100 ปี ยาหม่องตราเสือ ก่อตั้งโดยคนจีน ปั้นแบรนด์ที่พม่า แต่สุดท้ายเป็นของฝากยอดฮิตจากเมืองไทย
12 ม.ค. 2024
Tiger Balm x BrandCase
ถ้าถามว่า อะไรคือของฝากยอดฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทย
หนึ่งในนั้น ต้องมีชื่อของ ยาหม่องตราเสือ หรือ ไทเกอร์ บาล์ม (Tiger Balm)
หนึ่งในนั้น ต้องมีชื่อของ ยาหม่องตราเสือ หรือ ไทเกอร์ บาล์ม (Tiger Balm)
เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งเป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ หลังจากซีรีส์เกาหลีเรื่อง King The Land ออนแอร์
เพราะของฝากจากเมืองไทยที่พระเอก-นางเอก เลือกซื้อกลับไปฝากครอบครัวและเพื่อน ๆ คือ “ยาหม่องตราเสือ”
ซึ่งมีสรรพคุณเลื่องชื่อ ช่วยบรรเทาอาการปวดเส้น ปวดเอ็นได้เป็นอย่างดี แถมยังใช้ได้ทุกเพศทุกวัย
ซึ่งมีสรรพคุณเลื่องชื่อ ช่วยบรรเทาอาการปวดเส้น ปวดเอ็นได้เป็นอย่างดี แถมยังใช้ได้ทุกเพศทุกวัย
ทำไมยาหม่องตราเสือ ถึงขึ้นแท่นเป็นของฝากยอดฮิตจากเมืองไทย
ที่สำคัญ ยาหม่องตราเสือ มีที่มาอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ยาหม่องตราเสือ ไม่ใช่แบรนด์ของคนไทย
แต่ก่อตั้งโดยแพทย์สมุนไพรประจำราชสำนักขององค์พระจักรพรรดิจีน ที่ชื่อว่า โอ ชู กิง หรือ หู่ จื่อ ซิน
ที่สำคัญ ยาหม่องตราเสือ มีที่มาอย่างไร ?
BrandCase สรุปให้ แบบเข้าใจง่าย ๆ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ยาหม่องตราเสือ ไม่ใช่แบรนด์ของคนไทย
แต่ก่อตั้งโดยแพทย์สมุนไพรประจำราชสำนักขององค์พระจักรพรรดิจีน ที่ชื่อว่า โอ ชู กิง หรือ หู่ จื่อ ซิน
เพื่อหนีภัยสงครามกลางเมืองภายในประเทศ และความอดอยากสมัยกบฏไท่ผิง
ในช่วงปี 1850 โอ ชู กิง ตัดสินใจอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ประเทศพม่า
ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้อาณัติของอังกฤษ
ในช่วงปี 1850 โอ ชู กิง ตัดสินใจอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ประเทศพม่า
ซึ่งขณะนั้นอยู่ภายใต้อาณัติของอังกฤษ
เขาได้นำความรู้จากการเป็นแพทย์ในราชสำนัก มาพัฒนายาหม่อง
เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดเมื่อยล้าของร่างกาย
และเปิดร้านเวชภัณฑ์เล็ก ๆ ในเมืองย่างกุ้ง ชื่อว่า อัง เอิน ตง
เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดเมื่อยล้าของร่างกาย
และเปิดร้านเวชภัณฑ์เล็ก ๆ ในเมืองย่างกุ้ง ชื่อว่า อัง เอิน ตง
ต่อมาเมื่อโอ ชู กิง ถึงแก่กรรม บุตรชายทั้งสอง คือ โอว บุ้น โฮ้ว (แปลว่า เสือลายพาดกลอน)
และ โอว บุ้น ป่า (แปลว่า เสือดาว) จึงเข้ามารับช่วงต่อกิจการ และได้ร่วมกันตั้งบริษัทในชื่อ โฮ้ว ป่า
และ โอว บุ้น ป่า (แปลว่า เสือดาว) จึงเข้ามารับช่วงต่อกิจการ และได้ร่วมกันตั้งบริษัทในชื่อ โฮ้ว ป่า
ภายหลังเมื่อพม่าอยู่ภายใต้การปกครองของนายพลเนวิน
พ่อค้าและนักธุรกิจในประเทศพม่าต่างถูกขูดรีด จนต้องพากันอพยพ ย้ายถิ่น
พ่อค้าและนักธุรกิจในประเทศพม่าต่างถูกขูดรีด จนต้องพากันอพยพ ย้ายถิ่น
