Taipei 101 ตึกสูงสุดในไต้หวัน มีบริษัทญี่ปุ่น ร่วมเป็นเจ้าของ

Taipei 101 ตึกสูงสุดในไต้หวัน มีบริษัทญี่ปุ่น ร่วมเป็นเจ้าของ | BrandCase

หากใครเคยไปเที่ยวไต้หวัน หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญที่ต้องไป คงหนีไม่พ้น ตึก Taipei 101
ตึก Taipei 101 ยังเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก ในช่วงระหว่างปี 2004 ถึงปี 2010 ก่อนที่ตึก Burj Khalifa ในดูไบ จะมาทำลายสถิตินี้

แต่เรื่องที่หลายคนไม่รู้คือ บริษัทที่เป็นเจ้าของตึกนี้ มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เป็นบริษัทจากญี่ปุ่น

แล้วตึก Taipei 101 แห่งนี้ มีที่มาที่ไป อย่างไร ?
แล้วใครเป็นเจ้าของตึกแห่งนี้ ?
BrandCase จะสรุปให้อ่านกัน แบบเข้าใจง่าย ๆ

จุดเริ่มต้นของตึก Taipei 101 เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณปลายทศวรรษ 1990

เป็นช่วงหลังจากที่บริษัทเอกชนในไต้หวันจำนวนมาก ได้รับใบอนุญาตให้ลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่
รวมถึงการผันตัวจากการเป็นฐานการผลิต ไปสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าเทคโนโลยี

ตัวอย่างก็คือ บริษัทชิปยักษ์ใหญ่อย่าง TSMC ที่ถูกก่อตั้งขึ้นในช่วงเวลานั้น

ทำให้เศรษฐกิจของไต้หวันหลังจากนั้น เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยหากเราลองมาดู ตัวเลขขนาดเศรษฐกิจของไต้หวันในช่วงเวลานั้น จะพบว่า

-ปี 1987 GDP ของไต้หวัน อยู่ที่ 3.65 ล้านล้านบาท

-ปี 1997 GDP ของไต้หวัน อยู่ที่ 10.5 ล้านล้านบาท

คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 11.2% ต่อปี

เรียกได้ว่า เศรษฐกิจของไต้หวัน ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
จนถูกจัดให้อยู่ใน “สี่เสือเศรษฐกิจของเอเชีย” ที่เป็นการจัดกลุ่มดาวรุ่งทางเศรษฐกิจของทวีปเอเชียในเวลานั้น

และแน่นอนว่า หนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จทางเศรษฐกิจ ของมหานครสำคัญทั่วโลก ก็คือ “ตึกสูง”

ไม่ว่าจะเป็นตึก Empire State Building, ตึก World Trade Center ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา,

ตึกแฝด Petronas ที่ประเทศมาเลเซีย รวมไปถึงตึก Burj Khalifa ที่ดูไบ

ตึกเหล่านี้ ล้วนถูกสร้างขึ้นหลังจากเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ เติบโตมาถึงจุดพีก

ในตอนนั้น รัฐบาลไต้หวันจึงได้เปิดประมูลสิทธิ์ในการพัฒนาและทำธุรกิจ บนพื้นที่ในย่าน Xinyi ของเมือง Taipei

ซึ่งบริษัท Taipei Financial Center Corporation ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของผู้ประกอบการธนาคาร และบริษัทประกันหลายแห่ง เป็นผู้ชนะการประมูลในครั้งนั้น

ในปี 1999 การก่อสร้างตึกได้เริ่มขึ้น และใช้ระยะเวลาเกือบ 5 ปีเต็ม
ตึก Taipei 101 ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ในตอนแรก ตึกแห่งนี้ถูกตั้งชื่อไว้ว่า Taipei World Financial Center แต่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Taipei 101 ในภายหลัง

โดยลักษณะของตึก Taipei 101 จะเป็นตึกที่มีทั้งหมด 101 ชั้น ความสูงรวม 508 เมตร ซึ่งในตอนนั้นถือว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก
และต้นทุนที่ใช้ในการสร้างตึกแห่งนี้ทั้งหมด ก็คิดเป็นจำนวนเงินสูงถึง 66,000 ล้านบาท

ก่อนที่ตึก Burj Khalifa ในดูไบ จะมาทำลายสถิตินี้ในปี 2010

หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมตึกแห่งนี้ถึงใช้เงินมากมายขนาดนี้ ?

