Tim Cook บริหารอย่างไร ? ให้พา Apple มูลค่าแตะ 100 ล้านล้าน บริษัทแรกในโลก
4 ม.ค. 2022
Tim Cook บริหารอย่างไร ? ให้พา Apple มูลค่าแตะ 100 ล้านล้าน บริษัทแรกในโลก | THE BRIEFCASE
เมื่อคืน บริษัท Apple เจ้าของสินค้าและบริการเทคโนโลยีแห่งยุคอย่าง iPhone, iPad, Apple Watch, App Store เพิ่งทำสถิติใหม่ เป็น “3 Trillion Dollars Company” หรือบริษัทที่มูลค่าแตะ 100 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทแรกในโลก ก่อนจะร่วงลงมาเล็กน้อยตอนปิดตลาด
แน่นอนว่าคนสำคัญที่ปลุกปั้นบริษัทแห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมา คงต้องให้เครดิต “สตีฟ จอบส์”
เพราะจอบส์ คือคนที่หลายคนยกให้เป็นศาสดาแห่งการคิดค้นนวัตกรรม คนที่ทำให้ iPhone เป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟน ทำให้ iPod เป็นมาตรฐานใหม่ของเครื่องเล่นเพลงพกพาในทศวรรษ 2010s
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่มีจอบส์ Apple คงไม่ได้แจ้งเกิดเป็นผู้นำแห่งวงการ
จนพอ จอบส์ จากโลกนี้ไปในปี 2011 สาวก Apple หลายคนถึงกับบอกว่า..
“Apple ได้ตายจากไปพร้อมกับ สตีฟ จอบส์ แล้ว”
การจากไปของ จอบส์ ทำให้ความกดดันและความคาดหวังทั้งหมด ถูกส่งต่อมาถึง “ทิม คุก” CEO คนใหม่ ที่เข้ามารับไม้ต่อในการบริหารบริษัท Apple
แม้ ทิม คุก จะเป็นคนมากประสบการณ์ ที่อยู่กับ Apple มาหลายปี จนสามารถไต่เต้าขึ้นมานั่งตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการของ Apple และเป็นคนที่ถูกเลือกโดย สตีฟ จอบส์ ให้มาสานต่อหน้าที่บริหารบริษัทต่อจากเขา
แต่ด้วยความสำเร็จในการสร้างองค์กรให้ล้ำหน้า และความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยากจะหาใครเทียบเคียงของ สตีฟ จอบส์ ทำให้น้อยคนนักที่จะมั่นใจในตัวผู้นำองค์กรคนใหม่อย่าง ทิม คุก
ถึงขนาดที่ใครหลายคนพูดกันว่า ความรุ่งโรจน์ของ Apple คงจะร่วงโรยลงในไม่ช้า..
แต่มาวันนี้ เราได้เห็นแล้วว่า Apple ภายใต้การนำของ ทิม คุก ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และผงาดขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ณ เวลานี้ และทำมูลค่าขึ้นไปแตะ 100 ล้านล้านบาท เมื่อคืนที่ผ่านมา
ซึ่งหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการพาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าของ ทิม คุก คือเรื่อง “คน”
หลักการบริหารคน หรือพนักงานของ ทิม คุก ถูกบอกเล่าเอาไว้ ในหนังสือ Tim Cook : The Genius Who Took Apple to the Next Level
ซึ่งสรุปได้เป็น 2 ประเด็นหลักคือ
1. หมั่นสื่อสารกับคนในองค์กร เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำงาน
ทิม คุก มักสื่อสารกับคนในองค์กรในเรื่องสำคัญบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างคือ ในวันแรก ๆ ที่เขาเข้ามาทำหน้าที่ CEO คนใหม่ของ Apple เขาส่งอีเมลถึงพนักงานทั่วทั้งบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจให้พนักงาน
โดยมีใจความคือ “ผมอยากให้คุณมั่นใจว่า แอปเปิลจะไม่เปลี่ยนแปลงไป และเราจะร่วมมือกันทำให้แอปเปิลเป็นสถานที่มหัศจรรย์ดังที่เป็นอยู่ต่อไป”
การทำแบบนี้ จะทำให้พนักงานทุกคนในองค์กรรู้ว่า บริษัทกำลังทำอะไร มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และแนวทางการทำงานเพื่อไปยังเป้าหมายเป็นอย่างไร
2. สร้างวัฒนธรรม การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้า และพนักงาน
