Apple ทำอย่างไร ให้ตีตลาดจีน ได้สำเร็จ

Apple ทำอย่างไร ให้ตีตลาดจีน ได้สำเร็จ

15 ก.พ. 2022
Apple ทำอย่างไร ให้ตีตลาดจีน ได้สำเร็จ | THE BRIEFCASE
หากถามว่าคนจีนใช้สมาร์ตโฟนยี่ห้ออะไรเป็นส่วนใหญ่
คำตอบที่หลาย ๆ คนนึกถึงก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์สัญชาติจีนอย่าง Vivo, Oppo หรือแม้กระทั่ง Huawei
เพราะเป็นแบรนด์ของคนในชาติ ที่ครองส่วนแบ่งมาเป็นเวลานาน
และยิ่งสำหรับแบรนด์ต่างชาติตะวันตกก็ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดได้สำเร็จ
แต่รู้ไหมว่า ข้อมูลล่าสุดจาก Counterpoint Research ได้รายงานว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 2021
Apple สามารถครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนในจีนได้เป็นอันดับ 1 ซึ่งถือว่าสูงสุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ iPhone 6 ในปี 2015
นอกจากนี้ ภาพรวมทั้งปี Apple ยังสามารถครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่อันดับ 3 ที่ 16% เป็นรองเพียง Vivo และ Oppo ที่ 22% และ 21% ตามลำดับ ซึ่งถือว่าสูงที่สุด สำหรับแบรนด์ต่างชาติที่เข้ามาทำตลาดในประเทศจีน
แล้วอะไรที่ทำให้ Apple สามารถชนะใจคนจีนได้
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. บุกตลาดพรีเมียม
ด้วยสัดส่วนชนชั้นกลางของประเทศจีนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีคนที่มีกำลังซื้อสินค้าพรีเมียมรออยู่นับร้อยล้านคน
ซึ่งตัว Apple เองนั้นก็ถือเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนพรีเมียมอยู่แล้วในระดับสากล การวางตัวเองเป็นแบรนด์พรีเมียมในจีนจึงไม่ใช่เรื่องยาก
ซึ่งในสมัยก่อนนั้นแบรนด์ที่มีความพรีเมียมยังไม่ได้มีจำนวนมากเหมือนในปัจจุบัน
ทำให้มีความต้องการในสินค้าประเภทนี้อยู่จำนวนมาก
โดยในช่วงทำตลาดใหม่ ๆ ชาวจีนหลายคนถึงกับยอมจ่ายในราคาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อที่จะได้ครอบครอง iPhone รุ่นใหม่ก่อนใคร
แต่ทั้งนี้ Apple เองก็เคยลองทำตลาดกับ iPhone รุ่นที่มีราคาถูกลงมาอย่าง iPhone 5C แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก ทั้งในจีนและทั่วโลก
2. พัฒนาสินค้าและบริการเอาใจคนจีน
Apple พยายามอย่างมากที่จะพัฒนาสินค้าเพื่อเอาใจคนในประเทศจีน
เนื่องจากคนจีนส่วนมากนั้น ต้องใช้สมาร์ตโฟนทำกิจกรรมแทบทุกอย่างในชีวิตแต่ละวัน
และอ้างอิงจากผลสำรวจในปี 2013 สัดส่วนสมาร์ตโฟนในประเทศจีน มีส่วนแบ่งเป็นของสมาร์ตโฟนจอขนาด 5-7 นิ้ว ถึง 20%
ส่งผลให้การเปิดตัว iPhone 6 Plus ในปี 2014 เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน
นอกจากนี้ คนจีนยังชอบที่จะเดินในช็อปใหญ่ ๆ และได้สัมผัสของจริง
ดังนั้น Apple จึงได้ประกาศเร่งขยายสาขาในประเทศจีน โดยเน้นช็อปที่มีพื้นที่กว้าง ๆ โดยในปัจจุบันมีสาขาทั้งหมดกว่า 43 แห่ง มากเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา
3. ไม่ออกรุ่นยิบย่อย และถี่จนเกินไป
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การที่เรามีผลิตภัณฑ์ออกมานำเสนอมากเกินไป ก็ยิ่งทำให้ผู้ซื้อนั้นตัดสินใจซื้อสินค้าของเรายากขึ้น สู้ออกสินค้าน้อย ๆ ไม่ต้องเลือกมาก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายกว่า แถมยังทำให้ลูกค้ามีโอกาสที่จะยอมจ่ายในราคาสูงขึ้นด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ Apple สามารถครองใจชาวจีนได้
