ทำไม “การสร้างประสบการณ์ระดับโลก” ถึงเป็นหัวใจสำคัญในธุรกิจศูนย์การค้าของ สยามพิวรรธน์

หนึ่งในศูนย์การค้าที่วัยรุ่น ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจตลอดกาลคงหนีไม่พ้น “สยามเซ็นเตอร์” เพราะ นอกจากจะเป็นศูนย์การค้าที่มีดิไซน์ทันสมัย เป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ แบรนด์แฟชั่นระดับโลกมากมาย ยังมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา และ ประกาศเป็น Ideaopolis เมืองแห่งไอเดียล้ำเทรนด์ ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่ช็อปปิง แต่ยังมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้แก่ผู้มาเยือน

มาถึงยุค 2000 ประเทศไทยมีศูนย์การค้าที่เป็น “จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก” อย่าง “สยามพารากอน” ที่เป็นการพลิกโฉมวงการศูนย์การค้าเมืองไทย

เพราะนอกจากเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับไฮเอนด์ ที่ยังไม่เคยมีใครกล้าทำในยุคนั้น “สยามพารากอน” ยังมีการออกแบบศูนย์การค้าที่เต็มไปด้วยไอเดียล้ำ ๆ และเป็นศูนย์รวมแบรนด์สินค้า Attraction และกิจกรรมระดับโลกมากมาย

สยามพารากอน จึงถูกยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาเศรษฐกิจและความเจริญของกรุงเทพฯ

มาถึงปัจจุบัน เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จัก “ไอคอนสยาม” ศูนย์การค้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มีดิไซน์สะท้อนถึงวัฒนธรรมไทย แต่แฝงไปด้วยความเป็นสากลที่สง่างามและหรูหรา พร้อมกับมีแบรนด์ Luxury ระดับโลกมากมายมาเปิดสาขากันที่นี่

ไอคอนสยาม จึงไม่ใช่แค่ศูนย์การค้า แต่ยังเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ของกรุงเทพฯ ในยุคปัจจุบัน

รู้หรือไม่ ศูนย์การค้าทั้งหมดที่กล่าวมานั้น มีผู้พัฒนาที่เป็นเจ้าของคนเดียวกันคือ “สยามพิวรรธน์”

สิ่งที่น่าเรียนรู้คือ สยามพิวรรธน์ ใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารและสร้างศูนย์การค้าวิธีไหน ถึงทำให้ทุก ๆ Big Move สร้างประสบการณ์ระดับโลก ?
BrandCase ชวนมาหาคำตอบเรื่องนี้กัน

ปัจจุบัน สยามพิวรรธน์ มีศูนย์การค้า เช่น สยามพารากอน, ไอคอนสยาม, สยามดิสคัฟเวอรี่, สยามเซ็นเตอร์, สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ

ภายใต้การบริหารของสยามพิวรรธน์ ใครจะคาดคิดว่า ศูนย์การค้าทั้ง 5 แห่งในเครือ จะสามารถ สร้างปรากฏการณ์ระดับประวัติศาสตร์ ให้กับวงการค้าปลีกไทย ด้วยสถิติที่น่าทึ่ง

1. ครองใจผู้คนทั่วโลก ด้วยยอดผู้มาเยี่ยมเยือนศูนย์การค้ารวมเป็นที่หนึ่งในใจลูกค้ากว่า 100 ล้านคนต่อปี

2. เบอร์หนึ่งลักชัวรีรีเทลในประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 70%

3. แลนด์มาร์กระดับชาติ จุดหมายหลักของการเช็กอิน ล่าสุดความสำเร็จของงานสงกรานต์ ไอคอนสยามดึงดูดผู้ร่วมงานในศูนย์การค้าเดียวสูงถึง 1.44 ล้านคน

4. ที่สุดของโลกโซเชียล ด้วยการเป็นศูนย์กลางเทรนด์ การสร้างไวรัลและคอนเทนต์ที่ทรงพลัง

5. ที่หนึ่งของโลก จากรางวัลระดับนานาชาติที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำของไทยบนเวทีโลก

เหตุผลที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากมาช็อปปิง ใช้ชีวิตเหมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ในศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ ก็น่าจะเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษ ที่หาไม่ได้จากศูนย์การค้าอื่น ๆ