นั่นก็เป็นเพราะว่า ตึก Taipei 101 นั้น ได้รวบรวมเอาเทคโนโลยีขั้นสูงมาใส่ไว้ในตึก
มากเป็นอันดับต้น ๆ ของไต้หวันในเวลานั้น

ไม่ว่าจะเป็นระบบลิฟต์ความเร็วสูง ที่สามารถ
วิ่งจากชั้น 1 ไปยังชั้น 89 ภายในระยะเวลา 37 วินาที

หรือลูกตุ้มยักษ์ ที่ถูกแขวนไว้ที่ระหว่างชั้น 87 ถึงชั้น 92
ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวถ่วงน้ำหนัก ในกรณีที่ตัวตึกต้องเจอกับแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่น หรือแผ่นดินไหว ซึ่งมักจะเกิดขึ้นบ่อยในไต้หวัน

ส่วนพื้นที่ภายในตัวอาคาร จะถูกแบ่งออกเป็น

-ชั้นใต้ดิน - ชั้น 6 เป็นศูนย์การค้า

-ชั้น 7 - ชั้น 84 เป็นอาคารสำนักงาน

-ชั้น 85 - ชั้น 86 เป็น Sky Dining หรือร้านอาหารที่อยู่บนตึกสูง

-ชั้น 88 - ชั้น 101 ห้องจัดแสดง, ดาดฟ้า, จุดชมวิว

โดยมูลค่าของพื้นที่ในโซนออฟฟิศของตึกแห่งนี้ ถูกประเมินไว้อยู่ที่ 2.24 ล้านบาท ต่อตารางเมตร

และมี Occupancy Rate หรืออัตราการเช่าพื้นที่ภายในตึก Taipei 101 สูงถึง 96%

นั่นหมายความว่า พื้นที่ในตึก Taipei 101 ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองไทเปนี้ ถือเป็นที่ต้องการอย่างมากเลยทีเดียว

คำถามสำคัญคือ ตอนนี้ใครคือเจ้าของตึก Taipei 101 ?

หากอิงตามข้อมูลล่าสุด จากเว็บไซต์ของบริษัท

ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท Taipei Financial Center Corporation จะมีทั้งหมด 5 บริษัทด้วยกัน
โดย 4 จาก 5 บริษัท เป็นบริษัทจากไต้หวันทั้งหมด

-Chunghwa Telecom ผู้ให้บริการคมนาคมใหญ่สุดในไต้หวัน

-Taiwan Stock Exchange หรือตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน

-Mega Holdings บริษัทจัดการการลงทุนแห่งหนึ่ง

-CTBC Holdings บริษัทโฮลดิงที่ดำเนินธุรกิจด้านการเงิน ผ่านบริษัทลูก

ที่น่าสนใจคือ บริษัทที่ 5 ซึ่งมีสัดส่วนหุ้นมากถึง 37%
คือ บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ที่ชื่อ “ITOCHU Corporation”

มาถึงตรงนี้ หลายคนที่เป็นนักลงทุนน่าจะคุ้น ๆ กับชื่อของบริษัท ITOCHU

นั่นก็เป็นเพราะว่า
ปัจจุบันหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ITOCHU ก็คือ Berkshire Hathaway ของคุณปู่วอร์เรน บัฟเฟตต์ นั่นเอง..

References
-https://www.statista.com/statistics/727589/gross-domestic-product-gdp-in-taiwan/
-https://www.taipei-101.com.tw/en/
-https://www.skyscrapercenter.com/company/542
-https://asia.nikkei.com/Business/Business-deals/Japan-s-Itochu-tosses-stake-in-Chinese-food-giant
-https://en.wikipedia.org/wiki/Taipei_101
-https://www.taipeitimes.com/News/biz/archives/2022/12/17/2003790844
-https://www.taipeitimes.com/News/biz/archives/2021/03/15/2003753833
-https://www.businessinsider.com/taipei-101-worlds-most-expensive-building-2012-1
-https://www.taipei-101.com.tw/en/explore/floor
-https://www.taipei-101.com.tw/en/corporate/about/shareholder