ขนมหวานยุคใหม่ 4 สินค้าจาก 3 SME ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นอร่อยจนต้องซื้อซ้ำ บทพิสูจน์ "ปรับตัว" คือกุญแจสู่ความสำเร็จ
9 ต.ค. 2024
คงไม่ผิดหากจะบอกว่า “ความสามารถในการปรับตัว” คือ หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ เพราะโลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านเทคโนโลยี ด้านพฤติกรรมผู้บริโภค
ไปจนถึงสภาพเศรษฐกิจ หากธุรกิจรู้จักปรับตัวตามความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับตัวสินค้า กระตุ้นยอดขาย และช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต
ไม่เว้นแม้กระทั่งสินค้าขนมไทย ที่ยังต้อง ปรับสูตร ปรับรสชาติ ปรับแพ็กเก็จจิ้ง เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้ตลาด ปรับตัวให้เข้ากับ Insight ความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ อย่างเช่น
4 สินค้าใหม่ จาก 3 SME ระดับท็อปในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในวันนี้ ที่ผ่านการศึกษา Insight ผ่านการปรับเปลี่ยนหลายๆ ด้าน ให้น่ารับประทาน ครองใจผู้บริโภคยุคใหม่ยิ่งขึ้น!
หลายคนอาจเคยรับประทาน “เปียกปูนกะทิสด” ของบริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด หรือที่รู้จักกันในนาม “แม่สุนีย์ ขนมไทย” ที่เคยวางจำหน่ายในรูปแบบถาด
4 ช่องภายใต้แบรนด์ EZY SWEET กันมาบ้าง วันนี้ เปียกปูนกะทิสด มาในรูปโฉมใหม่ ปรับทั้งรสชาติ ขนาด (Sizing) และแพ็กเก็จจิ้ง ให้โดนใจ Gen Z มากกว่าเดิม พร้อมเพิ่มความสะดวกและง่ายต่อการรับประทานด้วยช้อนขนาดพอเหมาะ
ก้อง-ก้องปพัฒน์ เรืองจินดาชัยกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึงที่มาของการปรับโฉมและรสชาติของสินค้าว่า บริษัทตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าช่วงอายุ 15-25 ปีให้มากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 25% เป็น 50% ภายใน 3 ปี
ดังนั้นบริษัทจึงทำการสำรวจตลาดกลุ่มนี้อย่างจริงจัง นำสินค้าหลายๆ ชนิดที่เป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าปัจจุบันไปให้นักเรียน นักศึกษา ได้ลองทานพร้อมรับฟังคำแนะนำ ฟีดแบ็กที่ได้กลับมาคือ หลายคนยังไม่รู้จักหรือเคยเห็น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพ็กเก็จจิ้งที่ไม่สะดุดตา รสชาติหวานไป
ทางบริษัทจึงปรึกษากับทางเซเว่นฯ ถึงแนวทางการพัฒนาสินค้า จึงได้ปรับ 3 ส่วน คือ 1.ปรับรสชาติ ให้มีความกลมกล่อมมากขึ้น 2.ปรับ Sizing จากเดิมเป็นแบบถาด 4 ช่อง สู่ถ้วยสี่เหลี่ยมใสทรงสูง สะดวกต่อการถือรับประทานของคนรุ่นใหม่
และสามารถทานหมดในคราวเดียว 3.ปรับหน้าตาแพ็กเก็จจิ้ง ใส่สายคาดให้มีขลิบสีทอง เพิ่มความพรีเมียม เอาใจคนรุ่นใหม่สายโซเชียล ให้ถ่ายรูปโพสต์ได้แบบปังๆ ในราคาจับต้องได้เพียง 27 บาท
นอกจากเปียกปูนกะทิสดที่มีการปรับแล้ว การเพิ่มสินค้าใหม่ก็เป็นสิ่งที่ SME ต้องทำ เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภค โดยสินค้าตัวล่าสุดที่ทาง เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป พัฒนาออกมาวางจำหน่ายรับเทศกาลกินเจ คือ ลูกเดือยเปียกทรงเครื่อง
โดยเพิ่มความพิเศษด้วยการใส่ธัญพืชลงไปรวม 5 ชนิดประกอบด้วย ข้าวบาร์เล่ย์ ลูกเดือย แห้ว ถั่วแดง ข้าวโพด เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและสร้างรสชาติใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค โดยวัตถุดิบแต่ละชนิดเป็นธัญพืชจากสวนที่เป็นพันธมิตรของบริษัท
จึงมั่นใจได้ว่าได้คุณภาพตรงตามที่ต้องการ พร้อมส่งต่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุด เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย และผู้รักสุขภาพ ในราคาถ้วยละ 25 บาทเท่านั้น
เต้าทึงน้ำลำไย : จับกระแสมาต่อยอด วิจัยสร้างจุดแข็ง เครื่องเยอะ-หลากหลายรสสัมผัสในถ้วยเดียว
