
L’Oréal วันแรกขาย ยาย้อมสีผม วันนี้เป็นบริษัทความงาม ใหญ่สุดในโลก
18 พ.ค. 2023
L’Oréal วันแรกขาย ยาย้อมสีผม วันนี้เป็นบริษัทความงาม ใหญ่สุดในโลก | BrandCase
Garnier, Maybelline, Lancôme, BIOTHERM, VICHY, CeraVe ชื่อที่เอ่ยมาเหล่านี้คือตัวอย่างแบรนด์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ L’Oréal เป็นเจ้าของ
Garnier, Maybelline, Lancôme, BIOTHERM, VICHY, CeraVe ชื่อที่เอ่ยมาเหล่านี้คือตัวอย่างแบรนด์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ L’Oréal เป็นเจ้าของ
L’Oréal ในวันนี้ คือบริษัทความงาม ที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งรู้ไหมว่าในวันแรก บริษัทนี้เริ่มต้นมาจากการขาย ยาย้อมสีผม
ซึ่งรู้ไหมว่าในวันแรก บริษัทนี้เริ่มต้นมาจากการขาย ยาย้อมสีผม
แล้ว L’Oréal มีที่มาที่ไปอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
BrandCase จะสรุปให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
จุดเริ่มต้นของ L’Oréal เริ่มต้นในปี 1909 จากนักเคมีชื่อ คุณ Eugène Schueller ที่วันหนึ่ง ได้รับคำขอจากช่างทำผมในปารีส ให้ช่วยผลิตน้ำยาย้อมสีผมขึ้นมา
คือต้องบอกว่า เมื่อ 100 กว่าปีก่อนนั้น การย้อมสีผมยังไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก เพราะน้ำยาย้อมสีผม มักจะมีสารพิษปะปนอยู่
คุณ Eugène ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่ถึง 2 ปีเต็ม กว่าจะได้น้ำยาย้อมสีผมที่เป็นที่พอใจ
ก่อนจะตั้งบริษัทเล็ก ๆ ขึ้นมาในอะพาร์ตเมนต์
โดยใช้พื้นที่ครัวเป็นทั้งห้องโชว์และทดลองสินค้า ส่วนพื้นที่ห้องนอนใช้เป็นห้องแล็บสำหรับผลิตน้ำยาย้อมสีผม
โดยใช้พื้นที่ครัวเป็นทั้งห้องโชว์และทดลองสินค้า ส่วนพื้นที่ห้องนอนใช้เป็นห้องแล็บสำหรับผลิตน้ำยาย้อมสีผม
โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า “L’Oréal”
ซึ่งก็มาจากคำว่า Oreos ที่ในภาษากรีกโบราณ แปลว่า “ความสวยงาม”
ซึ่งก็มาจากคำว่า Oreos ที่ในภาษากรีกโบราณ แปลว่า “ความสวยงาม”
น้ำยาย้อมสีผมของ L’Oréal ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากช่างทำผมในปารีส และใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็สามารถกระจายสินค้าไปยังหลาย ๆ ประเทศในโซนยุโรปได้
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญของ L’Oréal เกิดขึ้นจริง ๆ ในปี 1957
เมื่อผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Eugène เสียชีวิตลง และคุณ François Dalle หัวหน้าฝ่าย Marketing ขึ้นมาเป็น CEO แทน
ซึ่งคุณ François คนนี้เองที่ทำให้ L’Oréal กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างในปัจจุบัน
ซึ่งคุณ François คนนี้เองที่ทำให้ L’Oréal กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างในปัจจุบัน
โดยเริ่มตั้งแต่การเปลี่ยนที่วางขายสินค้าของ L’Oréal จากที่สมัยก่อนจะขายแค่ในร้านทำผมและร้านขายยา มาวางในร้านค้าปลีกมากขึ้น
ก่อนที่จะเริ่มส่งออกสินค้าไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก พร้อมกับการเข้าซื้อบริษัทเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ
เช่น เข้าซื้อ Garnier และ Lancôme ในปี 1967, BIOTHERM ในปี 1971, Maybelline ในปี 1996
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เข้าซื้อ CeraVe ในปี 2017, เข้าซื้อบริษัทแม่ของเครื่องสำอาง 3CE ในปี 2018 และ เข้าซื้อแบรนด์ Aesop ในปีนี้
แล้ว L’Oréal ตอนนี้ใหญ่ขนาดไหน ?
