เรียนรู้กลยุทธ์ พาเครื่องปรุงไทย ดังไกลในต่างแดน ของ Exotic Food
1 ม.ค. 2022
เรียนรู้กลยุทธ์ พาเครื่องปรุงไทย ดังไกลในต่างแดน ของ Exotic Food | THE BRIEFCASE
ถ้าพูดถึง ซอส หรือเครื่องปรุงสัญชาติไทย หลายคนอาจจะนึกถึงทิพรส หรือภูเขาทอง
แต่อาจจะไม่ค่อยคุ้นกับแบรนด์ Exotic เท่าไรนัก
เพราะแบรนด์นี้มียอดขายมาจากต่างประเทศมากกว่า 90%
และมีรายได้สูงถึง 1,275 ล้านบาท
แล้ว Exotic Food มีกลยุทธ์อะไร ที่ทำให้เครื่องปรุงไทย ๆ บินลัดฟ้าไปดังไกลถึงต่างแดน
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. มองเห็นความขาดแคลน เครื่องปรุงไทยในต่างประเทศ
ปัญหาของคนไทยในต่างแดน คือ อยากทำอาหารไทย แต่ไม่มีวัตถุดิบ หรือเครื่องปรุง
และอาหารไทยก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความเยอะของส่วนประกอบ อย่างเครื่องปรุงรส พริกแกงต่าง ๆ ที่หาได้ยากเย็น
จึงเกิดเป็นความคิดที่ว่า อยากผลิตเครื่องปรุงอาหาร เพื่อตอบสนองคนไทยในต่างแดน
โดยในช่วงแรก Exotic เริ่มต้นจากการจ้างโรงงานอื่นผลิตให้
แต่เมื่อมียอดขายมากขึ้น สุดท้ายจึงตัดสินใจสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง
ประกอบกับ อาหารไทยกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลกเรื่อย ๆ
ความต้องการเครื่องปรุงรสไทย ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
2. เน้นกลยุทธ์ “One-Stop-Brand” ครบจบในบริษัทเดียว
ถ้าเราลองมาดูสินค้าภายใต้ Exotic Food ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
- ซอสปรุงรส และน้ำจิ้มต่าง ๆ เช่น ซอสพริก น้ำจิ้มบ๊วย
โดยกลุ่มซอสและน้ำจิ้มเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท มีสัดส่วนรายได้กว่า 80%
- เครื่องแกง และเครื่องประกอบอาหาร เช่น เครื่องแกงแดง หรือแกงต้มยำ
- อาหารกระป๋องสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน เช่น แกงมัสมั่นสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
- อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น ผักผลไม้กระป๋อง ของแห้งของดองต่าง ๆ
เรียกได้ว่า ถ้าอยากทำแกงเขียวหวานตอนอยู่เมืองนอกสักหม้อ ก็แค่ซื้อของจาก Exotic ที่มีให้เลือกใช้ตั้งแต่พริกแกง กะทิ ไปจนถึงเครื่องปรุงอื่น ๆ ครบจบภายในที่เดียว
หรือถ้าใครขี้เกียจลงมือเข้าครัวเอง ก็มีอาหารไทยกึ่งสำเร็จรูป ที่พร้อมทานได้เลย
3. Digital Marketing กระตุ้นการรับรู้ ด้วยสื่อออนไลน์
ทำการตลาดประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
โดยถ้าเราไปดู ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ YouTube จะเห็นว่าทางบริษัทมีการออกมาประชาสัมพันธ์ ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งหนึ่งในรูปแบบของประชาสัมพันธ์สินค้าก็คือ รายการทำอาหาร
โดยทางแบรนด์ได้มีการทำคลิปใช้ผลิตภัณฑ์ของ Exotic ในการทำเมนูต่าง ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่อาหารไทยเท่านั้น แต่แสดงให้เห็นว่า อาหารชาติอื่น ๆ ก็สามารถใช้เครื่องปรุงไทยได้
เช่น การทำพายโดยใช้ซอสศรีราชา
ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถทำให้กลุ่มลูกค้าของทางบริษัทไม่ได้มีแค่คนที่ชื่นชอบอาหารไทย หรือคนไทยในต่างแดนเท่านั้น แต่ยังเป็นคนจากชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ที่สามารถนำเครื่องปรุงไทยไปประยุกต์ในเมนูต่าง ๆ ได้อีกด้วย
กลยุทธ์ทั้งหมดนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะที่ต่างประเทศก็มีแบรนด์เครื่องปรุงให้เลือกมากมาย
แต่ Exotic ก็สามารถทำให้เครื่องปรุงไทย ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับได้ ไม่ใช่แค่กับคนไทยในต่างแดน แต่ยังรวมไปถึงคนต่างชาติอีกด้วย..
