สรุปเทคนิคทำ Feasibility ดูความเป็นไปได้ ของธุรกิจ ก่อนเริ่มลงทุน สไตล์คุณปลา iberry

- Feasibility หรือ “โมเดลเจ๊งในกระดาษ” เป็นการประเมินว่าธุรกิจ สามารถคืนกำไรได้จริงหรือไม่ ?

โดยคำนวณจาก
- ตัวเลขคาดการณ์รายได้ เป็นการคาดคะเนว่าธุรกิจจะมีรายได้เท่าไร ? ทั้งในกรณีดีที่สุดและแย่ที่สุด

- โครงสร้างต้นทุน ต้องรู้ว่าธุรกิจมีต้นทุนอะไรบ้าง ? ทั้งต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร และต้นทุนแฝงต่าง ๆ

ทั้งตัวเลขต้นทุนและรายได้คาดการณ์ เมื่อนำมาหักลบกัน จะได้ตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการออกมา

ซึ่งเราสามารถนำมาคำนวณระยะเวลาที่จะคืนทุน และประเมินได้ว่า ธุรกิจที่เราจะทำ คุ้มค่าต่อการลงทุน ลงแรงหรือไม่ ?

โดยคุณปลา iberry เจ้าของ iberry Group ได้เล่าเรื่องนี้ในงาน The Entrepreneur Forum 2025 สรุปได้ว่า

สิ่งที่เราต้องห้ามลืม ในการทำ Feasibility (เจ๊งในกระดาษ)

1. กรณีแย่ที่สุด (Worst Case) หากขายไม่ได้เลย เราจะอยู่ได้นานแค่ไหน ?

2. คำนวณว่าต้องใช้เวลากี่ปีถึงคืนทุน ?

ซึ่งหลังจากเราทำ Feasibility แล้วพบว่า คุ้มค่าต่อการลงทุนลงแรงแล้ว เราก็สามารถเปิดร้านได้

อย่างไรก็ตาม Feasibility ต้องทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ แม้เราจะเปิดร้านแล้ว
โดยสิ่งที่เราต้องคอยติดตามก็คือ

- ค่าเช่า ควรอยู่ที่ 8-15% ของรายได้
- การต่อรอง GP ต้องมีเทคนิคในการเจรจากับห้าง
- Labour Cost ต้องควบคุมจำนวน คุณภาพ และความเร็วของแรงงานให้เหมาะสม

ที่สำคัญคือ Feasibility ไม่ใช่แค่การคำนวณตัวเลข แต่ต้องปรับตามสถานการณ์ เช่น ปีนี้มีโรคระบาดหรือนักท่องเที่ยวเยอะขึ้นไหม ?

และแม้ Feasibility จะไม่ได้แม่นยำ 100% แต่ก็ช่วยให้เราเห็นจุดเสี่ยง และเป็นแนวทางในการตัดสินใจ..

สรุป Feasibility ไม่ใช่แค่ต้องทำ แต่ต้อง ทำอย่างต่อเนื่อง และยืดหยุ่นตามสถานการณ์ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและขยายได้อย่างมั่นคง

คุณปลา iberry เล่าดีเทลเรื่องนี้แบบเต็ม ๆ ในงาน The Entrepreneur Forum 2025
- ท่านที่สนใจรับชมดีเทลแบบเต็ม ๆ ทุก Session บนเวทีหลัก และทุกห้อง Workshop สอนทำจริง เพื่อนำไปปรับใช้ ต่อยอดไอเดียธุรกิจ สามารถจองบัตร Rerun Online ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.zipeventapp.com/e/The-Entrepreneur-Forum-2025 (บัตร Rerun มีจำนวนจำกัด)