เรซูเมแบบไหน ที่ Google กำลังมองหา ?
10 ม.ค. 2022
เรซูเมแบบไหน ที่ Google กำลังมองหา ? | THE BRIEFCASE
สำหรับคนที่กำลังจะหางาน โดยเฉพาะเด็กที่จบใหม่ คงตั้งคำถามว่า
เราจะทำอย่างไร ให้เรซูเมของเรามีความดึงดูดและน่าสนใจ
หลายคนอาจจะเลือกทำแบบปกติทั่ว ๆ ไป คือ ใส่ชื่อ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน
แต่สำหรับบริษัทอย่าง Google พวกเขาอาจไม่ได้มองหาสิ่งเหล่านั้น
แล้ว Google กำลังมองหาเรซูเมแบบไหน ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะมาสรุป รูปแบบของเรซูเมที่ Google มองหา จากคุณ Brendan Castle หัวหน้าฝ่ายจ้างงานของ Google กัน
สำหรับคุณ Brendan และ Google สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องการ ไม่ใช่แค่ประวัติการทำงานทั่วไป
แต่มันคือการเขียนบรรยาย ว่าเราได้ทำอะไรสำเร็จมาแล้วบ้าง หรือความสำเร็จอะไรที่เรารู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุด
แน่นอนว่า การจะสรุปทุกอย่างในชีวิต ให้มาอยู่ในกระดาษแผ่นเดียวคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามารถทำได้
โดยคุณ Brendan ก็ได้แนะนำวิธีการใส่ข้อมูลในเรซูเมเบื้องต้นไว้ดังนี้
สำหรับเด็กจบใหม่
สิ่งที่ควรใส่ลงไป ก็เช่น ประวัติหรือผลงานที่ไม่ธรรมดา มีความเป็นเอกลักษณ์ ว่าเราไม่เหมือนใคร
- ผลงานรายงานที่น่าสนใจสมัยเรียน
- ประวัติการติวหนังสือ หรือสอนหนังสือให้คนอื่น
- โครงงานกลุ่มที่มีรายละเอียดน่าสนใจ
สำหรับคนที่มีประสบการณ์มากขึ้น
สิ่งที่ควรใส่
- ตัวอย่างผลงานจากที่ทำงานเก่า ที่สามารถวัดได้ด้วยตัวเลข เช่น เราเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย ให้บริษัทได้ 10% ในปีที่ผ่านมา
- ตัวอย่างผลงาน การเป็นผู้นำ หรือบทบาทที่ได้รับในสมัยเรียน, ฝึกงาน หรือที่ทำงานก่อน ๆ
โดยสิ่งที่สำคัญที่ Google กำลังมองหาในพนักงานนั้น ไม่ใช่แค่เพียงประวัติการทำงานที่สวยหรูเท่านั้น แต่ผู้สมัครต้องสามารถทำให้เห็นด้วยว่า พวกเขามี Growth mindset หรือทัศนคติที่พร้อมเติบโต อยากเรียนรู้ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้เสมอ
โดยอีกหนึ่งตัวอย่างที่ Brendan ยกขึ้นมาคือ เขาต้องการเห็นว่า ผู้สมัครมีความสามารถ ในการดึงไอเดียหรือสร้างความร่วมมือกับผู้อื่นอย่างไร ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเจอกับเรื่องที่แก้ไขได้ยาก
นอกจากนี้ เขายังได้เสริมอีกว่า เทคนิคเล็ก ๆ คือการที่ผู้สมัครคอยติดตามสอบถาม หรืออาจทิ้งโน้ตเล็ก ๆ ไว้หลังจากส่งเรซูเมให้บริษัท ก็ถือว่าช่วยเสริมความตั้งใจ ให้ฝ่ายบุคคลเห็นว่า เราอยากทำงานที่นั่นจริง ๆ
ซึ่งข้อดีอีกเรื่องของการทำแบบนี้ก็คือ
มันจะช่วยให้เหล่าผู้รับสมัครงานเห็นว่า อย่างน้อยถ้าเราไม่เหมาะกับตำแหน่งที่พวกเขารับสมัครอยู่ เขาก็จะนึกถึงเราเป็นคนแรก ๆ และเมื่อมีตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมเข้ามา ก็อาจติดต่อกลับมาได้
และสุดท้าย สิ่งที่เขาเน้นย้ำมากที่สุดคือ
อย่าสะกดชื่อบริษัท หรือคำเฉพาะต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัทที่เราสมัครงานผิดเด็ดขาด
เพราะเชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่ HR ของ Google หรือหลายบริษัทเจอบ่อยครั้ง
คือหลายคนส่งใบสมัครไปหลาย ๆ ที่
จนลืม “เปลี่ยนชื่อบริษัท” นั่นเอง..
