ทำไม McDonald’s ถึงไม่ขายเบอร์เกอร์ บางเมนู ก่อน 11 โมง
7 เม.ย. 2023
เคยสงสัยไหมว่าเวลาไปทานอาหารที่ร้าน McDonald’s ตอนเช้า ก่อนเวลา 11 โมง ทำไมเราถึงไม่สามารถสั่งเมนูอย่างชีสซี่เบอร์เกอร์, แมคสไปซี่ ชิกเกน เบอร์เกอร์, แมคไก่เบอร์เกอร์, ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ วิท ชีส, ข้าว และไก่ทอดได้ ทั้ง ๆ ที่ครัวก็เปิดตามปกติ
ซึ่งเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นในบางประเทศอย่างที่สหรัฐอเมริกาเช่นกัน
ที่สาขาส่วนใหญ่ก็จะไม่ขายเมนูเบอร์เกอร์ นอกจากเมนูอาหารเช้า ในช่วงเวลาก่อน 10.30 น. หรือ 11.00 น. ในวันเสาร์และวันอาทิตย์
ที่สาขาส่วนใหญ่ก็จะไม่ขายเมนูเบอร์เกอร์ นอกจากเมนูอาหารเช้า ในช่วงเวลาก่อน 10.30 น. หรือ 11.00 น. ในวันเสาร์และวันอาทิตย์
แล้วทำไม McDonald’s ถึงไม่ขายบางเมนูก่อน 11 โมง ?
BrandCase จะลองวิเคราะห์ให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase จะลองวิเคราะห์ให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ
1. ปริมาณความต้องการไม่เพียงพอ
เรื่องนี้ทาง ผู้บริหารของ McDonald’s ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า
ความต้องการอาหารอย่าง Big Mac หรือเบอร์เกอร์อื่น ๆ ในตอนเช้านั้น ยังไม่เพียงพอ
ความต้องการอาหารอย่าง Big Mac หรือเบอร์เกอร์อื่น ๆ ในตอนเช้านั้น ยังไม่เพียงพอ
ซึ่งถึงแม้ว่าทั้งเมนูอาหารเช้าและเมนูปกตินั้น จะใช้เครื่องมือคล้าย ๆ กัน แต่แน่นอนว่าเมนูในเวลาปกตินั้น มีเมนูที่หลากหลายกว่ามาก ทั้งตัวเบอร์เกอร์ ของทอด รวมถึงขนมหวานอื่น ๆ
ซึ่งถ้าให้มาเปิดใช้เครื่องมือทั้งหมด แล้วไม่ค่อยมีคนมาทานเมนูเหล่านี้เท่าไรในช่วงเช้า ก็คงจะไม่คุ้มค่าที่เปิดขาย
2. เมนูเบอร์เกอร์หลายตัว ไม่เหมาะที่จะทำไปพร้อม ๆ กับอาหารเช้า
การทำเมนูอาหารเช้านั้น ต้องอาศัยกรรมวิธีในการทำที่แตกต่างจากเมนูปกติ
อย่างเช่น ไข่ดาว ที่ต้องอาศัยอุณหภูมิที่ต่ำในการปรุง หากนำไปปรุงบนเตาที่กำลังทอดแผ่นเนื้อเบอร์เกอร์อยู่ ก็อาจจะทำให้ไข่ดาวนั้นไหม้ได้
อย่างเช่น ไข่ดาว ที่ต้องอาศัยอุณหภูมิที่ต่ำในการปรุง หากนำไปปรุงบนเตาที่กำลังทอดแผ่นเนื้อเบอร์เกอร์อยู่ ก็อาจจะทำให้ไข่ดาวนั้นไหม้ได้
หรือในทางกลับกัน ถ้าหากว่านำเนื้อไปทอดบนเตาที่กำลังทอดไข่ดาว ซึ่งมีอุณหภูมิต่ำ ก็จะทำให้แผ่นเนื้อไม่เกรียม
3. ลูกค้าต้องรออาหารนานขึ้น
ต่อเนื่องจากข้อที่แล้วคือ เนื่องจากไม่สามารถเพิ่มเครื่องมือได้ และการจะทำเมนูทั้งสองแบบพร้อม ๆ กันนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ดังนั้นหากจะขายเมนูอาหารเช้า และเมนูปกติพร้อมกันจริง ๆ ก็จะต้องใช้เวลาในการทำนานขึ้น