โอว บุ้น โฮ้ว และ โอว บุ้น ป่า จึงตัดสินใจย้ายบริษัทมาที่ประเทศไทย
เพื่อต่อยอดธุรกิจยาหม่อง จนกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย และในกลุ่มคนไทยเอง ในชื่อ ยาหม่องตราเสือ
เพื่อต่อยอดธุรกิจยาหม่อง จนกลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ทั้งในกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ย้ายมาอยู่ในประเทศไทย และในกลุ่มคนไทยเอง ในชื่อ ยาหม่องตราเสือ
ด้วยคุณภาพของสินค้าที่ยืนหนึ่ง การันตีคุณภาพ เพราะเป็นสูตรที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อองค์จักรพรรดิจีน
บวกกับวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลของสองพี่น้องตระกูลโอว ทำให้ยาหม่องตราเสือ ค่อย ๆ เติบโต และขยายกิจการ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
บวกกับวิสัยทัศน์ที่มองการณ์ไกลของสองพี่น้องตระกูลโอว ทำให้ยาหม่องตราเสือ ค่อย ๆ เติบโต และขยายกิจการ เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
ก่อนจะย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ประเทศสิงคโปร์ ในชื่อ Tiger Balm และกลายเป็นที่จดจำในฐานะผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดชั้นนำของโลก
ที่มีสโลแกนเด็ด ๆ มากมาย ที่สื่อถึงจุดแข็งของยาหม่องตราเสือ เช่น "ให้พี่เสือดูแล", "มีพี่เสือไว้อุ่นใจกว่า"
หรือ “วันนี้คุณลืมเรื่องราวของพี่เสือไปแล้วหรือยัง ?”
หรือ “วันนี้คุณลืมเรื่องราวของพี่เสือไปแล้วหรือยัง ?”
มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่าอะไรทำให้แบรนด์ยาหม่องตราเสือ ยืนหยัดมาได้ถึง 100 ปี
แถมยังวางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
แถมยังวางจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
แน่นอนว่าจุดแข็งสำคัญของแบรนด์ที่ยากจะลอกเลียนแบบ คือ สูตรที่ใช้ในการผลิตยาหม่องตราเสือ
เป็นสูตรเดียวกับที่ใช้กับคนในราชสำนักของจีน และยังใช้สรรพคุณจากสมุนไพรเพื่อการบรรเทา แทนที่จะเป็นสารเคมี ทำให้ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
ซึ่งสูตรที่อายุ 100 ปี คือยาหม่องตราเสือสูตรสีแดง มีส่วนประกอบของน้ำมันอบเชย
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด จึงเหมาะกับคนที่ต้องการทาเพื่อนวดบรรเทาปวดนั่นเอง
เป็นสูตรเดียวกับที่ใช้กับคนในราชสำนักของจีน และยังใช้สรรพคุณจากสมุนไพรเพื่อการบรรเทา แทนที่จะเป็นสารเคมี ทำให้ไม่มีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือเป็นอันตรายต่อผู้ใช้
ซึ่งสูตรที่อายุ 100 ปี คือยาหม่องตราเสือสูตรสีแดง มีส่วนประกอบของน้ำมันอบเชย
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด จึงเหมาะกับคนที่ต้องการทาเพื่อนวดบรรเทาปวดนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยยูคาลิปตัสในยาหม่องตราเสือสูตร HR (สีขาว)
ทำให้ทุกคนที่ใช้ นอกจากจะบรรเทาอาการปวดศรีษะ ปวดเมื่อย หรือแมลงกัดต่อย รู้สึกยิ่งผ่อนคลายมากขึ้น
ทำให้ทุกคนที่ใช้ นอกจากจะบรรเทาอาการปวดศรีษะ ปวดเมื่อย หรือแมลงกัดต่อย รู้สึกยิ่งผ่อนคลายมากขึ้น
ที่สำคัญ ตลอด 100 ปีที่ผ่านมา ยาหม่องตราเสือได้มีการผสมผสานความรู้ทางแพทย์แผนโบราณ และวิทยาการสมัยใหม่เข้าด้วยกัน
เพื่อพัฒนาเป็นสูตรต่าง ๆ ให้ร่วมสมัย และตอบโจทย์ทุกคนได้ทั่วโลก
เพื่อพัฒนาเป็นสูตรต่าง ๆ ให้ร่วมสมัย และตอบโจทย์ทุกคนได้ทั่วโลก
จะเห็นว่า จากจุดเริ่มต้นที่ยาหม่องตราเสือ มีการพัฒนาจากสูตรเดียว เป็นยาครอบจักรวาล ในการบรรเทาสารพัดอาการ
ปัจจุบัน ยาหม่องตราเสือ มีการพัฒนาสูตร เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการที่เฉพาะ ของสมาชิกทุกคนในครอบครัว ซึ่งปัจจุบันมีถึง 3 สูตร ด้วยกันให้ผู้บริโภคเลือกใช้
- ยาหม่องตราเสือ (กล่องสีแดง) สูตรร้อนแบบดั้งเดิม ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ และยังช่วยบรรเทาอาการคัน เนื่องจากแมลงกัดต่อย
- ยาหม่องตราเสือ HR (กล่องสีขาว) สูตรคลาสสิก ซึ่งหลายคนคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมอักเสบ เนื่องจากแมลงสัตว์กัดต่อย ปวดศีรษะ เพียงแค่ทาเบา ๆ บริเวณขมับ
- ยาหม่องตราเสือ Soft (กล่องสีเหลือง) เนื้อนุ่มเบา มีกลิ่นหอมลาเวนเดอร์ เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ชอบความผ่อนคลาย
ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ทั้งในเด็ก 2 ขวบขึ้นไป และผู้ใหญ่
ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ทั้งในเด็ก 2 ขวบขึ้นไป และผู้ใหญ่
อีกหนึ่งจุดเด่นที่เป็นซิกเนเชอร์ของแบรนด์ คือ ดิไซน์ "กระปุกหกเหลี่ยม" ที่ไม่เหมือนใคร
ซึ่งมาจากความตั้งใจของสองพี่น้องตระกูลโอว ที่มองว่า ทรงหกเหลี่ยม ไม่เพียงมีความหมายมงคล ยังตอบโจทย์การใช้งาน จับง่าย ถนัดมือ ไม่ลื่น และป้องกันการลอกเลียนแบบอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ..
รู้หรือไม่ว่า ? เหตุผลที่ยาหม่องใช้เสือ เป็นโลโก
เพราะมาจากชื่อของคุณ โอว บุ้น โฮ้ว ซึ่งในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่า เสือ
เพราะมาจากชื่อของคุณ โอว บุ้น โฮ้ว ซึ่งในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่า เสือ
ขณะเดียวกัน ด้วยท่าทางของเสือที่ทะยานไปข้างหน้า เป็นการสื่อถึงแบรนด์ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้า เพื่อตีตลาดโลกอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ คือ เรื่องราวการเดินทางตลอด 100 ปี ของแบรนด์ยาหม่องตราเสือ
ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่ยาวนานพอจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า คุณภาพและความมุ่งมั่นในการพัฒนาสินค้าคือ หัวใจหลักที่ทำให้แบรนด์สามารถยืนหยัด และครองใจคนทุกเจน
เชื่อเลยว่า จากนี้ไปอีกร้อยปี
เสือตัวนี้ ก็ยังพร้อมทะยานต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน..
เสือตัวนี้ ก็ยังพร้อมทะยานต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน..
Tag:ยาหม่องตราเสือ