“แม่อิม” ภายใต้บริษัท แหลมทองอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด เป็น SME ตัวตึงอีกหนึ่งรายที่ผลิตสินค้าเข้าจำหน่ายและมีชื่อเสียงในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
“แม่อิม” ภายใต้บริษัท แหลมทองอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด เป็น SME ตัวตึงอีกหนึ่งรายที่ผลิตสินค้าเข้าจำหน่ายและมีชื่อเสียงในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น
มาอย่างยาวนาน ทั้งซาหริ่ม ลอดช่องสิงคโปร์ ล่าสุด แอร์-ปมิตตา แต้มไพโรจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แหลมทองอุตสาหกรรมอาหาร จำกัด ทายาทแม่อิม เจาะกระแสฮิตน้ำลำไยมาต่อยอด ซุ่มวิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่กว่า 3-4 เดือน จนออกมาเป็น “เต้าทึงน้ำลำไย” รายแรกในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่คิดสูตรมาเพื่อคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
“เดิมเครื่องที่ใส่ในเต้าทึง มักจะเป็นพุทราเชื่อม รากบัว แปะก๊วย ซึ่งอาจไม่ค่อยถูกปากและไม่เป็นที่รู้จักของคนรุ่นใหม่มากนัก เราจึงขอรับคำปรึกษาจากทางทีมเซเว่น อีเลฟเว่น จนออกมาเป็นเต้าทึงที่ใส่เครื่องที่ทานง่าย 5 ชนิด คือ มัน เฉาก๊วย วุ้น เนื้อลำไย และเส้นโบ๊กเกี้ย
ซึ่งเป็นเส้นที่มีการคิดค้นสูตรแป้งใหม่เพื่อไม่ให้แข็งเวลาแช่เย็น เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบแม้จะแช่เย็นก็ตาม ที่สำคัญคือปรับสูตรให้หอมน้ำลำไย รสชาติกลมกล่อม ไม่หวานจนเกินไป สามารถทานหมดได้ในครั้งเดียว
และสามารถจัดเก็บในตู้เย็นได้นานถึง 10 วัน มากกว่าเต้าทึงปกติที่มักเก็บได้เพียงประมาณ 5 วัน เพราะบริษัทใช้วิธีควบคุมอุณหภูมิระหว่างการผลิต เริ่มวางจำหน่ายเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ในราคาเพียงถ้วยละ 25 บาท”
ใครจะคิดว่าของหวานบนโต๊ะจีนอย่าง “โอนีแปะก๊วย” และ “เผือกกวน” จะถูกนำมามิกซ์ แอนด์ แมทช์กันได้อย่างลงตัว จนออกมาเป็นสินค้าใหม่ที่มีชื่อว่า “เผือกกวนแปะก๊วย” ที่อร่อยและสวยงามน่ารับประทาน สินค้าชิ้นนี้ เป็นผลงานของ SME ตัวตึงอีกรายอย่าง “บ้านทองหยอด” ภายใต้การบริหารของ เป๊ก-ภาณุวัฒก์ เงินศรีสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีทีวาย ฟู้ด จำกัด
“จุดเริ่มต้นของคอนเซ็ปต์สินค้ามาจากโอนีแปะก๊วยที่มักจะเห็นในโต๊ะจีน แต่เนื่องจากขนมดังกล่าวไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรุ่นใหม่ เนื่องจากเป็นขนมที่ไม่สามารถหาทานได้ทั่วไป อีกทั้งยังมีความหวานจัด
บวกกับบริษัทได้ทำแบบสำรวจสินค้าเผือกกวนเดิมที่วางจำหน่าย พบว่า ผู้บริโภคอยากให้เผือกมีความนุ่มกว่านี้ ประกอบกับทางเซเว่นฯ เองก็แนะนำให้พัฒนาต่อยอดสินค้าเดิม บริษัทจึงได้นำสินค้าเผือกกวนมาต่อยอด เพื่อสร้างความแปลกใหม่ ปรับสูตรตัวเผือกกวนให้นุ่มมากขึ้น
จากการอัดแบบจากแม่พิมพ์ เป็นการใช้หัวบีบใส่ถ้วยแยกชิ้น บรรจุในกล่องใส่แบบ 4 ช่อง และเพิ่มแปะก๊วยเข้าไป ให้อารมณ์เหมือนทานโอนีแปะก๊วย แต่ลดความหวานลง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพ เพิ่มความพรีเมียมด้วยการปรับสายคาดกล่องเป็นแบบใสขลิบด้วยสีทอง เผยให้เห็นความสวยงานของสินค้าด้านในอย่างชัดเจน จำหน่ายในราคาเพียง 29 บาทเท่านั้น”
นอกจากสินค้าใหม่ทั้ง 4 ตัว จาก 3 SME จะน่าชิมลิ้มลอง ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในทุกรายละเอียดของ SME แต่ละราย เพื่อให้สินค้าตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
อีกทั้งยังแสดงให้เห็นด้วยว่า การปรับตัวและการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจใกล้ชิดกับผู้บริโภคได้มากขึ้น และเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือทุกความเปลี่ยนแปลง สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจในอนาคต