในราคาที่มีกำไรที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2. วางแผนการผลิตเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกส่วนของไก่และไม่มีส่วนสูญเสียจากกระบวนการผลิต (Zero Wasted) ทำให้สามารถเพิ่มอัตรากำไรที่ดีขึ้นจากการเพิ่มมูลค่าให้กับ Waste และมีแผนขยายสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งจะยกระดับอัตรากำไรให้ดียิ่งขึ้น
3. ขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคใหม่ ๆ และรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน โดยการรักษามาตรฐานในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ หลากหลายและมีมูลค่าเพิ่ม เพื่อผลประกอบการที่เติบโตอย่างยั่งยืน
4. ให้ความสำคัญกับการสรรหาและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับการดำเนินธุรกิจและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5. ปรับห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบ และนวัตกรรมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีอัตรากำไรที่เหมาะสมและเติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนนี้เอง กลายเป็นที่มาของอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทฯ นั่นคือ การ IPO
ซึ่งวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ ก็เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนรองรับการขยายธุรกิจ ได้แก่
- ปรับปรุงสายการผลิตเดิม และเพิ่มกำลังการผลิตโรงเชือด และชำแหละไก่
- ปรับปรุงสายการผลิตเดิม และขยายไลน์การผลิตโรงงานแปรรูปเนื้อไก่
- ลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์ หรือธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากสินค้าพลอยได้
- เงินทุนหมุนเวียน และคืนเงินกู้ระยะสั้น
ทั้งนี้ ก็น่าสนใจว่าหลังจาก IPO แล้ว FM จะสยายปีกธุรกิจได้อย่างที่ตั้งใจหรือไม่
เพราะเชื่อว่าหาก FM สามารถไปถึงหมุดหมายที่วางไว้ คงเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทไทยและคนไทย
Tag:FM
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.