สรุปภาพรวมงาน อว.แฟร์ พร้อมเจาะลึกโซนรวมตัว Startup ไทยหน้าใหม่

สรุปภาพรวมงาน อว.แฟร์ พร้อมเจาะลึกโซนรวมตัว Startup ไทยหน้าใหม่

26 ก.ค. 2024
อว.แฟร์ X BrandCase
- สหรัฐอเมริกา มีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แทบจะครบทุกด้าน
ไม่ว่าจะเป็น Apple, Google, Amazon ไปจนถึงเทคโนโลยีอวกาศ Nasa และ ฐานปล่อยยานอวกาศ
- อิสราเอล มีระบบป้องกันขีปนาวุธ Iron Dome
ซึ่งเป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศ ที่มีประสิทธิภาพสูงและทันสมัยที่สุดในโลก
- ญี่ปุ่น มีเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยสร้างแบรนด์รถยนต์จนส่งออกไปขายได้ทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็น Toyota, Honda หรือ Suzuki
ที่ล้ำไปกว่านั้นคือ ญี่ปุ่นมีรถไฟความเร็วสูงที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างชินคันเซ็น
วิ่งด้วยความเร็ว 320 กม./ชม.

จะเห็นได้ว่าตัวอย่างประเทศที่พัฒนาแล้วเหล่านี้ ล้วนมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำ ๆ เป็นของตัวเองกันแทบทั้งนั้น
แล้วประเทศไทย มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีอะไรเป็นของตัวเองบ้าง ?
ไปหาคำตอบกันได้ที่งาน อว.แฟร์ ที่กำลังจัดขึ้นในตอนนี้กัน
งาน อว.แฟร์ (อว.FAIR : SCI POWER FOR FUTURE THAILAND) คือ งานมหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์ ด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดขึ้นโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
โดยมีจุดประสงค์ คือ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ที่จะนําไปสู่การพัฒนาประเทศไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต
รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นการมีส่วนร่วม และให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม
โดยงานอว.แฟร์ในปีนี้ จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พื้นที่ กว่า 23,000 ตารางเมตร
ตั้งแต่วันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00-20.00 น.
แล้วภายในงานนี้ มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
ภายในงานจะแบ่งออกเป็น 6 โซน ได้แก่
1. โซน A : INSPIRED BY SCIENCE วิทยาศาสตร์...เพื่อจุดประกายการเรียนรู้
โซนที่จะช่วยจุดประกายความคิดและสร้างจินตนาการให้ทุกคน ด้วยการเปิดประสบการณ์การเรียนรู้ที่แปลกใหม่ ผ่านกิจกรรม Hands-on Exhibition
ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยี AR และ VR เข้ามาให้คนในงานได้สัมผัสวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล้ำ ๆ อย่างใกล้ชิด
โซนนี้จะทำให้เราเห็นว่าจริง ๆ แล้ววิทยาศาสตร์สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดทั้งในแง่ธุรกิจและเศรษฐกิจได้อีกเยอะ
ตัวอย่างกิจกรรมภายในโซนนี้ เช่น
- Digital Immersive Experience ที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์และศิลปะ อย่างลงตัว
- Science is Fun Experimental Adventure
- AR / VR Experience เครื่องเล่นแว่น VR
- AI Coding
2. โซน B : SCIENCE FOR LIFELONG LEARNING
วิทยาศาสตร์...เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต / ทักษะอาชีพในอนาคต
โซนนี้จะเป็นอีกโซนที่นำเสนอว่าวิทยาศาสตร์สามารถช่วยยกระดับ ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมสู่อนาคตได้อย่างไรบ้าง ?
