วิธีลงทุนซื้อที่ดิน เปลี่ยนเงิน 3,000 ล้าน เป็น 10,000 ล้าน ของ ตัน อิชิตัน

วิธีลงทุนซื้อที่ดิน เปลี่ยนเงิน 3,000 ล้าน เป็น 10,000 ล้าน ของ ตัน อิชิตัน | BrandCase

เมื่อต้นปี 2549 คุณตัน ภาสกรนที หรือที่หลายคนเรียกว่า คุณตัน อิชิตัน ขายหุ้นบริษัทโออิชิ ให้เครือไทยเบฟเวอเรจ ได้เงินมา 3,000 ล้านบาท
จากนั้นนำเงินที่ได้ไปลงทุนในที่ดิน จนเงินก้อนนั้นงอกเงย กลายเป็น 10,000 ล้านบาท

คุณตันไปซื้อที่ดินตรงไหน ?
แล้วมีวิธีการเลือกที่ดินเพื่อการลงทุนอย่างไร ให้ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำแบบนี้ ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และที่ดิน ของคุณตัน อิชิตัน เริ่มต้นในช่วงก่อนปี 2540 จากการเก็งกำไรซื้อตึกแถว โดยการซื้อมา ขายไป

ต่อมาก็ทำโครงการบ้านจัดสรร จนกระทั่งเจอวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540
ทำให้คุณตันเป็นหนี้กว่า 100 ล้านบาท และต้องขายทรัพย์สินที่ไม่สร้างรายได้ออกไป เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ซึ่งเพียงไม่กี่ปีก็ใช้หนี้จนหมด

จากนั้นคุณตัน ก็หันมาปั้นธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มชาเขียว ภายใต้แบรนด์ โออิชิ (Oishi) จนประสบความสำเร็จ จนโออิชิ เข้าตลาดหุ้นได้

ปี 2551 คุณตันขายหุ้นโออิชิให้เครือ ไทยเบฟเวอเรจ ของเสี่ยเจริญ เจ้าของเบียร์ช้าง

โดยดีลนั้น คุณตันได้เงินมาประมาณ 3,000 ล้านบาท

ไม่นานหลังจากนั้น คุณตันก็นำเงินที่ได้ไปซื้อที่ดินแปลงใหญ่ย่านทองหล่อซอย 10 หรือที่เรียกกันว่า Arena 10 จำนวน 14 ไร่
และที่ดินติด BTS เพลินจิต อีกจำนวน 7 ไร่

และหลังจากถือโฉนดมาสักพัก จนได้ราคาที่พอใจแล้ว คุณตันก็ได้ขายที่ดินทั้ง 2 ผืนทิ้งไป ซึ่งรู้ไหมว่ามันทำกำไรให้คุณตันเยอะมาก

-โดยคุณตันขายที่ดินย่านทองหล่อซอย 10 จำนวน 14 ไร่ ด้วยราคาราวตารางวาละ 1.2 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6,700 ล้านบาท
ซึ่งตอนนี้ที่ดินตรงนั้น กลายเป็นที่ตั้งของโครงการ Park Origin Thonglor

-ส่วนที่ดินย่าน BTS เพลินจิต จำนวน 7 ไร่ คุณตันขายไป 3,300 ล้านบาท ซึ่งต่อมากลายเป็นโครงการ Noble Ploenchit

รวมแล้ว คุณตันขายที่ดิน 2 ผืนได้เงินมา 10,000 ล้านบาท
คือทำกำไรจาก 2 ดีลนี้ไปทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท

คำถามคือ แล้ววิธีการเลือกที่ดินของคุณตันเป็นอย่างไร ทำไมราคาถึงโตเอา โตเอา ?

คุณตันเคยให้สัมภาษณ์ถึงหลักการง่าย ๆ ในการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์
คือที่ดินต้องติดถนนใหญ่, เห็นชัด ๆ และพูดชื่อปุ๊บ รู้จักเลย

ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น BTS เพลินจิต, ทองหล่อซอย 10, ติดห้าง Central

ซึ่งที่ดินเหล่านี้ก็ต้องทำใจว่า มีราคาสูงแน่นอน
แต่จริง ๆ แล้วมันอาจจะไม่ได้แพงอย่างที่คิด ถ้าเลือกดี ๆ ซื้อมาแล้ว ราคาก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันมีโอกาสเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว

ในทางกลับกัน หากเราไปซื้อที่ดินราคาถูก ๆ แต่ไม่มีศักยภาพที่จะนำไปทำอะไรต่อได้เลย

เมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าที่ดินแบบนั้น อาจจะไม่เพิ่มขึ้นเลย

และจะกลายเป็นว่า เราซื้อที่ดินที่ “แพงเกินไป” มาอยู่ในมือ..

References
-https://mgronline.com/daily/detail/9490000011691
-https://www.longtunman.com/18446
-https://www.home.co.th/news/topic-46792
-https://positioningmag.com/13897
-https://www.theagent.co.th/th/news/detail/129