ถอดไอเดีย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กับแนวคิดการบริหารอาคาร “เราคือส่วนหนึ่งเป็น Teamwork ที่ยืนเคียงข้างลูกค้า”

ถอดไอเดีย พลัส พร็อพเพอร์ตี้ กับแนวคิดการบริหารอาคาร “เราคือส่วนหนึ่งเป็น Teamwork ที่ยืนเคียงข้างลูกค้า”

29 เม.ย. 2024
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ X BrandCase
เมื่อเอ่ยถึง Facility Management เรามักจะคิดว่าแค่เป็นงาน “บริหารจัดการอาคาร” ที่คอยสร้างความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานอาคาร
แต่จริง ๆ แล้ว “การบริหารจัดการอาคาร” คือ ศาสตร์ + ศิลป์ ที่สร้างประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะหากมีการบริหารจัดการคุณภาพสูง จะช่วยเพิ่มมูลค่าอาคารต่าง ๆ และยังช่วยสร้างสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ก็คือ Branding 
เพราะหากคนภายนอกที่มาติดต่องานในออฟฟิศเรา ได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไป ผ่านตัวอาคาร ก็ย่อมส่งภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร จนถึงแบรนด์สินค้าที่เราทำธุรกิจอยู่
โดยบริษัทที่เป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจนี้ คือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ปัจจุบันได้เข้าไปดูแลอาคารดัง ๆ ในเมืองไทยมากมาย เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, The Commons คอมมิวนิตีมอลล์ และอาคารอีกหลาย ๆ แห่ง ที่ไม่ได้กล่าวถึง
ทำให้ปัจจุบัน พลัส พร็อพเพอร์ตี้ บริหารพื้นที่กว่า 18 ล้านตารางเมตร 
โดยกว่า 50% คือการบริหารจัดการอาคาร สำนักงานต่าง ๆ ส่วนที่เหลือเป็นโครงการที่พักอาศัย ทำให้บริษัทขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจนี้
คำถามง่าย ๆ คือ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ทำอย่างไรถึงให้เจ้าของอาคารต่าง ๆ เลือกใช้บริการของบริษัท ? 
“เราเหมือนช่างตัดเสื้อ ที่มาตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป”
เป็นคำพูดของคุณชาญ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคารและระบบวิศวกรรม และคุณภคิน เอกอธิคม รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากรอาคาร บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
ผู้บริหารทั้งสองคนเล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของบริษัท เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เมื่อบริษัทแม่อย่างแสนสิริ ได้ขยายโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับคิดต่อว่า ธุรกิจจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่ดูแลบริหารหลังการขาย โดยทางพลัสฯ ก็เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้
เมื่อบริหารโครงการของแสนสิริได้ในระยะหนึ่ง ก็ค่อย ๆ ขยายธุรกิจเข้าไปบริหารจัดการโครงการที่อยู่อาศัยให้แก่บริษัทอสังหาฯ อื่น ๆ จนเมื่อธุรกิจเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น บริษัทได้ขยายสเกลไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็น อาคารต่าง ๆ มากมายในหลาย ๆ ธุรกิจ
ทำให้มีข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวอาคาร ด้วยประสบการณ์เกือบ 30 ปี ได้หล่อหลอมเป็นองค์ความรู้ ที่ทำให้พลัสฯ นำมาใช้ในการบริหารจัดการอาคารต่าง ๆ และที่สำคัญคือวิธีคิด ด้วยความเชื่อที่ว่า พลัสฯ เป็นส่วนหนึ่งที่จะเติบโตไปพร้อม ๆ กับเจ้าของอาคารต่าง ๆ ที่มาใช้บริการ
พอคิดแบบนี้ เป้าหมายการบริหารจัดการย่อมสร้างประโยชน์ให้แก่เจ้าของอาคารได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เพราะนอกจากเรื่องพื้นฐานคือ ความสะดวกสบายและความปลอดภัยในตัวอาคารแล้วนั้น พลัสฯ ยังมีการบริหารจัดการที่ช่วยลดต้นทุนธุรกิจ
“เราเป็นส่วนหนึ่งของผลกำไร ตัวอย่างเช่น เมื่อ พลัสฯ บริหารจัดการอาคารสำนักงานให้เช่า
เราจะคิดเลยว่าจะทำอย่างไรให้ค่าเช่าพื้นที่สูงขึ้น จนถึงการใช้เทคโนโลยีมาช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารอาคาร”