กิจกรรมภายในโซนนี้จะเป็นการแนะแนวอาชีพแห่งอนาคต ที่เหมาะสำหรับน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา
ตัวอย่างกิจกรรมภายในโซนนี้ เช่น
- การเฉลยข้อสอบ TCAS และเสวนารายวัน “พิชิต TCAS 68”
- ต้นแบบ Smart Classroom ห้องเรียนในทศวรรษหน้า
- การแนะแนวอาชีพในอนาคต และแนวทางการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
- Universities Robotic Competition League
3. โซน C : STARTUP LAUNCHPAD
วิทยาศาสตร์...เพื่อ Startup และผู้ประกอบการรุ่นใหม่
โซนนี้จะเป็นโซนที่ช่วยนำเสนอและช่วยผลักดัน Startup ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นโซนที่เหมาะสำหรับผู้ที่กําลังมองหาอาชีพและเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ Startup ได้พบกัน
เพราะเป็นโซนที่รวมตัวผู้ประกอบการ Startup ไทยใหม่ ๆ ในหลากหลายอุตสาหกรรม ที่โดดเด่นด้วยไอเดียและมี Business Model ที่น่าสนใจ เช่น
- Joy Ride Startup สัญชาติไทย โมเดลธุรกิจที่เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงสำหรับผู้สูงใหญ่
เพื่อช่วยแก้ปัญหาสำหรับลูกหลานที่ไม่มีเวลาหรือไม่สะดวกพาคนสูงอายุที่บ้านไปหาหมอ
โดยที่ Joy Ride จะมีบริการ ตั้งแต่พาไปโรงพยาบาล พาไปทานข้าว ช่วยรับยา และพากลับมาส่งที่บ้าน
ซึ่งในทุก ๆ ขั้นตอน ลูกหลานของผู้สูงอายุก็จะได้รับรายงานและข้อมูลของผู้สูงอายุตลอดเวลาด้วยเช่นกัน
- LALA Station Startup สัญชาติเกาหลี โซลูชันที่ให้บริการเกี่ยวกับการไลฟ์สดมากกว่า 21 แพลตฟอร์มทั่วโลก โดยให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การผลิตเนื้อหาสำหรับไลฟ์สด การขายสินค้า ไปจนถึงโซลูชันที่ช่วยพัฒนาหรือปรับแต่งแบรนด์ต่าง ๆ
โดยมีการทำงานตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์ตลาดเพื่อประเมินสินค้า กำหนดทิศทางการรีวิวของสินค้า มีการวางแผนแนวคิดและช่วยสร้างกลยุทธ์ให้กับแบรนด์ ไปจนถึงแผนการไลฟ์สดและประชาสัมพันธ์
- ChiChat Startup สัญชาติญี่ปุ่น ที่เป็นเครื่องมือการตลาดโดยใช้ AI ตัวล่าสุดจากญี่ปุ่น ที่จะเข้ามาช่วยลดต้นทุนการตลาดได้มากถึง 20%
ด้วยการใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มที่แบรนด์หรือธุรกิจมีอยู่ และนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมและใช้การตอบโต้ด้วย AI ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของแบรนด์ได้มากขึ้น
และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจของโซนนี้คือ ศูนย์ให้คำปรึกษาและแนะนํา โดยผู้เชี่ยวชาญทั้งด้าน Branding, Funding, Growth Hack ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือสำหรับผู้ประกอบการที่อยากยกระดับธุรกิจของตัวเองให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น
รวมไปถึงเวทีการแข่งขัน Pitching “Startup Thailand League 2024” ที่จะได้ Pitch กับนักลงทุนทั้ง VC และ CVC ชั้นนําภายในงาน
ตัวอย่างกิจกรรมภายในโซนนี้ เช่น
- หัวข้อสัมมนากว่า 30 หัวข้อ และกิจกรรม Business Matching สำหรับผู้ประกอบการ
- ศูนย์ให้คำปรึกษาการทำธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการ
- ตลาดสินค้านวัตกรรมจาก Startup กว่า 300 บูธ ให้ผู้ประกอบการสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันได้
- การแข่งขัน Pitching “Startup Thailand League 2024 : National Pitching” 14 ทีมสุดท้ายในรอบชิงแชมป์ประเทศไทย
4. โซน D : SCIENCE FOR EXPONENTIAL GROWTH
วิทยาศาสตร์...เพื่อยกระดับ ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมสู่อนาคต
โซนจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรด้านการเกษตร หรือนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพ อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการทำธุรกิจระหว่างประเทศ เช่น
- Global Live Commerce การโตอย่างก้าวกระโดดต้องโตข้ามประเทศ หรือการเจาะตลาดใหญ่ด้วย LIVE Commerce
