‘เลย์’ แจกรอยยิ้มทั่ว กทม. คลายร้อนให้ชื่นใจ เพื่อขอบคุณทุกความทุ่มเทของพนักงานเก็บขยะ สานต่อแคมเปญ ‘ยิ้มเลย์ในเวย์คุณ’

‘เลย์’ แจกรอยยิ้มทั่ว กทม. คลายร้อนให้ชื่นใจ เพื่อขอบคุณทุกความทุ่มเทของพนักงานเก็บขยะ สานต่อแคมเปญ ‘ยิ้มเลย์ในเวย์คุณ’

9 พ.ค. 2024
เลย์ มันฝรั่งทอดกรอบยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย โดย บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด (เป๊ปซี่โค ประเทศไทย) ส่งมอบผลิตภัณฑ์มันฝรั่งทอดกรอบในซองรูป “เลย์สมายล์” จำนวน 100 ลัง 
มูลค่ารวม 100,000 บาท เพื่อขอขอบคุณและเป็นกำลังใจทุกความทุ่มเทของพนักงานเก็บขยะของกรุงเทพมหานคร ที่ทำงานท่ามกลางเปลวแดดร้อนเพื่อให้ถนนสะอาดและไร้ขยะ 
ในโอกาสนี้ นางสุริวัสสา สัตตะรุจาวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และรัฐกิจ ประจำประเทศไทยและเวียดนาม บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด เป็นตัวแทนมอบผลิตภัณฑ์เลย์ให้กับ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กรุงเทพมหานคร เพื่อส่งต่อรอยยิ้มให้กับพนักงานเก็บขยะทั่วกรุงเทพมหานคร
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวขอบคุณบริษัทเป๊ปซี่โค ประเทศไทย ที่ได้มอบผลิตภัณฑ์เลย์เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานให้กับพนักงานเก็บขยะของกรุงเทพมหานคร
 ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 10,000 คน ที่ทำงานอย่างขยันขันแข็งทำให้ถนนในกรุงเทพมหานครมีความสะอาดมากขึ้น พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือชาวกรุงเทพมหานครคัดแยกและทิ้งขยะ
 เพื่อไปสู่ปลายทางของขยะอย่างเหมาะสม รวมทั้งให้คำนึงถึงการนำสิ่งของกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และรีไซเคิล (Recycle) ให้มากที่สุด
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์มันฝรั่งทอดกรอบเลย์  หนึ่งในแบรนด์เครือบริษัทเป๊ปซี่โคประเทศไทย เชื่อมั่นว่าทุกรอยยิ้มมีความหมายและสามารถส่งพลังบวกให้กันและกันได้ 
จึงได้จัดทำแคมเปญ ‘ยิ้มเลย์ในเวย์คุณ’ ซึ่งทุกคนสามารถที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญและส่งต่อรอยยิ้มของตนเองออกไปง่ายๆ เพียงแค่สแกน QR Code บนหน้าซองเลย์ ในทุกไลน์ผลิตภัณฑ์กว่า 32 แบบ 
พร้อมถ่ายรูปและเลือก AI ฟิลเตอร์ เพียงเท่านี้ก็จะได้รอยยิ้มเก๋ๆ เพื่อส่งต่อความสุขและรอยยิ้มของตนเองออกไปง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว โดยทางแบรนด์เลย์มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นตัวกลางช่วยสร้าง
และกระจายรอยยิ้มของคนไทย พร้อมส่งต่อความสุขไปให้ทั่วทุกพื้นที่ และแน่นอนว่า ทาง “เลย์” ก็มีความตั้งใจมอบผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นกำลังใจและสร้างรอยยิ้มให้กับเหล่าฮีโร่ที่คอยดูแลความสะอาดและจัดการขยะแต่ละประเภทเพื่อไปสู่ปลายทางที่เหมาะสม 
ด้านนางสุริวัสสา สัตตะรุจาวงษ์ ระบุว่า เป๊ปซี่โคประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการจัดการขยะและมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรต้นแบบของการจัดการปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน
 ซึ่งปัญหาขยะของกรุงเทพมหานครนับเป็นปัญหาสำคัญ ที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้นเป๊ปซี่โค ประเทศไทย จึงได้ร่วมสนับสนุนกรุงเทพมหานครผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือให้กับประชาชนในการจัดการขยะในรูปแบบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ  
“ความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ มีความสำคัญอย่างมาก ในการจัดการปัญหาขยะ รวมถึงขยะจากพลาสติกที่สามารถจะนำกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว
 ยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติ และฟันเฟือนหนึ่งที่มีความสำคัญในการจัดการปัญหาขยะ คือ พนักงานเก็บขยะที่ทุ่มเททำงานเพื่อให้ทั่วทั้งกรุงเทพมหานครมีความสะอาด
 และก้าวสู่การเป็นเมืองหลวงไร้ขยะตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร เราจึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะมอบรอยยิ้มและเป็นกำลังใจให้พนักงานเก็บขยะของกรุงเทพมหานครทั้ง​ 50 เขต 
และพร้อมสนับสนุนภารกิจของกรุงเทพมหานครในการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ” นางสาวสุริวัสสา กล่าว
การจัดการขยะจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่งของ เป๊ปซี่โคประเทศไทย โดยได้ริเริ่มโครงการ “Journey to Zero Waste” ตั้งแต่ปี 2564
 เพื่อจัดการขยะประเภทบรรจุภัณฑ์พลาสติกอ่อนหลายชั้น (Multilayer Plastic - MLP) อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ด้วยการสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนในการลดและคัดแยกขยะที่ต้นทาง 
พร้อมทั้งวางเป้าหมายเก็บกลับบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วประเภท MLP ให้ได้มากที่สุด และนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างประโยชน์ผ่านการอัพไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมมุ่งหวังให้ขยะเหลือศูนย์ 
โครงการ "Journey to Zero Waste" เกิดขึ้นภายใต้วิสัยทัศน์ pep+ (PepsiCo Positive) ในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับโลก ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ครบวงจรอย่างยั่งยืน 
โดยมีหัวใจสำคัญในกำหนดวิธีการที่บริษัทจะสร้างความเติบโตและคุณค่าจากการดำเนินงานภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรโลก และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแก่โลกรวมถึงประชากรทั่วโลก 
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.