References
-https://www.cnbc.com/2021/12/13/googles-head-of-recruiting-the-one-rule-to-writing-a-strong-resume-.html
-https://www.palagrit.com/what-is-growth-mindset/
สำหรับคนที่กำลังจะหางาน โดยเฉพาะเด็กที่จบใหม่ คงตั้งคำถามว่า
เราจะทำอย่างไร ให้เรซูเมของเรามีความดึงดูดและน่าสนใจ
หลายคนอาจจะเลือกทำแบบปกติทั่ว ๆ ไป คือ ใส่ชื่อ ประวัติการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน
แต่สำหรับบริษัทอย่าง Google พวกเขาอาจไม่ได้มองหาสิ่งเหล่านั้น
แล้ว Google กำลังมองหาเรซูเมแบบไหน ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะมาสรุป รูปแบบของเรซูเมที่ Google มองหา จากคุณ Brendan Castle หัวหน้าฝ่ายจ้างงานของ Google กัน
สำหรับคุณ Brendan และ Google สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องการ ไม่ใช่แค่ประวัติการทำงานทั่วไป
แต่มันคือการเขียนบรรยาย ว่าเราได้ทำอะไรสำเร็จมาแล้วบ้าง หรือความสำเร็จอะไรที่เรารู้สึกภาคภูมิใจมากที่สุด
แน่นอนว่า การจะสรุปทุกอย่างในชีวิต ให้มาอยู่ในกระดาษแผ่นเดียวคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็สามารถทำได้
โดยคุณ Brendan ก็ได้แนะนำวิธีการใส่ข้อมูลในเรซูเมเบื้องต้นไว้ดังนี้
สำหรับเด็กจบใหม่
สิ่งที่ควรใส่ลงไป ก็เช่น ประวัติหรือผลงานที่ไม่ธรรมดา มีความเป็นเอกลักษณ์ ว่าเราไม่เหมือนใคร
- ผลงานรายงานที่น่าสนใจสมัยเรียน
- ประวัติการติวหนังสือ หรือสอนหนังสือให้คนอื่น
- โครงงานกลุ่มที่มีรายละเอียดน่าสนใจ
สำหรับคนที่มีประสบการณ์มากขึ้น
สิ่งที่ควรใส่
- ตัวอย่างผลงานจากที่ทำงานเก่า ที่สามารถวัดได้ด้วยตัวเลข เช่น เราเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่สามารถช่วยเพิ่มยอดขาย ให้บริษัทได้ 10% ในปีที่ผ่านมา
- ตัวอย่างผลงาน การเป็นผู้นำ หรือบทบาทที่ได้รับในสมัยเรียน, ฝึกงาน หรือที่ทำงานก่อน ๆ
โดยสิ่งที่สำคัญที่ Google กำลังมองหาในพนักงานนั้น ไม่ใช่แค่เพียงประวัติการทำงานที่สวยหรูเท่านั้น แต่ผู้สมัครต้องสามารถทำให้เห็นด้วยว่า พวกเขามี Growth mindset หรือทัศนคติที่พร้อมเติบโต อยากเรียนรู้ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้เสมอ
โดยอีกหนึ่งตัวอย่างที่ Brendan ยกขึ้นมาคือ เขาต้องการเห็นว่า ผู้สมัครมีความสามารถ ในการดึงไอเดียหรือสร้างความร่วมมือกับผู้อื่นอย่างไร ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเจอกับเรื่องที่แก้ไขได้ยาก
นอกจากนี้ เขายังได้เสริมอีกว่า เทคนิคเล็ก ๆ คือการที่ผู้สมัครคอยติดตามสอบถาม หรืออาจทิ้งโน้ตเล็ก ๆ ไว้หลังจากส่งเรซูเมให้บริษัท ก็ถือว่าช่วยเสริมความตั้งใจ ให้ฝ่ายบุคคลเห็นว่า เราอยากทำงานที่นั่นจริง ๆ
ซึ่งข้อดีอีกเรื่องของการทำแบบนี้ก็คือ
มันจะช่วยให้เหล่าผู้รับสมัครงานเห็นว่า อย่างน้อยถ้าเราไม่เหมาะกับตำแหน่งที่พวกเขารับสมัครอยู่ เขาก็จะนึกถึงเราเป็นคนแรก ๆ และเมื่อมีตำแหน่งใหม่ที่เหมาะสมเข้ามา ก็อาจติดต่อกลับมาได้
และสุดท้าย สิ่งที่เขาเน้นย้ำมากที่สุดคือ
อย่าสะกดชื่อบริษัท หรือคำเฉพาะต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัทที่เราสมัครงานผิดเด็ดขาด
เพราะเชื่อหรือไม่ว่า สิ่งที่ HR ของ Google หรือหลายบริษัทเจอบ่อยครั้ง
คือหลายคนส่งใบสมัครไปหลาย ๆ ที่
จนลืม “เปลี่ยนชื่อบริษัท” นั่นเอง..
References
-https://www.cnbc.com/2021/12/13/googles-head-of-recruiting-the-one-rule-to-writing-a-strong-resume-.html
-https://www.palagrit.com/what-is-growth-mindset/