ความน่าสนใจมันอยู่ตรงที่ว่า เวลานี้ในโลกธุรกิจกำลังเริ่มต้นขีดเขียนกติกาใหม่ ๆ นั่นคือ ทุก ๆ บริษัทจะต้อง Move on ไปสู่ ESG หรือสรุปง่าย ๆ คือบริษัทจะต้องดำเนินธุรกิจที่ต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม, สังคม และความโปร่งใส เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค จนถึงคู่ค้าทั้งในประเทศและในระดับโลก ทำให้การบริหารจัดการอาคารด้วยแนวคิด ESG จึงเกิดขึ้น 
โดยทางผู้บริหารได้แบ่งออกเป็น 2 เรื่องหลัก ๆ
1. นอกอาคาร : เมื่อทุก ๆ รายละเอียดในการบริหารจัดการอาคาร บริษัทจะเป็นมิตรกับชุมชน
เช่น การกำจัดขยะและของเสียที่นอกจากเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็ยังเป็นมิตรกับชุมชน
2. ในอาคาร : มีการนำเสนอนโยบาย ESG ให้แก่เจ้าของอาคาร พร้อมกับมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ
เช่น มีเทคโนโลยี AI มาตรวจจับการใช้งานเครื่องปรับอากาศ ว่าเหมาะสมกับอุณหภูมิ ณ เวลานี้หรือไม่ เพื่อประหยัดค่าไฟ ซึ่งถือเป็นต้นทุนการบริหารอาคารที่สูงถึง 50% เลยทีเดียว  
โดยทุก ๆ กระบวนการเหล่านี้จะต้องไม่กระทบกับการใช้งานของคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในอาคาร อีกทั้งทุกขั้นตอนดำเนินงาน จะต้องมีความโปร่งใส่สามารถตรวจสอบได้
จะเห็นว่าทุก ๆ การบริหารอาคารของ พลัสฯ มีครบทุกองค์ประกอบหลักของ ESG 
อย่างไรก็ตาม วิธีการทำงานของ พลัสฯ จะยึดหลัก ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการนำนโยบายเจ้าของอาคารมาเป็น “ตัวตั้ง” จากนั้นจะมีทีมงานมาช่วยต่อยอดโซลูชันต่าง ๆ ในการพัฒนา และบริหารอาคารให้เกิดประโยชน์สูงสุด 
ฟังดูเหมือนง่าย แต่เรื่องนี้มันยากมากเลยทีเดียว เมื่อในแต่ละอาคารจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เช่น โรงพยาบาล ที่มีคนเข้ามาใช้บริหารในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก คอมมิวนิตีมอลล์ ที่มีการจัดงานกิจกรรมบันเทิงมากมาย 
“ทำให้การบริหารมันต้องมีความหลากหลาย ยืดหยุ่น และต้องมีประสบการณ์ เพื่อตอบโจทย์อาคารที่ทำธุรกิจนั้น ๆ ที่แตกต่างกันออกไป”
“ข้อได้เปรียบของเรา คือ อยู่ในธุรกิจนี้มานานเกือบ 30 ปี ทำให้มีฐานข้อมูล และรูปแบบการทำงานเชิงลึกหลายด้าน จากนั้นเราก็นำข้อมูลมาวางแผนและออกแบบ เพื่อแก้ปัญหาให้แต่ละอาคารที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เราเป็นบริษัทไทยรายเดียวในธุรกิจนี้ที่เขียนซอฟต์แวร์ขึ้นมาเอง ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่มาใช้บริการในแต่ละอาคาร”
โดยทีมผู้บริหารยังเล่าต่อว่า คู่แข่งในธุรกิจนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือ “ตัวเอง” เมื่อยังมีอีกหลายอาคารในเมืองไทย เลือกที่จะบริหารจัดการอาคารด้วยตัวเอง
ทำให้ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เลือกที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อย ๆ อย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อให้เจ้าของอาคารทั่วประเทศได้เห็นว่า หากให้ พลัสฯ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญสูงในด้านนี้ เข้ามาบริหารจัดการอาคาร มันคือการลงทุนที่คุ้มค่า กว่าการบริหารอาคารด้วยตัวเอง
เหตุผลนี้เองที่ทำในแผนธุรกิจในอนาคตของพลัสฯ ที่จะลงทุนในเทคโนโลยี เพื่ออัปเกรดการบริหารจัดการอาคาร ที่นอกจากจะช่วยลดต้นทุนแล้วนั้น ก็ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้อาคาร จนถึงเพิ่มมูลค่าของตัวอาคารนั้น ๆ 
ส่วนอีกเรื่องที่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ESG ที่ไม่ใช่แค่ เทรนด์ แต่คือสิ่งที่ทุกบริษัททั่วโลกต้อง Move on
เพราะบริษัทแห่งนี้ ไม่ได้จำกัดความแค่คำว่า “ลูกค้า” แต่คือหุ้นส่วนทางธุรกิจ ที่พร้อมจะเติบโตไปพร้อม ๆ กับทุกอาคาร และทุกธุรกิจในประเทศไทย
สนใจบริการสามารถ โทร.02-688-7555 หรือ https://bit.ly/3wqP3Rw
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.