ซึ่งนอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่ทำให้ในปีที่ผ่านมา Apple สามารถตีตลาดขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาด อันดับ 1 ในไตรมาสที่ผ่านมาได้อีก นั่นก็คือ
- ช่วงราคาเริ่มต้นที่ต่ำลง
ถึงแม้ว่าจะวางตัวเป็นแบรนด์พรีเมียม แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่มีแบรนด์จีนหลายราย สามารถพัฒนานวัตกรรม จนสามารถพัฒนาได้ใกล้เคียงในราคาที่ถูกกว่า
จึงทำให้ Apple ตัดสินใจที่จะยอมลดราคาลง
โดยในการเปิดตัว iPhone 13 ที่ผ่านมานั้น
iPhone 13 ในจีน มีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า iPhone 12 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีก่อนหน้า
โดย iPhone 13 ที่ความจุ 128 GB นั้น มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5,999 หยวน หรือประมาณ 30,800 บาท ถูกกว่า iPhone 12 ที่เปิดตัวปีก่อนหน้า ในความจุเท่ากัน ถึง 4,100 บาท
พอราคาถูกลง ก็ทำให้หลายคนที่กำลังรอเปลี่ยนโทรศัพท์รุ่นใหม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ซึ่งหลังจากวันที่เปิดตัว ก็ดูเหมือนว่า Apple จะมาถูกทาง เพราะแฮชแทก ที่เกี่ยวกับราคา iPhone 13 นั้นขึ้นเทรนด์ใน Weibo แพลตฟอร์มที่คล้ายทวิตเตอร์ในประเทศจีน อย่างรวดเร็ว
โดยในช่วงวันพุธเช้าที่มีการเปิดตัว แฮชแทกนี้มีการเข้าชมถึง 12,000 ล้านครั้ง และคอมเมนต์มากถึง 283,000 คอมเมนต์
และ ณ วันที่เปิดขายก็มีคนต่อคิวแย่งซื้อกันมากมาย จนคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ ก็ได้กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
- ผลกระทบจาก Huawei ที่เคยเป็นเจ้าตลาดพรีเมียมสมาร์ตโฟน
จากในช่วงปีที่ผ่านมา ที่ทาง Huawei ได้รับผลกระทบ จากการที่สหรัฐอเมริกาออกมาตรการไม่ให้บริษัทอเมริกัน รวมถึงขอความร่วมมือบริษัทจากประเทศพันธมิตร ควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้กับ Huawei
ซึ่งรวมถึงชิปที่ใช้ในการผลิตสมาร์ตโฟนด้วย จึงทำให้การผลิตของ Huawei ชะงักลง และเมื่อผลิตได้น้อยลง ก็ทำให้จำหน่ายได้น้อยลง ส่วนแบ่งตลาดก็ลดน้อยลงไปด้วย
โดยในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดของ Huawei ในจีนนั้น ลงมาอยู่ที่อันดับ 6 และยอดขายทั้งปีก็ลดลงมากถึง 73%
อีกสถิติที่น่าสนใจในปี 2021 ที่ผ่านมาคือ
ถึงแม้ว่า ภาพรวมตลาดสมาร์ตโฟนในประเทศจีนนั้น จะปรับตัวลดลงราว 9% แต่ Apple ก็ยังสามารถเติบโตได้กว่า 32% เมื่อเทียบกับปีก่อน เลยทีเดียว..
References
-https://www.globaltimes.cn/page/202109/1234383.shtml?id=11
-https://www.cnbc.com/2015/01/29/apples-blowout-success-in-china-what-it-did-right-and-what-us-companies-can-learn-from-it.html
-https://www.cnbc.com/2014/09/09/big-screens--the-key-to-selling-more-iphones-in-china.html
-https://www.reuters.com/technology/apple-grabs-record-china-market-share-q4-sales-surge-research-2022-01-26/
-https://www.counterpointresearch.com/apple-reaches-highest-ever-market-share-china/
-https://www.marketthink.co/22587
-https://en.wikipedia.org/wiki/Apple_Store
-https://www.apple.com/newsroom/2014/09/30iPhone-6-iPhone-6-Plus-Available-in-China-on-Friday-October-17/
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.