หรือพูดง่าย ๆ คือ ถ้าในช่วงเช้าต้องมาขายเมนูปกติด้วย ก็ต้องปรุงให้เสร็จไปทีละอย่าง
อย่างกรณีนี้ก็อาจจะต้องทอดไข่ดาวก่อน แล้วค่อยมาทอดเนื้อทีหลัง ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็จะทำให้เสียเวลาในการปรุงมากขึ้น ลูกค้าก็ต้องรออาหารนานขึ้นด้วย
ซึ่งก็หมายความว่า McDonald’s จะเสียทั้งเวลา และต้นทุนเพิ่มขึ้น มากกว่าช่วงเวลากลางวัน
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ใช่ว่าจะไม่มี McDonald’s สาขาไหนในโลกเลย ที่ไม่ขายเมนูปกติ พร้อมกับเมนูอาหารเช้า
อย่างเช่น ในประเทศออสเตรเลีย ทาง McDonald’s ก็ได้ทดลองขายทั้งสองเมนูแบบพร้อมกันมาแล้ว
หรือแม้แต่ในสหัฐอเมริกา ก็มี McDonald’s บางสาขาที่เปิดขายอาหารเช้าตลอดวันไปเลย
หรือแม้แต่ในสหัฐอเมริกา ก็มี McDonald’s บางสาขาที่เปิดขายอาหารเช้าตลอดวันไปเลย
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการในทำเลนั้น ๆ ด้วย
อย่างเช่น ถ้าเป็นย่านที่มีคนพลุกพล่าน มีความต้องการมากพอ และทางร้านสามารถบริหารเวลาในการปรุงอาหารได้ ก็อาจจะมีการยืดหยุ่นให้ขายทั้งสองเมนูพร้อมกันได้
อย่างเช่น ถ้าเป็นย่านที่มีคนพลุกพล่าน มีความต้องการมากพอ และทางร้านสามารถบริหารเวลาในการปรุงอาหารได้ ก็อาจจะมีการยืดหยุ่นให้ขายทั้งสองเมนูพร้อมกันได้
อีกอย่างคือ ถ้าย้อนกลับไปดูที่ประวัติศาสตร์ของแบรนด์นี้..
ถ้าเราไปต่อแถวซื้อแฮมเบอร์เกอร์หน้าร้าน McDonald’s สาขาแรก ที่ซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1948 อาหารจะเสิร์ฟให้เรา ภายใน 30 วินาที
ถ้าเราไปต่อแถวซื้อแฮมเบอร์เกอร์หน้าร้าน McDonald’s สาขาแรก ที่ซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1948 อาหารจะเสิร์ฟให้เรา ภายใน 30 วินาที
โดย McDonald’s พยายามกำหนดวิธีการเตรียม และปรุงอาหารให้เร็วที่สุด เช่น
- พนักงานต้องขยับตัวน้อยที่สุด
- ระหว่างที่พนักงานย่างเนื้อ ก็จะมีพนักงานที่เตรียมขนมปังรอ
- ใช้อุปกรณ์ควบคุมการหยอดซอส ให้มีปริมาณเท่ากัน
- พนักงานต้องขยับตัวน้อยที่สุด
- ระหว่างที่พนักงานย่างเนื้อ ก็จะมีพนักงานที่เตรียมขนมปังรอ
- ใช้อุปกรณ์ควบคุมการหยอดซอส ให้มีปริมาณเท่ากัน
นี่คือ DNA ของ McDonald’s ที่ทำทุกทางให้สามารถเสิร์ฟอาหารได้เร็วที่สุด
ซึ่งมันสะท้อนว่า McDonald’s โฟกัสกับคำว่า “ฟาสต์ฟูด” หรือจานด่วน แบบจริงจังมาก ๆ
ซึ่งมันสะท้อนว่า McDonald’s โฟกัสกับคำว่า “ฟาสต์ฟูด” หรือจานด่วน แบบจริงจังมาก ๆ
มันก็เลยน่าจะเป็นเหตุผลให้ McDonald’s ไม่ขายเบอร์เกอร์บางเมนู ก่อนเวลา 11 โมง
เพราะว่ามันจะเสียเวลามากขึ้น และเสียต้นทุนเพิ่มขึ้น มากกว่าการขายในช่วงเวลาหลังจากนั้น..