สยามพิวรรธน์ สร้างประสบการณ์พิเศษที่ดึงดูดคนทั่วโลกให้มาเยือนศูนย์การค้าของตัวเองด้วยวิธีไหน แม้เรื่องนี้จะมีหลากหลายเหตุผล แต่จะมีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ๆ ที่เป็นหัวใจสำคัญ

1. การพัฒนาศูนย์การค้าด้วยหัวใจแห่งความคิดสร้างสรรค์

ไม่ใช่แค่สร้างศูนย์การค้าให้ทุก ๆ พื้นที่มีดิไซน์ทันสมัยสวยงาม แต่ สยามพิวรรธน์ คิดข้ามไปอีกขั้น เมื่อมีการผสาน Creativity และความร่วมมือกับศิลปินจากหลายวงการทั้งในประเทศและทั่วโลก และยังสนับสนุนดิไซเนอร์รุ่นใหม่ ศิลปินท้องถิ่นหรือ SMEs ไทย ให้มีโอกาสได้ใช้พื้นที่ในการแสดงออก

พูดง่าย ๆ คือ ศูนย์การค้าในเครือ สยามพิวรรธน์ นอกจากจะดูยิ่งใหญ่และมีดิไซน์สวยงาม ยังช่วยผลักดันคนไทยให้มีเวทีแสดงความสามารถและสินค้าต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นมาให้แก่นักท่องเที่ยวได้สัมผัส เป็นวิธีการขับเคลื่อน Soft Power ไทยได้อย่างเรียบง่ายแต่มีพลังที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย

2. กล้าคิด กล้าทำ = DNA สยามพิวรรธน์

แค่กล้าคิดให้แตกต่าง มันคงไม่เกิด Impact ที่จะสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก แต่ต้องลงมือทำด้วย Passion เพื่อสร้างศูนย์การค้า ที่สร้างประสบการณ์ล้ำค่าให้แก่นักท่องเที่ยวทั่วโลก

ตรงนี้เองที่เป็น DNA ของ สยามพิวรรธน์ ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดที่สุดคือการลงทุนขนาดใหญ่สร้าง สยามพารากอน และ ไอคอนสยาม ที่รวบรวมความเป็นที่สุดทุกอย่างไว้ในศูนย์การค้า จนเวลานี้คนทั่วโลกต่างรู้จักและได้กลายเป็นศูนย์การค้าที่คนไทยภาคภูมิใจ

3. พันธมิตรระดับโลกมากมาย คือ หนึ่งจุดแข็งของสยามพิวรรธน์

การที่ศูนย์การค้าจะสร้างประสบการณ์ที่สุดยอดให้แก่ผู้มาเยือน ได้ตลอดเวลา สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเครือข่ายพันธมิตรทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก จนถึงองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จะมาร่วมมือกันสร้างกิจกรรมต่าง ๆ ใน Ecosystem

พอเกิดการรวมพลังช่วยกันสร้าง ทำให้แต่ละกิจกรรมและทุก ๆ โปรเจกต์จะยิ่งใหญ่อลังการ และมีความแปลกใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้มาเยือนศูนย์การค้าตลอดเวลา โดยมีอยู่หลายกิจกรรมเลยทีเดียวที่สร้าง Talk of the World

จะเห็นว่าตลอดเส้นทางธุรกิจศูนย์การค้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สยามพิวรรธน์ ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้คนที่มาใช้บริการศูนย์การค้าของตัวเอง พร้อมปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา

ที่น่าสนใจคือ ทุก ๆ ครั้งในการปรับเปลี่ยนจะมีแนวคิดหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไปไหน นั่นคือการสร้างศูนย์การค้า ให้เป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจและมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ผู้มาเยือน ทำให้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม ศูนย์การค้า ทั้งหมดของสยามพิวรรธน์ ยังได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกอยู่ตลอดเวลา

จึงไม่ใช่คำพูดเกินจริงเลยหากจะบอกว่า ณ วันนี้ สยามพิวรรธน์ ถือเป็นบริษัทคนไทย ที่ยืนอยู่แถวหน้าในธุรกิจศูนย์การค้าระดับโลก โดยมีคำว่าศูนย์การค้าที่มีคุณภาพต้องคอย “สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ” ให้เกิดความประทับใจแก่ผู้มาเยือนในทุก ๆ ครั้ง

Reference
- ข่าวประชาสัมพันธ์และเว็บไซต์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด