ทำไม Index Living Mall ต้องจับมือกับ เจ้าพ่อค้าปลีกสินค้าไอที COM7
22 มี.ค. 2022
ทำไม Index Living Mall ต้องจับมือกับ เจ้าพ่อค้าปลีกสินค้าไอที COM7 | BrandCase
สมัยนี้เราคงเห็นหลายธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่กลับมาจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกัน เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ
อย่างเช่นกรณีเมื่อไม่นานมานี้ ที่ Index Living Mall กับ COM7 หันหน้ามาจับมือทำธุรกิจร่วมกัน
โดย Index Living Mall เป็นผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมทั้งทำธุรกิจให้เช่าพื้นที่ทั้งภายในอาคาร และรูปแบบคอมมิวนิตีมอลล์
ส่วน COM7 ก็เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสมาร์ตโฟนและสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ
ที่เป็นเจ้าของร้านดัง เช่น Studio7, BaNANA IT
แล้วทั้ง 2 บริษัทมองเห็นโอกาสอะไร ถึงมาจับมือกัน ?
ลองมาทำความเข้าใจแบ็กกราวนด์ธุรกิจของ Index Living Mall กันคร่าว ๆ
Index Living Mall ในปี 2564 มีรายได้หลักของบริษัทมาจาก
- รายได้จากการค้าปลีกจากสาขาต่าง ๆ 70.8%
- รายได้จากการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 12.0%
- รายได้จากการขายผ่านงานโครงการ เช่น โครงการที่อยู่อาศัย โครงการสำนักงาน 7.3%
- รายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่า 5.3%
- รายได้อื่น เช่น รายได้จากการรับจ้างผลิต 4.6%
โดยเป็นรายได้ที่มาจากในประเทศประมาณ 96% และต่างประเทศอีก 4%
ต้องบอกว่า การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น และกระทบกับการเติบโตของยอดขายของ Index Living Mall พอสมควร
รายได้และกำไรของ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)
ปี 2562 รายได้ 9,896 ล้านบาท กำไร 596 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 8,193 ล้านบาท กำไร 421 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 8,411 ล้านบาท กำไร 453 ล้านบาท
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้ Index Living Mall ต้องการที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืนแก่บริษัท
นั่นก็คือ การพยายามผลักดันรายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่า ซึ่งจะเป็นรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ ค่อนข้างมั่นคงและแน่นอน
ปัจจุบัน พื้นที่เช่าของ Index Living Mall มีทั้งหมด 4 รูปแบบคือ
1. The Walk เป็นคอมมิวนิตีมอลล์ ขนาดย่อม มี 3 สาขา มีพื้นที่รวม 48,759 ตารางเมตร
2. Little Walk เป็นคอมมิวนิตีมอลล์ ขนาดเล็ก มี 2 สาขา มีพื้นที่รวม 8,807 ตารางเมตร
3. Index Mall เป็นพื้นที่ให้เช่าภายในอาคารของ Index Living Mall ในรูปแบบ Stand Alone มี 4 สาขา มีพื้นที่รวม 16,154 ตารางเมตร
4. Index Living Mall เป็นพื้นที่ให้เช่าภายในอาคารของ Index Living Mall แต่จะมีขนาดเล็กกว่า Index Mall มี 11 สาขา มีพื้นที่รวม 2,946 ตารางเมตร
ดังนั้น Index Living Mall จึงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ
และบริษัทดังกล่าวก็คือ “COM7” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกสมาร์ตโฟนและสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ
โดย COM7 จะเข้ามาเช่าพื้นที่ศูนย์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร “POWER ONE” ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของ Index Living Mall เพื่อมาเป็นผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งทางผู้บริหารของ Index Living Mall นั้นมองว่า
การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัท กับ COM7 จะเป็นการส่งเสริมธุรกิจของกันและกันทั้งสองฝ่าย หรือก็คือแบบ Win-Win
เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการที่สาขาของ Index Living Mall เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ในมุมมองของผู้บริหารของ COM7 ก็มองว่า
ที่ผ่านมาร้านที่เป็นสาขาของ COM7 มักอยู่ในศูนย์การค้า และมีพื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นร้าน BaNANA, Studio7, KingKong Phone, iCare, True Shop by COM7 รวมไปถึงร้านแฟรนไชส์อื่น ๆ
ขณะที่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะมุ่งเน้นขยายสาขานอกห้างมากขึ้น และการเช่าพื้นที่ของ POWER ONE สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า กลยุทธ์การร่วมมือกัน
เพื่อเอาจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาต่อยอดธุรกิจ ในครั้งนี้
จะประสบความสำเร็จ มากน้อยแค่ไหน..
References:
-เอกสารนำเสนอ, บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) http://ilm.listedcompany.com/misc/presentation/20220310-ilm-am4q2021.pdf
-แบบฟอร์ม 56-1 ปี 2563, บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)
-http://investor.indexlivingmall.com/th/newsroom/news-clippings/2359537/ilm
สมัยนี้เราคงเห็นหลายธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่กลับมาจับมือเป็นพันธมิตรร่วมกัน เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจ
อย่างเช่นกรณีเมื่อไม่นานมานี้ ที่ Index Living Mall กับ COM7 หันหน้ามาจับมือทำธุรกิจร่วมกัน
โดย Index Living Mall เป็นผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมทั้งทำธุรกิจให้เช่าพื้นที่ทั้งภายในอาคาร และรูปแบบคอมมิวนิตีมอลล์
ส่วน COM7 ก็เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสมาร์ตโฟนและสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ
ที่เป็นเจ้าของร้านดัง เช่น Studio7, BaNANA IT
แล้วทั้ง 2 บริษัทมองเห็นโอกาสอะไร ถึงมาจับมือกัน ?
ลองมาทำความเข้าใจแบ็กกราวนด์ธุรกิจของ Index Living Mall กันคร่าว ๆ
Index Living Mall ในปี 2564 มีรายได้หลักของบริษัทมาจาก
- รายได้จากการค้าปลีกจากสาขาต่าง ๆ 70.8%
- รายได้จากการขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 12.0%
- รายได้จากการขายผ่านงานโครงการ เช่น โครงการที่อยู่อาศัย โครงการสำนักงาน 7.3%
- รายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่า 5.3%
- รายได้อื่น เช่น รายได้จากการรับจ้างผลิต 4.6%
โดยเป็นรายได้ที่มาจากในประเทศประมาณ 96% และต่างประเทศอีก 4%
ต้องบอกว่า การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น และกระทบกับการเติบโตของยอดขายของ Index Living Mall พอสมควร
รายได้และกำไรของ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)
ปี 2562 รายได้ 9,896 ล้านบาท กำไร 596 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 8,193 ล้านบาท กำไร 421 ล้านบาท
ปี 2564 รายได้ 8,411 ล้านบาท กำไร 453 ล้านบาท
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้ Index Living Mall ต้องการที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตอย่างยั่งยืนแก่บริษัท
นั่นก็คือ การพยายามผลักดันรายได้จากการให้บริการพื้นที่เช่า ซึ่งจะเป็นรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ ค่อนข้างมั่นคงและแน่นอน
ปัจจุบัน พื้นที่เช่าของ Index Living Mall มีทั้งหมด 4 รูปแบบคือ
1. The Walk เป็นคอมมิวนิตีมอลล์ ขนาดย่อม มี 3 สาขา มีพื้นที่รวม 48,759 ตารางเมตร
2. Little Walk เป็นคอมมิวนิตีมอลล์ ขนาดเล็ก มี 2 สาขา มีพื้นที่รวม 8,807 ตารางเมตร
3. Index Mall เป็นพื้นที่ให้เช่าภายในอาคารของ Index Living Mall ในรูปแบบ Stand Alone มี 4 สาขา มีพื้นที่รวม 16,154 ตารางเมตร
4. Index Living Mall เป็นพื้นที่ให้เช่าภายในอาคารของ Index Living Mall แต่จะมีขนาดเล็กกว่า Index Mall มี 11 สาขา มีพื้นที่รวม 2,946 ตารางเมตร
ดังนั้น Index Living Mall จึงมองหาพันธมิตรทางธุรกิจ
และบริษัทดังกล่าวก็คือ “COM7” ผู้นำธุรกิจค้าปลีกสมาร์ตโฟนและสินค้าเทคโนโลยีรายใหญ่ของประเทศ
โดย COM7 จะเข้ามาเช่าพื้นที่ศูนย์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร “POWER ONE” ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือของ Index Living Mall เพื่อมาเป็นผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ในพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา
ซึ่งทางผู้บริหารของ Index Living Mall นั้นมองว่า
การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัท กับ COM7 จะเป็นการส่งเสริมธุรกิจของกันและกันทั้งสองฝ่าย หรือก็คือแบบ Win-Win
เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยดึงดูดให้ผู้บริโภคเข้ามาใช้บริการที่สาขาของ Index Living Mall เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ในมุมมองของผู้บริหารของ COM7 ก็มองว่า
ที่ผ่านมาร้านที่เป็นสาขาของ COM7 มักอยู่ในศูนย์การค้า และมีพื้นที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็นร้าน BaNANA, Studio7, KingKong Phone, iCare, True Shop by COM7 รวมไปถึงร้านแฟรนไชส์อื่น ๆ
ขณะที่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ภายใต้สถานการณ์โควิด 19 บริษัทจึงมีแนวคิดที่จะมุ่งเน้นขยายสาขานอกห้างมากขึ้น และการเช่าพื้นที่ของ POWER ONE สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า กลยุทธ์การร่วมมือกัน
เพื่อเอาจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาต่อยอดธุรกิจ ในครั้งนี้
จะประสบความสำเร็จ มากน้อยแค่ไหน..
References:
-เอกสารนำเสนอ, บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) http://ilm.listedcompany.com/misc/presentation/20220310-ilm-am4q2021.pdf
-แบบฟอร์ม 56-1 ปี 2563, บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน)
-http://investor.indexlivingmall.com/th/newsroom/news-clippings/2359537/ilm