References
-รายงานประจำปี 2563 บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน)
-https://www.exoticfoodthailand.com/
ถ้าพูดถึง ซอส หรือเครื่องปรุงสัญชาติไทย หลายคนอาจจะนึกถึงทิพรส หรือภูเขาทอง
แต่อาจจะไม่ค่อยคุ้นกับแบรนด์ Exotic เท่าไรนัก
เพราะแบรนด์นี้มียอดขายมาจากต่างประเทศมากกว่า 90%
และมีรายได้สูงถึง 1,275 ล้านบาท
แล้ว Exotic Food มีกลยุทธ์อะไร ที่ทำให้เครื่องปรุงไทย ๆ บินลัดฟ้าไปดังไกลถึงต่างแดน
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. มองเห็นความขาดแคลน เครื่องปรุงไทยในต่างประเทศ
ปัญหาของคนไทยในต่างแดน คือ อยากทำอาหารไทย แต่ไม่มีวัตถุดิบ หรือเครื่องปรุง
และอาหารไทยก็ขึ้นชื่อในเรื่องของความเยอะของส่วนประกอบ อย่างเครื่องปรุงรส พริกแกงต่าง ๆ ที่หาได้ยากเย็น
จึงเกิดเป็นความคิดที่ว่า อยากผลิตเครื่องปรุงอาหาร เพื่อตอบสนองคนไทยในต่างแดน
โดยในช่วงแรก Exotic เริ่มต้นจากการจ้างโรงงานอื่นผลิตให้
แต่เมื่อมียอดขายมากขึ้น สุดท้ายจึงตัดสินใจสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง
ประกอบกับ อาหารไทยกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นทั่วโลกเรื่อย ๆ
ความต้องการเครื่องปรุงรสไทย ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
2. เน้นกลยุทธ์ “One-Stop-Brand” ครบจบในบริษัทเดียว
ถ้าเราลองมาดูสินค้าภายใต้ Exotic Food ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
- ซอสปรุงรส และน้ำจิ้มต่าง ๆ เช่น ซอสพริก น้ำจิ้มบ๊วย
โดยกลุ่มซอสและน้ำจิ้มเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท มีสัดส่วนรายได้กว่า 80%
- เครื่องแกง และเครื่องประกอบอาหาร เช่น เครื่องแกงแดง หรือแกงต้มยำ
- อาหารกระป๋องสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน เช่น แกงมัสมั่นสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย
- อาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น ผักผลไม้กระป๋อง ของแห้งของดองต่าง ๆ
เรียกได้ว่า ถ้าอยากทำแกงเขียวหวานตอนอยู่เมืองนอกสักหม้อ ก็แค่ซื้อของจาก Exotic ที่มีให้เลือกใช้ตั้งแต่พริกแกง กะทิ ไปจนถึงเครื่องปรุงอื่น ๆ ครบจบภายในที่เดียว
หรือถ้าใครขี้เกียจลงมือเข้าครัวเอง ก็มีอาหารไทยกึ่งสำเร็จรูป ที่พร้อมทานได้เลย
3. Digital Marketing กระตุ้นการรับรู้ ด้วยสื่อออนไลน์
ทำการตลาดประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
โดยถ้าเราไปดู ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ YouTube จะเห็นว่าทางบริษัทมีการออกมาประชาสัมพันธ์ ให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
ซึ่งหนึ่งในรูปแบบของประชาสัมพันธ์สินค้าก็คือ รายการทำอาหาร
โดยทางแบรนด์ได้มีการทำคลิปใช้ผลิตภัณฑ์ของ Exotic ในการทำเมนูต่าง ๆ ที่ไม่ได้จำกัดแค่อาหารไทยเท่านั้น แต่แสดงให้เห็นว่า อาหารชาติอื่น ๆ ก็สามารถใช้เครื่องปรุงไทยได้
เช่น การทำพายโดยใช้ซอสศรีราชา
ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถทำให้กลุ่มลูกค้าของทางบริษัทไม่ได้มีแค่คนที่ชื่นชอบอาหารไทย หรือคนไทยในต่างแดนเท่านั้น แต่ยังเป็นคนจากชาติอื่น ๆ ทั่วโลก ที่สามารถนำเครื่องปรุงไทยไปประยุกต์ในเมนูต่าง ๆ ได้อีกด้วย
กลยุทธ์ทั้งหมดนี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะที่ต่างประเทศก็มีแบรนด์เครื่องปรุงให้เลือกมากมาย
แต่ Exotic ก็สามารถทำให้เครื่องปรุงไทย ประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับได้ ไม่ใช่แค่กับคนไทยในต่างแดน แต่ยังรวมไปถึงคนต่างชาติอีกด้วย..
References
-รายงานประจำปี 2563 บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน)
-https://www.exoticfoodthailand.com/