- Growth Hack การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันของผู้ประกอบการในภาคเศรษฐกิจจริงของไทย
โดยการนําเทคโนโลยี นวัตกรรม มาต่อยอดพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ของไทย
ภายในโซนนี้จะเป็นโซนที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการ มาชม มาช้อป สินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้ประกอบการไทยในราคาพิเศษ
ซึ่งโซนนี้จะเหมาะมากสำหรับอาจารย์ นักวิจัย และผู้ที่ต้องการชมและช้อปผลงานนักวิจัยไทย เพื่อไปใช้ในธุรกิจหรือต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในอนาคต
ตัวอย่างกิจกรรมภายในโซนนี้ เช่น
- National IP Marketplace งานวิจัยพร้อมถ่ายทอดสู่เชิงพาณิชย์
- นิทรรศการเครื่องจักรโดยฝีมือคนไทย ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- INNO Store + Live Commerce ผลิตภัณฑ์จากร้านค้านวัตกรรมและการโชว์ขายในรูปแบบไลฟ์สด
- งาน Thailand Tech Show และการบรรยายพิเศษ 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง
5. โซน E : SCIENCE FOR ALL WELL-BEING
วิทยาศาสตร์...เพื่อสังคมที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ และชีวิตที่ผาสุก
โซนนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากนวัตกรรมของคนไทย ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต
โซนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์จากงานวิจัยด้านสุขภาพ ​ผลิตภัณฑ์และสินค้าที่เกิดจากการนําเทคโนโลยีที่เหมาะสมและนวัตกรรม มายกระดับผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น
ตัวอย่างกิจกรรมภายในโซนนี้ เช่น
- ผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มการดูแลสุขภาพ
- ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Future Food และ Functional Food
- ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเวชสำอางจากสารสกัดธรรมชาติสู่ตลาดสากล
6. โซน F : SCIENCE FOR FUTURE THAILAND
วิทยาศาสตร์...เพื่อ “อนาคตประเทศไทย” ที่สดใสและยั่งยืน
ภายในโซนนี้ทุกคนจะได้​พบกับขบวนรถไฟแห่งอนาคต ที่จะฉายภาพให้เห็นประเทศไทยในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อให้เห็นภาพว่าอนาคตของเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และมีอะไรที่เราควรเตรียมตัวไปพร้อมกัน
ตัวอย่างกิจกรรมภายในโซนนี้ เช่น
-ดิน ดวงจันทร์จากยานฉางเอ๋อ 5 ซึ่งจัดแสดงนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก
- ชิ้นส่วนยานอวกาศ LUNAR GATEWAY ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “ยูเรนัส 2324”
- ต้นแบบ Module ดาวเทียมสัญชาติไทย ที่กําลังพัฒนาก่อนปล่อยขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Highlight อื่น ๆ ภายในงานที่น่าสนใจอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- กิจกรรมเสวนาทั้ง Main Stage, Mini Stage และกิจกรรม Workshop อีกมากมาย เช่น เวทีเสวนา “5 ปี อว. กับการปฏิรูป อววน. และทิศทางในอนาคต” ร่วมเสวนาโดย คุณปริม จิตจรุงพร คุณเคน นครินทร์ และ คุณฐากร ตันฑสิทธิ์
- พาเหรดหุ่นยนต์ มาสคอต และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง อย่างเช่น ซาร่าห์ ซาโรลา, ETC, Paper Planes, THE TOYS, Season Five, PALMY และ ตู่ ภพธร
- สำหรับผู้เข้าร่วมงานสามารถลุ้นรับของรางวัลใหญ่ มอเตอร์ไซค์ EV ทุกวัน วันละ 2 คัน และรางวัลสูงสุดรถกระบะ EV จำนวน 1 คัน และของรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าชมฟรีตลอดทั้งงาน
โดยงานจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22-28 กรกฎาคม 2567 เวลา 09.00-20.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mhesifair.com/
#อว #อวFair #futureThailand #SciPower ​
#กระทรวงอว #MHESI #อวforall #อวแฟร์​ #กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.