ทิม คุก สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กันของคนในองค์กร อย่างเช่น กำหนดให้มี “การประชุมผู้บริหารพบพนักงาน” ทำให้ผู้บริหารระดับสูงได้ฟังเสียงพนักงานมากขึ้น และพนักงานมีพื้นที่ให้ได้พูดและแสดงความเห็น
ซึ่งกิจกรรมในลักษณะนี้ เป็นเรื่องที่ขาดไปในยุคที่ สตีฟ จอบส์ บริหารองค์กร เพราะจอบส์ใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่กับการสร้างนวัตกรรมและทำสิ่งใหม่ ๆ
นอกจากนั้น เขายังมักหาเวลาพูดคุยกับพนักงานในแผนกต่าง ๆ รวมถึงพนักงานขายตามสาขา และให้ความสำคัญต่อการพูดคุยและตอบคำถามกับพนักงานที่ต้องการสอบถามหรือพูดคุยกับเขาโดยตรง
ตลอดเวลาเกือบ 10 ปี ทิม คุก ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Apple ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถก้าวข้ามความกดดัน ความคาดหวัง และความท้าทาย จนนำพาให้องค์กรทะยานสู่จุดสูงสุดได้สำเร็จ
ในปีบัญชี 2021 (ก.ย. 63 - ต.ค. 64) Apple มีรายได้ 2,770,000 ล้านบาท กำไร 680,000 ล้านบาท
และในช่วงที่ ทิม คุก เข้ามาบริหาร Apple ก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Apple Watch, AirPods ที่ยอดขายเติบโตเรื่อย ๆ ทุกปี
และหนึ่งเรื่องที่เขาให้ความสำคัญอย่างมากในการนำพาองค์กรไปข้างหน้า
คือ การบริหาร “คน” และ “ความสัมพันธ์” ภายในองค์กร
แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องดูกันต่อไปว่า Apple ในยุคนี้ จะเติบโตไปได้อีกแค่ไหน
เพราะการขึ้นมาเป็นที่สุดของโลกอาจว่ายากแล้ว
แต่คงไม่ยากเท่า การรักษาความสุดยอดแบบนี้ ไปนาน ๆ
References
-หนังสือ Tim Cook : The Genius Who Took Apple to the Next Level
-https://finance.yahoo.com/quote/AAPL/
เมื่อคืน บริษัท Apple เจ้าของสินค้าและบริการเทคโนโลยีแห่งยุคอย่าง iPhone, iPad, Apple Watch, App Store เพิ่งทำสถิติใหม่ เป็น “3 Trillion Dollars Company” หรือบริษัทที่มูลค่าแตะ 100 ล้านล้านบาท เป็นบริษัทแรกในโลก ก่อนจะร่วงลงมาเล็กน้อยตอนปิดตลาด
แน่นอนว่าคนสำคัญที่ปลุกปั้นบริษัทแห่งนี้ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นมา คงต้องให้เครดิต “สตีฟ จอบส์”
เพราะจอบส์ คือคนที่หลายคนยกให้เป็นศาสดาแห่งการคิดค้นนวัตกรรม คนที่ทำให้ iPhone เป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟน ทำให้ iPod เป็นมาตรฐานใหม่ของเครื่องเล่นเพลงพกพาในทศวรรษ 2010s
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่มีจอบส์ Apple คงไม่ได้แจ้งเกิดเป็นผู้นำแห่งวงการ
จนพอ จอบส์ จากโลกนี้ไปในปี 2011 สาวก Apple หลายคนถึงกับบอกว่า..
“Apple ได้ตายจากไปพร้อมกับ สตีฟ จอบส์ แล้ว”
การจากไปของ จอบส์ ทำให้ความกดดันและความคาดหวังทั้งหมด ถูกส่งต่อมาถึง “ทิม คุก” CEO คนใหม่ ที่เข้ามารับไม้ต่อในการบริหารบริษัท Apple
แม้ ทิม คุก จะเป็นคนมากประสบการณ์ ที่อยู่กับ Apple มาหลายปี จนสามารถไต่เต้าขึ้นมานั่งตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการของ Apple และเป็นคนที่ถูกเลือกโดย สตีฟ จอบส์ ให้มาสานต่อหน้าที่บริหารบริษัทต่อจากเขา
แต่ด้วยความสำเร็จในการสร้างองค์กรให้ล้ำหน้า และความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ยากจะหาใครเทียบเคียงของ สตีฟ จอบส์ ทำให้น้อยคนนักที่จะมั่นใจในตัวผู้นำองค์กรคนใหม่อย่าง ทิม คุก
ถึงขนาดที่ใครหลายคนพูดกันว่า ความรุ่งโรจน์ของ Apple คงจะร่วงโรยลงในไม่ช้า..
แต่มาวันนี้ เราได้เห็นแล้วว่า Apple ภายใต้การนำของ ทิม คุก ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และผงาดขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ณ เวลานี้ และทำมูลค่าขึ้นไปแตะ 100 ล้านล้านบาท เมื่อคืนที่ผ่านมา
ซึ่งหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งในการพาองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าของ ทิม คุก คือเรื่อง “คน”
หลักการบริหารคน หรือพนักงานของ ทิม คุก ถูกบอกเล่าเอาไว้ ในหนังสือ Tim Cook : The Genius Who Took Apple to the Next Level
ซึ่งสรุปได้เป็น 2 ประเด็นหลักคือ
1. หมั่นสื่อสารกับคนในองค์กร เพื่อสร้างความมั่นใจในการทำงาน
ทิม คุก มักสื่อสารกับคนในองค์กรในเรื่องสำคัญบ่อยครั้ง ยกตัวอย่างคือ ในวันแรก ๆ ที่เขาเข้ามาทำหน้าที่ CEO คนใหม่ของ Apple เขาส่งอีเมลถึงพนักงานทั่วทั้งบริษัท เพื่อสร้างความมั่นใจให้พนักงาน
โดยมีใจความคือ “ผมอยากให้คุณมั่นใจว่า แอปเปิลจะไม่เปลี่ยนแปลงไป และเราจะร่วมมือกันทำให้แอปเปิลเป็นสถานที่มหัศจรรย์ดังที่เป็นอยู่ต่อไป”
การทำแบบนี้ จะทำให้พนักงานทุกคนในองค์กรรู้ว่า บริษัทกำลังทำอะไร มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร และแนวทางการทำงานเพื่อไปยังเป้าหมายเป็นอย่างไร
2. สร้างวัฒนธรรม การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้า และพนักงาน
ทิม คุก สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กันของคนในองค์กร อย่างเช่น กำหนดให้มี “การประชุมผู้บริหารพบพนักงาน” ทำให้ผู้บริหารระดับสูงได้ฟังเสียงพนักงานมากขึ้น และพนักงานมีพื้นที่ให้ได้พูดและแสดงความเห็น
ซึ่งกิจกรรมในลักษณะนี้ เป็นเรื่องที่ขาดไปในยุคที่ สตีฟ จอบส์ บริหารองค์กร เพราะจอบส์ใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่กับการสร้างนวัตกรรมและทำสิ่งใหม่ ๆ
นอกจากนั้น เขายังมักหาเวลาพูดคุยกับพนักงานในแผนกต่าง ๆ รวมถึงพนักงานขายตามสาขา และให้ความสำคัญต่อการพูดคุยและตอบคำถามกับพนักงานที่ต้องการสอบถามหรือพูดคุยกับเขาโดยตรง
ตลอดเวลาเกือบ 10 ปี ทิม คุก ในฐานะหัวเรือใหญ่ของ Apple ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถก้าวข้ามความกดดัน ความคาดหวัง และความท้าทาย จนนำพาให้องค์กรทะยานสู่จุดสูงสุดได้สำเร็จ
ในปีบัญชี 2021 (ก.ย. 63 - ต.ค. 64) Apple มีรายได้ 2,770,000 ล้านบาท กำไร 680,000 ล้านบาท
และในช่วงที่ ทิม คุก เข้ามาบริหาร Apple ก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Apple Watch, AirPods ที่ยอดขายเติบโตเรื่อย ๆ ทุกปี
และหนึ่งเรื่องที่เขาให้ความสำคัญอย่างมากในการนำพาองค์กรไปข้างหน้า
คือ การบริหาร “คน” และ “ความสัมพันธ์” ภายในองค์กร
แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องดูกันต่อไปว่า Apple ในยุคนี้ จะเติบโตไปได้อีกแค่ไหน
เพราะการขึ้นมาเป็นที่สุดของโลกอาจว่ายากแล้ว
แต่คงไม่ยากเท่า การรักษาความสุดยอดแบบนี้ ไปนาน ๆ
References
-หนังสือ Tim Cook : The Genius Who Took Apple to the Next Level
-https://finance.yahoo.com/quote/AAPL/