ปัจจุบัน L’Oréal มีมูลค่าบริษัทประมาณ 8,300,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นบริษัทเครื่องสำอางและความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีมูลค่าบริษัทใหญ่เป็นอันดับ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศส
เป็นรองเพียงแค่ LVMH อาณาจักรแบรนด์เนมที่ใหญ่สุดในโลก เท่านั้น..
เป็นรองเพียงแค่ LVMH อาณาจักรแบรนด์เนมที่ใหญ่สุดในโลก เท่านั้น..
ปี 2022 ที่ผ่านมา L’Oréal มีรายได้ 1,419,170 ล้านบาท ซึ่งมีที่มาจาก 4 ธุรกิจหลัก คือ
1.L'Oréal Luxe 38.3%
ประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น Lancôme, Giorgio Armani, Yves Saint Laurent, BIOTHERM, Diesel, PRADA
ประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น Lancôme, Giorgio Armani, Yves Saint Laurent, BIOTHERM, Diesel, PRADA
2.Consumer Products 36.7%
ประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น Garnier, Maybelline, NYX, 3CE
ประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น Garnier, Maybelline, NYX, 3CE
3.Active Cosmetics 13.3%
ประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น La Roche-Posay, VICHY, CeraVe
ประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น La Roche-Posay, VICHY, CeraVe
4.Professional Products 11.7%
ซึ่งประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น L'Oréal Paris, Kerastase, MATRIX
ซึ่งประกอบไปด้วยแบรนด์ เช่น L'Oréal Paris, Kerastase, MATRIX
อ่านมาถึงตรงนี้ก็จะพบว่า จุดเริ่มต้นของอาณาจักร L'Oréal นั้นเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำน้ำยาย้อมสีผมเป็นหลัก
แต่ด้วยกลยุทธ์เข้าซื้อแบรนด์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เรื่อยมานี้เอง
ที่ผลักดันให้ L'Oréal กลายเป็นบริษัทความงาม ใหญ่สุดในโลก อย่างในปัจจุบัน..
References
-https://www.businessofbusiness.com/articles/history-of-loreal-far-right-cosmetics/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Fran%C3%A7ois_Dalle
-https://companiesmarketcap.com/cosmetics/largest-companies-by-market-cap/
-https://companiesmarketcap.com/france/largest-companies-in-france-by-market-cap/
-https://www.loreal.com/en/group/culture-and-heritage/
-https://www.loreal.com/th-th/thailand/pages/group/strategy-and-model-th/
-https://www.loreal.com/en/our-global-brands-portfolio/
-https://www.statista.com/statistics/271772/loreal-sa-worldwide-revenue-by-division/
-https://www.loreal-finance.com/eng/news-release/2022-annual-results
-https://www.businessofbusiness.com/articles/history-of-loreal-far-right-cosmetics/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Fran%C3%A7ois_Dalle
-https://companiesmarketcap.com/cosmetics/largest-companies-by-market-cap/
-https://companiesmarketcap.com/france/largest-companies-in-france-by-market-cap/
-https://www.loreal.com/en/group/culture-and-heritage/
-https://www.loreal.com/th-th/thailand/pages/group/strategy-and-model-th/
-https://www.loreal.com/en/our-global-brands-portfolio/
-https://www.statista.com/statistics/271772/loreal-sa-worldwide-revenue-by-division/
-https://www.loreal-finance.com/eng/news-release/2022-annual-results
Tag:L’Oréal